ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Career

หญิงสาวผู้ปั้นแพลตฟอร์ม WeTV จากศูนย์คนนี้จะปลุกไฟให้คุณกลับมาอินกับงานอีกครั้ง!

WeTV

ก่อนที่คลีโอจะนัดคุยกับคุณเจี๊ยบ – กนกพร ปรัชญาเศรษฐ Country Manager แห่ง WeTV แพลตฟอร์มวีดีโอสตรีมมิ่งออนไลน์ที่อยู่ภายใต้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent ด้วยลุคสาวทำงานในฝัน เธอผมสั้น สวย เก๋ ทำให้ทีมคลีโอต้องแอบไปสืบข้อมูลว่าสไตล์การทำงานของคุณเจี๊ยบเป็นยังไง

คนรอบข้างที่เคยร่วมงานด้วยจะสรุปความเป็นเธอว่าผู้หญิงคนนี้ทำงานเก่ง ทำงานเร็ว ถ้าทำแล้วทุ่มเทแบบใส่เอเนอจี้สุดตัว การคุยครั้งนี้เราเชื่อว่าน่าจะมีคำตอบมาให้ผู้หญิงทำงานที่กำลังจะเริ่มเบิร์นเอาท์หรือถามตัวเองว่าเรากำลังมาถูกทางอยู่หรือเปล่า สุดท้ายแล้วเราต้องเก่งแค่ไหนและความสุขในการทำงานอยู่ตรงไหนกันแน่

คุณเจี๊ยบเองในวันที่เพิ่งจบจากคณะบัญชีมีความฝันที่อยากทำงานเป็น Audit อยากทำงานสายการเงิน ได้ใส่กระโปรง pencil skirt กับรองเท้าส้นสูงลากกระเป๋ามาแนวเฟียซๆ เข้าออฟฟิศการเงินสักแห่ง แต่พอวันที่ได้เข้ามาทำงานจริงๆ ก็รู้ว่าเส้นทางที่เจอไม่ใช่ตัวเองเลย คุณเจี๊ยบเปลี่ยนตัวเองไปเป็นเออีเข้าสู่ยุคดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง ฝึกฝนตัวเองจนได้เป็นเซลส์ท็อประดับประเทศเลยก็ว่าได้

“ช่วงปี 2004 เป็นยุคเออีเฟื่องฟู ลองไปเป็นเออี ดูเกี่ยวกับโมเดิร์นเทรด ทำได้ปีกว่าๆ ก็บอกแม่ว่าอยากไปเรียน digital marketing แต่ไม่อยากใช้เวลานานเลยไปเรียนที่อังกฤษ กลับมาเป็นคนทำดิจิตอลรุ่นแรกๆ เราได้อยู่ในยุค Digital Pioneer เป็นตั้งแต่ AE, AM, AD ทำอยู่ 8 ปี สนุกมาก เพราะวันนั้นสายงานนี้กำลังบูมมาก เราได้เห็นการเปลี่ยนผ่านเยอะ พอบริษัทที่ทำแข็งแรง เราได้เจอลูกค้าดีๆ ได้ทำงานกับคนเก่งๆ เป็นจุดที่ทำให้เราขยายเน็ตเวิร์ค เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย เก็บประสบการณ์ พอถึงจุดหนึ่งเราทำมีเดียมาพักใหญ่ ขั้นต่อไปเอายังไงดี วันนั้นมีโอกาสที่ช่อง 3 อยากบุกดิจิตอล ให้เราไปเป็นเซลส์ หลังจากนั้นชีวิตก็เหมือนขึ้นรถไฟเหาะเลย เพราะพอดิจิตอลโตมาสักพัก คนที่มีความซีเนียร์ก็หาค่อนข้างยากขึ้น”

