ก่อนที่คลีโอจะนัดคุยกับคุณเจี๊ยบ – กนกพร ปรัชญาเศรษฐ Country Manager แห่ง WeTV แพลตฟอร์มวีดีโอสตรีมมิ่งออนไลน์ที่อยู่ภายใต้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent ด้วยลุคสาวทำงานในฝัน เธอผมสั้น สวย เก๋ ทำให้ทีมคลีโอต้องแอบไปสืบข้อมูลว่าสไตล์การทำงานของคุณเจี๊ยบเป็นยังไง
คนรอบข้างที่เคยร่วมงานด้วยจะสรุปความเป็นเธอว่าผู้หญิงคนนี้ทำงานเก่ง ทำงานเร็ว ถ้าทำแล้วทุ่มเทแบบใส่เอเนอจี้สุดตัว การคุยครั้งนี้เราเชื่อว่าน่าจะมีคำตอบมาให้ผู้หญิงทำงานที่กำลังจะเริ่มเบิร์นเอาท์หรือถามตัวเองว่าเรากำลังมาถูกทางอยู่หรือเปล่า สุดท้ายแล้วเราต้องเก่งแค่ไหนและความสุขในการทำงานอยู่ตรงไหนกันแน่
คุณเจี๊ยบเองในวันที่เพิ่งจบจากคณะบัญชีมีความฝันที่อยากทำงานเป็น Audit อยากทำงานสายการเงิน ได้ใส่กระโปรง pencil skirt กับรองเท้าส้นสูงลากกระเป๋ามาแนวเฟียซๆ เข้าออฟฟิศการเงินสักแห่ง แต่พอวันที่ได้เข้ามาทำงานจริงๆ ก็รู้ว่าเส้นทางที่เจอไม่ใช่ตัวเองเลย คุณเจี๊ยบเปลี่ยนตัวเองไปเป็นเออีเข้าสู่ยุคดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง ฝึกฝนตัวเองจนได้เป็นเซลส์ท็อประดับประเทศเลยก็ว่าได้
“ช่วงปี 2004 เป็นยุคเออีเฟื่องฟู ลองไปเป็นเออี ดูเกี่ยวกับโมเดิร์นเทรด ทำได้ปีกว่าๆ ก็บอกแม่ว่าอยากไปเรียน digital marketing แต่ไม่อยากใช้เวลานานเลยไปเรียนที่อังกฤษ กลับมาเป็นคนทำดิจิตอลรุ่นแรกๆ เราได้อยู่ในยุค Digital Pioneer เป็นตั้งแต่ AE, AM, AD ทำอยู่ 8 ปี สนุกมาก เพราะวันนั้นสายงานนี้กำลังบูมมาก เราได้เห็นการเปลี่ยนผ่านเยอะ พอบริษัทที่ทำแข็งแรง เราได้เจอลูกค้าดีๆ ได้ทำงานกับคนเก่งๆ เป็นจุดที่ทำให้เราขยายเน็ตเวิร์ค เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย เก็บประสบการณ์ พอถึงจุดหนึ่งเราทำมีเดียมาพักใหญ่ ขั้นต่อไปเอายังไงดี วันนั้นมีโอกาสที่ช่อง 3 อยากบุกดิจิตอล ให้เราไปเป็นเซลส์ หลังจากนั้นชีวิตก็เหมือนขึ้นรถไฟเหาะเลย เพราะพอดิจิตอลโตมาสักพัก คนที่มีความซีเนียร์ก็หาค่อนข้างยากขึ้น”
เธอคือคนบุกเบิกแพลตฟอร์มดังๆ อีกมากมาย
อีกก้าวที่ได้โตขึ้นเมื่อ Tencent มาชวนให้คุณเจี๊ยบมาดู media solution ครอบคลุมทั้งหมด เริ่มทำ Joox ตั้งแต่วางแผนการตลาด เข้าไปพัฒนาธุรกิจ ทำการตลาดและยิ่งมีความรู้เรื่องตัวเลขก็สามารถต่อยอดดาต้าให้เห็นอะไรอีกหลายมุม หลังจากนั้นมีช่วงที่ลาออกไปอยู่ค่ายเพลงใหญ่อย่าง GMM แต่เธอบอกว่าในวันที่ลาออกไป เจ้านายเก่ายังนึกถึงเสมอจึงได้ชวนให้กลับมาเริ่มต้นกับ WeTV “เราบอกว่าเราอยากทำ Product เจ้านายเก่าบอกว่า WeTV จะมาเปิดตัวในไทย แต่ไม่มีอะไรเลยนะ นี่คือความมันส์ เพราะไม่มีอะไรให้เราเลย เราต้องดูเคส ดูตลาด ได้ลองอะไรเยอะ เป็นโอกาสที่ดี เลยได้รับมอบหมายให้ดูทิศทางธุรกิจภาพรวมทั้งหมด เป็น Country Manager ของ WeTV ในไทย”
