เปิดตัว 3 ไอเท็มเมคอัพสุดเริ่ดจาก IN2IT  ที่คลีโอรักมาก

ถ้าให้พูดถึงไอเท็มเมคอัพที่ใช้ยังไงก็ไม่เบื่อ หยิบมาใช้ตอนออกงานก็สวยแพง ใช้ในวันรีบ ๆ ก็สวยเป๊ะ ใช้ตอนไหนก็ได้ลุคสวยทุกครั้ง คลีโอขอยกให้แบรนด์ IN2IT เป็นแบรนด์ขึ้นหิ้งของเมคอัพราคาน่ารักแต่คุณภาพเกินต้าน ยิ่งตอนนี้เดินทางมาถึงเทศกาล CLEO Beauty Hall of Fame 2024 คลีโอก็ไม่พลาดมอบรางวัลให้ IN2IT ไปอีกปี รอบนี้คว้ามงไปจุก ๆ 3 ชิ้น บอกเลยว่าทุกชิ้นที่ให้รางวัล คลีโอรักมากกก และอยากแชร์ต่อจริง ๆ จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย 

สนุกให้สุด ไม่หยุดเป็นตัวเอง เพิ่มความมั่นใจใต้วงแขนด้วยไอเท็มสุดเริ่ดจาก Ri en 

มีใครเป็นสายฟรีสปิริตแบบเราบ้าง จะทำอะไรก็ต้องทำให้สุด ไม่หยุดเป็นตัวเอง ลุย ๆ พร้อมทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะปาร์ตี้ ทำกิจกรรม หรือเที่ยวในแบบที่ต้องการ แต่มีอยู่หนึ่งสิ่งสำคัญที่สาว ๆ อย่างเราต้องใส่ใจเป็นพิเศษ นั่นก็คือเรื่องผิวใต้วงแขนนั่นเอง เพราะถ้าหากผิวบริเวณนั้นดำคล้ำ หรือมีกลิ่น ไม่เนียนสวย ก็อาจทำให้ความมั่นใจหรืออินเนอร์ความกล้าของเรานั้นหายไปด้วยได้เช่นกัน แต่วันนี้ คลีโอมีไอเท็มดูแลผิวใต้วงแขนจากแบรนด์ลูกรักอย่าง Ri en มาฝาก แอบกระซิบว่าเป็นไอเท็มที่เราใช้มาตลอด และก็มอบรางวัล CLEO Beauty Hall of Fame 2024 ให้ด้วยนะ เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังว่ามันเริ่ดยังไง




Love, Relationship, Women's Stories

11 years & to be continued… ความรักที่เติบโตไปด้วยกัน



พรุ่งนี้ก็จะถึงวันวาเลนไทน์แล้ว ช่วงนี้ทางคลีโอเราอินกับเรื่องความรักมากๆ เลย โดยเฉพาะความเป็น Unconditional Love เราพูดถึงเรื่องการรักตัวเองมาโดยตลอดว่าเป็นความรักที่เพียวมาก วันนี้เราเลยอยากจะพูดถึงเรื่องคู่รักกันบ้าง พอพูดถึง “ความรักแบบไม่มีเงื่อนไข” ก็เลยนึกถึงเพื่อนเราคนนึงที่คบกับแฟนมานานมาก เรียกว่าเป็น ความรักที่เติบโตไปด้วยกัน ตั้งแต่ช่วงมัธยมต้นจนถึงตอนนี้ ผ่านมา 11 ปี ซึ่งเราอยู่ในวัยทำงานกันแล้ว…ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เราเจอคนมากมาย ในขณะที่เพื่อนคนนี้ยังคบกับคนๆเดิมเสมอมา อะไรกันนะที่ทำให้คู่นี้มีความรักที่เหนียวแน่น แล้วนับวันก็ยิ่งจะรักกันมากขึ้นๆไปอีก…เราได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนของเราในเรื่องนี้วันนี้เลยอยากจะมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ มารู้จักกับ แบม และ เด่น กับความรักของพวกเขาที่เหมือนโตมาด้วยกันจริงๆ เป็น ความรักที่เติบโตไปด้วยกัน