เธอคือคนบุกเบิกแพลตฟอร์มดังๆ อีกมากมาย

อีกก้าวที่ได้โตขึ้นเมื่อ Tencent มาชวนให้คุณเจี๊ยบมาดู media solution ครอบคลุมทั้งหมด เริ่มทำ Joox ตั้งแต่วางแผนการตลาด เข้าไปพัฒนาธุรกิจ ทำการตลาดและยิ่งมีความรู้เรื่องตัวเลขก็สามารถต่อยอดดาต้าให้เห็นอะไรอีกหลายมุม หลังจากนั้นมีช่วงที่ลาออกไปอยู่ค่ายเพลงใหญ่อย่าง GMM แต่เธอบอกว่าในวันที่ลาออกไป เจ้านายเก่ายังนึกถึงเสมอจึงได้ชวนให้กลับมาเริ่มต้นกับ WeTV “เราบอกว่าเราอยากทำ Product เจ้านายเก่าบอกว่า WeTV จะมาเปิดตัวในไทย แต่ไม่มีอะไรเลยนะ นี่คือความมันส์ เพราะไม่มีอะไรให้เราเลย เราต้องดูเคส ดูตลาด ได้ลองอะไรเยอะ เป็นโอกาสที่ดี เลยได้รับมอบหมายให้ดูทิศทางธุรกิจภาพรวมทั้งหมด เป็น Country Manager ของ WeTV ในไทย”

WeTV

คุณเจี๊ยบเป็นพนักงานคนที่สองของ WeTV ซึ่งคนแรกคือคนจีนที่อยู่ในไทย ทำอยู่ 5 เดือนจึงค่อยๆ เพิ่มพนักงานขึ้นมา 7-8 เดือนก็ขยายไปเปิดประเทศอื่น คุณเจี๊ยบยังเป็นคนที่ไปเซ็ตอัพให้ที่อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซียและเวียดนามอีกด้วย

ความสำเร็จที่ไม่ใช่วัดแค่ความเก่ง แต่คือการอินกับงานแค่ไหน?

ในวันที่เป็นผู้หญิงทำงานวัย 40 กับการมาถึงจุดที่สูงขนาดนี้ถือว่าเร็วมาก คุณเจี๊ยบบอกว่าถ้าย้อนไป 3-4 ปีที่แล้ว ฝันอยากเป็น CEO มาก ยิ่งถ้าเด็กกว่านี้คงสู้ไหวแน่นอน เพราะเธอยอมรับว่าเป็นคนถึกในการทำงาน ชอบแข่งกับตัวเอง ถ้าโตขึ้นแล้วอีกขั้นจะเป็นยังไง เคยเป็นท็อปเซลส์ระดับประเทศมาแล้วขั้นต่อไปคืออะไรอีก “เราเคยแข่งกับตัวเองจนบางทีไม่รู้ว่าเราโอเคกับมันมั้ย ใช่เป้าหมายของเราจริงหรือเปล่า เหมือนเราวิ่งไปเรื่อยๆ จนถามตัวเองว่าวิ่งไปไหน พออายุ 34-35 เริ่มรู้สึกว่าอยากอยู่กับพ่อแม่มากขึ้น เขาภูมิใจกับสเต็ปชีวิตของเราแล้ว เราไม่อยากอยู่ไกลจากเขา เราอยากให้เขาเห็นเราโต ตอนนี้ไดเร็คชั่นเปลี่ยนไป แค่รู้สึกว่าหน้าที่ที่ได้ไม่สำคัญเท่ากับการที่เรารู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของงาน หมายถึงการมี ownership ในงานที่เราทำต่างหาก เราโชคดีที่เราได้โตเร็ว แต่จริงๆ พบว่าเราได้ทำอะไรที่สนุก ได้เห็นผลลัพธ์และโตไปกับงาน มันมีความหมายมากกว่า”

WeTV

วันนี้ WeTV โตขึ้นๆ เป็นแพลตฟอร์มอันดับ 1 ที่มีผู้ใช้งานแบบรับชมโฆษณา (Advertising Video On Demand – AVOD) และมองไปถึงเป็นแพลตฟอร์มวีดีโอสตรีมมิ่งอันดับ 2 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปี 2023 มีทั้งคอนเทนท์จีน ไทย ญี่ปุ่น เกาหลี ให้ทุกคนได้ดูซีรีส์ หนัง การ์ตูนและรายการวาไรตี้ เป็นสิ่งที่คุณเจี๊ยบดีใจที่ได้สร้างความสุขจากสิ่งที่ตัวเองทำ และสิ่งที่ทำให้ผลงานออกมาดีแบบทุกวันนี้ คุณเจี๊ยบบอกว่า “ทีมเก่งมาก ดังนั้นพอเราต้องทำงานบริหารคนด้วย เราจะนิ่งนอนใจไม่ได้เลย เพราะเราไม่รู้ว่าคนในทีมท้อมั้ย ทีมที่ทำเลยไม่ได้เน้นความอาวุโส อายุเฉลี่ยในทีมจะอยู่ที่ 27-28 ให้ช่องว่างอายุไม่ค่อยมี น้องๆ ในทีมจะกล้าเข้ามาหาเราไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่มากๆ”