คุณเจี๊ยบเป็นพนักงานคนที่สองของ WeTV ซึ่งคนแรกคือคนจีนที่อยู่ในไทย ทำอยู่ 5 เดือนจึงค่อยๆ เพิ่มพนักงานขึ้นมา 7-8 เดือนก็ขยายไปเปิดประเทศอื่น คุณเจี๊ยบยังเป็นคนที่ไปเซ็ตอัพให้ที่อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซียและเวียดนามอีกด้วย
ความสำเร็จที่ไม่ใช่วัดแค่ความเก่ง แต่คือการอินกับงานแค่ไหน?
ในวันที่เป็นผู้หญิงทำงานวัย 40 กับการมาถึงจุดที่สูงขนาดนี้ถือว่าเร็วมาก คุณเจี๊ยบบอกว่าถ้าย้อนไป 3-4 ปีที่แล้ว ฝันอยากเป็น CEO มาก ยิ่งถ้าเด็กกว่านี้คงสู้ไหวแน่นอน เพราะเธอยอมรับว่าเป็นคนถึกในการทำงาน ชอบแข่งกับตัวเอง ถ้าโตขึ้นแล้วอีกขั้นจะเป็นยังไง เคยเป็นท็อปเซลส์ระดับประเทศมาแล้วขั้นต่อไปคืออะไรอีก “เราเคยแข่งกับตัวเองจนบางทีไม่รู้ว่าเราโอเคกับมันมั้ย ใช่เป้าหมายของเราจริงหรือเปล่า เหมือนเราวิ่งไปเรื่อยๆ จนถามตัวเองว่าวิ่งไปไหน พออายุ 34-35 เริ่มรู้สึกว่าอยากอยู่กับพ่อแม่มากขึ้น เขาภูมิใจกับสเต็ปชีวิตของเราแล้ว เราไม่อยากอยู่ไกลจากเขา เราอยากให้เขาเห็นเราโต ตอนนี้ไดเร็คชั่นเปลี่ยนไป แค่รู้สึกว่าหน้าที่ที่ได้ไม่สำคัญเท่ากับการที่เรารู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของงาน หมายถึงการมี ownership ในงานที่เราทำต่างหาก เราโชคดีที่เราได้โตเร็ว แต่จริงๆ พบว่าเราได้ทำอะไรที่สนุก ได้เห็นผลลัพธ์และโตไปกับงาน มันมีความหมายมากกว่า”
วันนี้ WeTV โตขึ้นๆ เป็นแพลตฟอร์มอันดับ 1 ที่มีผู้ใช้งานแบบรับชมโฆษณา (Advertising Video On Demand – AVOD) และมองไปถึงเป็นแพลตฟอร์มวีดีโอสตรีมมิ่งอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปี 2023 มีทั้งคอนเทนท์จีน ไทย ญี่ปุ่น เกาหลี ให้ทุกคนได้ดูซีรีส์ หนัง การ์ตูนและรายการวาไรตี้ เป็นสิ่งที่คุณเจี๊ยบดีใจที่ได้สร้างความสุขจากสิ่งที่ตัวเองทำ และสิ่งที่ทำให้ผลงานออกมาดีแบบทุกวันนี้ คุณเจี๊ยบบอกว่า “ทีมเก่งมาก ดังนั้นพอเราต้องทำงานบริหารคนด้วย เราจะนิ่งนอนใจไม่ได้เลย เพราะเราไม่รู้ว่าคนในทีมท้อมั้ย ทีมที่ทำเลยไม่ได้เน้นความอาวุโส อายุเฉลี่ยในทีมจะอยู่ที่ 27-28 ให้ช่องว่างอายุไม่ค่อยมี น้องๆ ในทีมจะกล้าเข้ามาหาเราไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่มากๆ”
