500 Days of Summer บอกเราให้ฟังเสียงหัวใจและความรู้สึกของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะ“ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า คนที่อยู่ข้างๆ อาจจะไม่ใช่สำหรับเราแล้วก็ได้”
เหมือนซัมเมอร์ที่บอกกับทอมว่า “ฉันแค่ตื่นมาในเช้าวันหนึ่ง และฉันก็รู้ว่าฉันไม่เคยแน่ใจเลยเวลาที่อยู่กับคุณ”
เพราะสุดท้ายแล้วความรู้สึกเป็นเรื่องไม่แน่นอนจริงๆ
มีไดอะล็อกนึงในเรื่อง 500 Days of Summer ที่เราดูกี่รอบก็ชอบมากๆ เป็นฉากช่วงท้ายเรื่องตอนที่ซัมเมอร์คุยกับทอมหลังจากที่ซัมเมอร์กำลังจะแต่งงาน
ประโยคที่ซัมเมอร์พูดกับทอม ฟังแล้วดูเหมือนเป็นคนใจร้ายนะ แต่ลองคิดดูอีกที ความรู้สึกมันก็แค่นี้แหละ ไอความความรู้สึกที่ตื่นเช้ามา คนที่เราอินมากๆ ด้วยกันอยู่เมื่อคืน อยู่ด้วยกันรักกันมาตลอด คนนั้นกลับไม่ใช่สำหรับเราอีกต่อไปแล้ว เราเชื่อว่าสาเหตุของความสัมพันธ์ที่ต้องจบลง อาจะเป็นเพราะแบบนี้ก็ได้ เมื่อถึงเวลาที่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรู้สึกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หรือไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว มันก็น่าใจหาย แต่ก็ต้องยอมรับมัน
สิ่งที่เราชอบมากๆ ในตัวละครซัมเมอร์ คือเธอยอมรับและฟังเสียงหัวใจตัวเองได้ดีที่สุด เธอทำทุกอย่างตามที่เธอรู้สึก ในตอนที่เธออินกับทอม เธอก็ใช้เวลาทั้งหมดอยู่กับเขา อยากทำอะไรก็ก็ทำเดี๋ยวนั้นเลย จนวันที่เธอตื่นขึ้นมาตอนเช้า และรู้สึกว่าทอมไม่ใช่ผู้ชายที่ใช่ เธอก็พร้อมเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่เปลี่ยนไป และพาตัวเองเดินออกมา หลายคนอาจมองว่าซีมเมอร์เป็นตัวละครที่ใจร้าย เห็นแก่ตัว ไม่แคร์ความรู้สึกของอีกฝ่ายเลย แต่เรากลับมองว่าซัมเมอร์รักตัวเอง และซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองนะ
เสน่ห์ของเรื่องนี้คือการที่คนดูสามารถรีเลทกับตัวละครได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องจินตนาการตามอะไรให้มากมาย และความพิเศษอีกอย่างคือ ความรู้สึกที่กลับมาดู เราอาจจะอินกับทอม หรือซัมเมอร์ก็ได้ เพราะบทมันเรียลมาก ความสัมพันธ์ของคนเราก็แบบนั้นเลย ไม่ได้หวือหวาอะไร เวลาจบก็จบแบบงงๆ แบบนี้แหละ ทุกครั้งที่ดูจบมันจะมีความรู้สึกที่ทำให้ได้นั่งคิดกับตัวเองว่า คนที่อยู่ข้างๆ เราตอนนี้ เรารู้สึกยังไงกับเขาอยู่ ตื่นมาแล้วความรู้สึกที่มีให้เขามันจะหายไปไหม
พอดูเรื่องนี้ก็ไม่แปลกใจนะ ที่หลายคู่เลิกกันแบบดื้อๆ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะการหมดรักมันเป็นแบบนี้แหละ เวลาที่ได้ยินคนเลิกกันด้วยเหตุผลที่ว่า “ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว” ไม่ใช่ข้ออ้างหรอก แต่มันรู้สึกแบบนี้ได้จริงๆ ความรู้สึกคนเราเปลี่ยนไปได้เสมอ ถามว่าน่ากลัวไหมมันก็น่ากลัวนะ เพราะไม่มีอะไรที่แน่นอนเลย และก็ไม่รู้ด้วยว่าการหมดความรู้สึกแบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อไหร่ด้วย เพราะฉะนั้น ทำทุกอย่างให้ดีตอนที่ยังรู้สึกเถอะ ทำสิ่งที่อยากทำ รักคนที่อยากรัก ดีกว่าเสียดายทีหลังตอนที่ความรู้สึกมันหมดไปแล้ว เพราะถึงตอนนั้น ถ้าทุกอย่างมันจบลงจริงๆ อย่างน้อยก็ไม่มีอะไรให้เสียดายนะ
อ่านต่อได้ ที่นี่
อ่านเรื่องราวอื่นๆ ได้ที่ CLEO Thailand และ FB > CLEO