ความรักที่เติบโตไปด้วยกัน

ซื่อตรงต่อความรัก

เล่าก่อนว่าเรากับแบมเป็นเพื่อนกันก็เลยเห็นการเติบโตของคู่นี้มาโดยตลอด บ้านของแบมเป็นร้านขายชุดนักเรียนอยู่ใกล้ รร ชายล้วน แห่งหนึ่ง ทุกๆเย็นเด่นกับเพื่อนๆจะมานั่งเล่นที่ร้านของแบม ในตอนนั้นแบมมีคนมาจีบอยู่เรื่อยๆแต่มีแค่เด่นที่ดูไม่เหมือนใคร ส่วนในฝั่งของเด่น พอเห็นแบมก็ชอบเลยและมีความมุ่งมั่นที่จะจีบคนๆนี้ ก็คุยกันมา 6 เดือนในบีบี5555 แล้วก็คบกันตอนที่แบมกำลังจะขึ้นม.2 ส่วนเด่นกำลังจะขึ้นม.3 พอดี จนตอนนี้แบมอายุ 24 ส่วนเด่น 25 แล้ว

“เด่นเป็นคนนิ่งๆแต่ตรงไปตรงมา ในวัยนี้เขาดูเป็นคนที่มุ่งมั่นในความรักมากกว่าคนอื่นๆ ไม่เคยทำให้ต้องมาคิดกับตัวเองว่า ตกลงเขาชอบเรามั้ย หรือ คิดยังไงกับเรากันแน่” – แบม

“แบมเป็นคนตลก เอ๋อๆ ชอบเล่าเรื่องซ้ำๆ เลยรู้สึกว่าคนนี้น่ารัก” – เด่น

ความรักที่ไม่มีโปรโมชั่น

“เราเป็นคนเสมอต้นเสมอปลายมาโดยตลอด ก็คบกันตามปกติไม่ได้มีโปรโมชั่นอะไร แต่ก็อาจจะมีทำเซอไพรสบ้างนิดๆหน่อยๆตามประสาเด็ก” – เด่น

“เราคบตั้งแต่ตอนเด็กๆ เลยรู้สึกว่าต่างคนเป็นอย่างที่ตัวเองอยากจะเป็น เราไม่ได้พยายามที่จะทำให้เขามาชอบเรา ไม่ได้รู้สึกว่าต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เขามารักเรา เลยไม่ได้มีโปรโมชั่นทั้งในเรื่องที่ดีและไม่ดีก็ด้วย” – แบม

ก้าวผ่านช่วงเปลี่ยนผ่าน

หนักที่สุดก็จะเป็นปีที่4-5 ช่วงเปลี่ยนผ่าน คือช่วงที่เด่นเข้ามหาลัยแล้วแบมยังอยู่มัธยม แบมรู้สึกไม่มั่นคง กลัวไปหมด กลัวสังคมใหม่ๆจะทำให้เด่นเปลี่ยนไป ช่วงนั้นก็เลยหงุดหงิดไปกับทุกๆเรื่อง ทะเลาะกันอยู่บ่อยๆ แบมใจไม่นิ่งเพราะปกติตอนเด่นเลิกเรียนก็มาเจอกันแล้วค่อยกลับบ้าน แต่พอเข้ามหาลัยกิจกรรมก็เปลี่ยนไป เด่นต้องไปรับน้อง ไปกินข้าวกับเพื่อน ไปนู่นไปนี่ แบมก็เข้าใจ แต่ลึกๆก็รู้สึกนอยด์ เครียดมากจนต้องไปคุยกับพ่อแม่…แล้วก็ได้คำตอบที่ทำให้รู้สึกปลดล็อค เข้าใจมากขึ้นว่าเรื่องแบบนี้มันห้ามไม่ได้ เลยคิดว่าปล่อยให้มันเป็นไปถ้าจะต้องเป็น

“คนเรา ถ้าเราไปปิดตาเขาแล้วให้เขาเดินไปเรื่อยๆ เขาก็เห็นแต่เราคนเดียว แล้วสุดท้ายเขาก็เลือกเรา กับอีกอย่างคือปล่อยให้เขาได้เห็นทุกคนที่เข้ามาในชีวิตแล้วให้เขาใช้ชีวิตของเขา ส่วนเราก็ใช้ชีวิตของเรา…เขาจะเห็นใครหรือเจอใคร แต่ถ้าสุดท้ายแล้วเขายังเลือกเรา แบบนี้ไม่ดีกว่าหรอ” – พ่อของแบม

เด่นรู้สึกว่าแบมงี่เง่ามากในช่วงนั้น…แต่ถ้าคิดสลับกันเด่นก็อาจจะเป็นเหมือนแบม” – เด่น