ยิ่งเมื่ออยู่ในองค์กรต่างชาติอย่างจีนเรื่อง speed of time ต้องวิ่งให้ทันคนอื่น ดังนั้นคนในทีมต้องเข้าใจธุรกิจอยู่ในวงการ tech content ต้องเปิดประตูรับความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

“เวลาทำงานกับคนรุ่นใหม่มีหลากหลายแบบ บางคนมองหาการก้าวกระโดด ที่เราต้องชัดคือทีมงานต้องมี career path หรือต้องดูว่าเขาชอบงานแบบไหน ถ้าเขาชอบทำงานโอเปอเรตหน่อย เราไปใส่เกียร์ 5 กับเขาก็ไม่เวิร์ค บางคนไม่อยากโตไปมากกว่านี้ เขามีความสุข มีแพชชั่น เขาทำได้ดีในมุมของเขาแล้ว ในฐานะหัวหน้างานต้องดูให้ออกและต้องสร้าง ownership ให้เครดิตทุกคนที่ทำงาน เราจะบอกทีมตลอดว่าถ้ามีใครถามว่าผลงานของเราคืออะไร เราต้องตอบได้ เพราะถ้าเขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไร จะเล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญแต่ต้องตอบให้ได้ เป้าหมายกี่อันทุกคนต้องถือไว้ทั้งทีม ไม่ว่าจะมาร์เก็ตติ้ง ทีมดีไซเนอร์ หรือแม้แต่ customer service ทุกคนสำคัญหมด”

WeTV

คุณเจี๊ยบอยากบอกกับคนทำงานรุ่นใหม่ว่าอย่ารีบ ตอนนี้ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไรอยู่ใช้เวลาเรียนรู้ไป ต้องรู้ให้จริง “เราเคยเจอคำพูดหนึ่งแล้วตบเราอย่างแรงคือ ความมั่นใจที่น่ากลัวที่สุดก็คือความไม่รู้ ต้องตามหาเมนเทอร์ที่ดี จะเป็นใครก็ได้ เราไม่มีทางรู้ว่าเราจะเป็นอะไรในอนาคต และไม่ใช่ทุกคนจะหาเจอ”

เมื่อทำงานหนักๆ แล้วคุณเจี๊ยบยังบอกว่าอย่าลืมให้กำลังใจตัวเองด้วย เพราะคนชอบคิดว่าเราเป็นผู้หญิงเก่ง แต่อ่อนแอบ้างก็ได้ แค่รู้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกยังไง คุณเจี๊ยบเองมีคุณพ่อคุณแม่เป็นแรงซัพพอร์ตที่ดีมาก วันไหนที่เหนื่อย คุณแม่ก็ยังทำกับข้าวให้กิน เวลาออกจากบ้านคุณพ่อคุณแม่คอยมาส่งหน้าบ้านแล้วบอกว่าวันนี้ขอให้โชคดี รวมทั้งแต่ละปีเธอจะไปปฏิบัติธรรมเพื่อทบทวนตัวเอง เพราะการทำงานทุกวันไม่มีเวลาตกตะกอน จึงต้องไปฝึกการยอมรับความจริง มีความมั่นคงด้านอารมณ์เกี่ยวกับการใช้ชีวิตมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเครียดแค่ไหน เชื่อเถอะว่าทุกอย่างมีทางออกเสมอ แค่รู้จักบาลานซ์ตัวเองให้เป็นและคุณจะเป็นผู้หญิงทำงานท็อปฟอร์มที่มีความสุขได้แน่นอน

อ่านเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ทาง CleoThailand หรือ FB: @CleoThailand

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']