ยิ่งเมื่ออยู่ในองค์กรต่างชาติอย่างจีนเรื่อง speed of time ต้องวิ่งให้ทันคนอื่น ดังนั้นคนในทีมต้องเข้าใจธุรกิจอยู่ในวงการ tech content ต้องเปิดประตูรับความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
“เวลาทำงานกับคนรุ่นใหม่มีหลากหลายแบบ บางคนมองหาการก้าวกระโดด ที่เราต้องชัดคือทีมงานต้องมี career path หรือต้องดูว่าเขาชอบงานแบบไหน ถ้าเขาชอบทำงานโอเปอเรตหน่อย เราไปใส่เกียร์ 5 กับเขาก็ไม่เวิร์ค บางคนไม่อยากโตไปมากกว่านี้ เขามีความสุข มีแพชชั่น เขาทำได้ดีในมุมของเขาแล้ว ในฐานะหัวหน้างานต้องดูให้ออกและต้องสร้าง ownership ให้เครดิตทุกคนที่ทำงาน เราจะบอกทีมตลอดว่าถ้ามีใครถามว่าผลงานของเราคืออะไร เราต้องตอบได้ เพราะถ้าเขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไร จะเล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญแต่ต้องตอบให้ได้ เป้าหมายกี่อันทุกคนต้องถือไว้ทั้งทีม ไม่ว่าจะมาร์เก็ตติ้ง ทีมดีไซเนอร์ หรือแม้แต่ customer service ทุกคนสำคัญหมด”
คุณเจี๊ยบอยากบอกกับคนทำงานรุ่นใหม่ว่าอย่ารีบ ตอนนี้ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไรอยู่ใช้เวลาเรียนรู้ไป ต้องรู้ให้จริง “เราเคยเจอคำพูดหนึ่งแล้วตบเราอย่างแรงคือ ความมั่นใจที่น่ากลัวที่สุดก็คือความไม่รู้ ต้องตามหาเมนเทอร์ที่ดี จะเป็นใครก็ได้ เราไม่มีทางรู้ว่าเราจะเป็นอะไรในอนาคต และไม่ใช่ทุกคนจะหาเจอ”
เมื่อทำงานหนักๆ แล้วคุณเจี๊ยบยังบอกว่าอย่าลืมให้กำลังใจตัวเองด้วย เพราะคนชอบคิดว่าเราเป็นผู้หญิงเก่ง แต่อ่อนแอบ้างก็ได้ แค่รู้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกยังไง คุณเจี๊ยบเองมีคุณพ่อคุณแม่เป็นแรงซัพพอร์ตที่ดีมาก วันไหนที่เหนื่อย คุณแม่ก็ยังทำกับข้าวให้กิน เวลาออกจากบ้านคุณพ่อคุณแม่คอยมาส่งหน้าบ้านแล้วบอกว่าวันนี้ขอให้โชคดี รวมทั้งแต่ละปีเธอจะไปปฏิบัติธรรมเพื่อทบทวนตัวเอง เพราะการทำงานทุกวันไม่มีเวลาตกตะกอน จึงต้องไปฝึกการยอมรับความจริง มีความมั่นคงด้านอารมณ์เกี่ยวกับการใช้ชีวิตมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเครียดแค่ไหน เชื่อเถอะว่าทุกอย่างมีทางออกเสมอ แค่รู้จักบาลานซ์ตัวเองให้เป็นและคุณจะเป็นผู้หญิงทำงานท็อปฟอร์มที่มีความสุขได้แน่นอน
อ่านเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ทาง CleoThailand หรือ FB: @CleoThailand