ทะเลาะกันเป็นสีสัน

เรื่องทะเลาะกันคือบ่อยมาก โดยเฉพาะตอนเด็กๆมีแต่เรื่องจุกจิกที่ทำให้ไม่เข้าใจกัน เช่น ทำไมต้องพูดแบบนี้ แต่ก็คลี่คลายไปหลายอย่างแล้ว พอโตขึ้นก็จะทะเลาะน้อยลง ถ้ามีส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องความคิด เรื่องความรับผิดชอบต่างๆ อย่างตัวแบมเองเวลามีอะไรก็จะพูดไปเลย ไม่อดกลั้น แต่เด่นจะไม่ค่อยพูด แต่สีหน้าจะออก ก็คือสุดท้ายก็ต้องพูดอยู่ดี55555 แต่คู่ของแบมกับเด่นจะลืมง่าย เวลาที่ทะเลาะกันไม่ได้เป็นคนที่จมปรักกับคำพูดก็เลยจะให้อภัยกันได้ง่ายๆ รู้สึกว่าการทะเลาะกันก็แอบดี เพราะเราเข้าใจกันมากขึ้นได้พูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการ พอได้พูดมันออกไปก็รู้สึกโล่ง รู้สึกว่าคำพูดของเรามันมีความหมาย เขารับรู้ในสิ่งที่เราต้องการ เรารับรู้ในสิ่งที่เขาต้องการสื่อเหมือนกัน

แบมก็จะบอกเด่นว่าให้เก็บแต่ใจความสำคัญก็พออย่าจำรายละเอียดมากเพราะด่าเยอะ5555″ – แบม

เด่นเองก็จะเป็นคนที่ใจเย็น แล้วก็มองว่าบางอย่างเป็นเรื่องไร้สาระก็เลยอยู่กันได้55555″ – เด่น

ต่างคนต่างมีความสุข

แต่ละคู่ไม่เหมือนกัน แต่ที่มีเหมือนกันก็คือรักกันแหละ ที่ผ่านทุกอย่างไปได้เพราะเรารักกัน แล้วเราก็สู้เพื่อเรา…อย่างบางคู่มีปัญหาคือพ่อแม่ไม่โอเคกับแฟน แต่ก็ไม่ได้ขัดพ่อแม่ไม่ได้สู้เพื่อแฟน แล้วก็ปล่อยไปแบบนั้น ก็เลยไปด้วยกันไม่ได้ แต่อย่างคู่แบมกับเด่นจะมีสเปซให้ตัวเองเยอะ ให้ความสำคัญกับสิ่งที่ตัวเองชอบ ให้ต่างคนต่างมีความสุขที่ได้อยู่กับตัวเองบ้าง ก็จะมีกำหนดว่าวันไหนเจอกันไม่เจอกัน จะมีส่วนที่ต่างกันแต่ก็ทำให้อยู่ด้วยกันได้ อย่างเด่นเป็นคนไม่ชอบอยู่บ้าน ส่วนแบมชอบอยู่บ้าน แต่ทั้งคู่ก็ยังปรับตัวเข้าหากัน ก็เจอกันก็ไปกินข้าวดูหนังด้วยกันตามปกติแต่จะไม่กินเวลานานเกินไป เวลามีอะไรก็จะมาคุยกันตรงๆ อะไรที่ชอบก็จะบอกว่าชอบ อะไรที่ไม่ชอบก็จะบอกกันเสมอ

“เราเหมือนคนเห็นแก่ตัวมาคบกันนะ แต่มันก็ไม่ได้แย่…พอตัวเราแฮปปี้กับตัวเอง พอมาอยู่ด้วยกันก็แฮปปี้” – แบม

ช่วยกันเป็นผู้นำในความสัมพันธ์

แล้วแต่เรื่อง ไม่ใช่คนใดคนหนึ่งนำในทุกๆอย่าง เช่นเด่นจะเยอะและค่อนข้างดีเทลเรื่องอาหาร แต่แบมกินไรก็ได้ไม่มีปัญหา ส่วนในเรื่องของภาพรวมแบมจะดูแล เช่นการจัดลำดับความสำคัญ ช่วยเรียงว่าทำไรสำคัญกว่า เด่นจะไม่ค่อยคิดเรื่องนี้อยากทำอะไรก็จะทำเลย แบมก็จะคอยเตือนๆช่วยเด่นคิดและตัดสินใจเรื่องต่างๆ

ลองเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกของเขา

หลักๆคือเปิดใจให้กว้างๆ เปิดใจจริงๆไม่ใช่แค่ให้ผ่านไปก่อนแต่จริงๆแล้วเราไม่ชอบในสิ่งที่เขาทำ พยายามเข้าใจกันและกัน ยอมรับกันและกัน เด่นกับแบมก็มีความชอบที่เหมือนกัน ชอบรสชาติอาหารที่คล้ายๆกัน ชอบเรื่องดูหนังเรื่อง Harry Potter ฟังเพลงก็ฟังเหมือนกัน ส่วนเรื่องความต่างก็มีอยู่แล้ว แต่ลองเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกของเขาอย่างเช่น แบมฟังเกาหลี เด่นก็เลยฟังด้วย เด่นดูการ์ตูน แบมก็ดูด้วย เด่นก็เป็นคนpassionเยอะ ชอบเล่นดนตรี เล่นกีต้าร์เก่งมาก แล้วก็ชอบรถ ชอบแข่งรถ แบมก็จะไปลากเพื่อนไปดูด้วยตอนแข่ง555 รู้สึกว่าอยู่ด้วยกันแล้วมีสีสัน เห็นเด่น enjoy แบมก็มีความสุข รู้สึกสนุกดี

“แบมชอบไปดูคอนเสิร์ตมีผู้ชายไรงี้ เด่นก็ไม่ได้ปิดกั้นว่าไปดูผู้ชายหล่อทำไม เด่นก็จะเอนจอยด้วย จะกดบัตรคอนเสิร์ต แบมเลยบอก เธอบัตรไม่เหลือให้เธอแล้วค่ะ มารับก็พอจบ5555” – แบม

“แบมก็ไม่ได้มาบังคับอะไรเด่นเหมือนกัน ด้วยความที่อยู่โรงเรียนชายล้วน ในสังคมผู้ชายที่อยู่มาคือจะไม่ค่อยเข้าใจผู้หญิง แต่เด่นอยู่กับแบมเยอะ อยู่กับเพื่อนแบมบ่อยๆเลยเข้าใจ” – เด่น

ถ้าวันนึงเราไม่รักกันแล้วให้ซื่อสัตย์ อย่าทำร้ายกันให้เราต้องจากกันไม่ดี

แบมกับเด่นจะคุยกันเสมอว่า เราจะไม่ฝืนตัวเอง จะซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองด้วย ถ้าเรามีความสุขก็รักษากันไว้ ถ้าเราไม่รักกันเราก็ต้องยอมรับ ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วมันไม่มีความสุขก็ต้องยอมรับผล ถ้าเด่นหรือแบมได้ไปเจอคนอื่น แล้วมาบอกกันตรงๆยังดีกว่ามารู้ทีหลัง… มันก็จะเศร้าแหละ แต่อาจจะดีกว่ามาหลอกกัน เพราะการที่คบกันมันประกอบไปด้วยหลายอย่าง พ่อแม่ก็รู้จักกัน สนิทกันมาก

“เรายังอยากมาเจอพ่อแม่เขาโดยที่เขาไม่ได้มีความรู้สึกเกลียดเรา” – เด่น

มองภาพเรื่องอนาคตเป็นภาพเดียวกัน

เรื่องในอนาคต เด่นกับแบมมีความเห็นที่ตรงกันอยู่แล้ว มีภาพใหญ่ที่คล้ายๆกันประมาณนึงเลย แต่รอจังหว่ะที่มันเหมาะสม อยากแต่งงานซักช่วง 30 ต้นๆ ภาพที่คิดไว้ตอนเด็กพอโตมาก็เปลี่ยนไป ด้วยความที่เป็นเด็กก็อยากแต่งงานเร็ว อยากมีลูกเร็วจะได้เป็นพ่อแม่ที่ยังหนุ่มสาว สุดท้ายประเด็นหลักก็คือเรื่องเงิน เราไม่อยากให้ครอบครัวมาออกเงินค่าจัดงานแต่งงานให้ งานเรา เราอยากจ่ายเองมากกว่า

“มาคิดๆดูถ้าเรามีเงินมากพอ เราจะอายุเยอะยังไงเราก็จะเลี้ยงลูกไม่เหนื่อย” – เด่น

อ่านเรื่องอื่น ๆ ได้ที่ CLEO Thailand และ FB > CLEO

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']