ถ้าพูดถึงเรื่องดูดวง โดยเฉพาะการดูดวงความรัก แล้วให้บอกชื่อหมอดูขึ้นมาสักคน เราไม่ลังเลที่จะเอ่ยชื่อ นก Bird Eye View ขึ้นมา ชื่อนี้เป็นชื่อแรกที่แรกเรานึกถึงและคิดได้แบบทันที เพราะเราก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ติดตามเธอมานาน หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินชื่อ Bird Eye View ผ่านหูหรือเห็นช่องยูทูปของเธอผ่านตากันมาบ้าง เธอคนนี้คือ หมอนก หรือ นก นภัสสร หมอดูสาวเสียงใสกิ๊ง และวันนี้เป็นโอกาสอันดีที่ได้พูดคุยกับเธอในหลาย ๆ เรื่อง และทำให้เราเปิดใจเข้าสู่โลกของการดูดวงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
อกหักคือจุดเริ่มต้นของ Bird Eye View
จุดเริ่มต้นของนกและช่อง Bird Eye View ก็มาจากประสบการณ์ส่วนตัวของเธอเองนั่นแหละ ถ้าให้ลองเดาก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องความรัก และนั่นก็คือคำตอบที่ถูกต้อง ถ้าย้อนไปตอนแรกเริ่มเลย มันเกิดจากที่เธออกหักเลิกกับแฟนนี่แหละ และพอผู้หญิงอย่างเราอกหัก ก็คงหนีไม่พ้นการหาที่พึ่งทางใจอย่างการดูดวง นกก็เป็นคนหนึ่งที่ดูดวงตอนอกหัก ดูหลายที่มาก ๆ จนไม่รู้จะดูอะไรแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่เธอได้มาจากการที่เธอตระเวนซบอกหมอดูก็คือ แพชชั่นที่เปลี่ยนไป ความหลงใหลที่ถูกจุดประกายขึ้นมา สิ่งที่เธอสนใจไม่ใช่ผลการทำนายจากหมอดูอีกต่อไป แต่กลายเป็นความอยากรู้และอยากลงไปศึกษาศาสตร์ของการดูดวงด้วยตัวเอง การอกหักเลยหาหมอดูเยอะมาก จนไม่ได้มีแพชชั่นที่ต้องดูดวงอีกต่อไป กลายเป้นอยากดูดวงด้วยตัวเองมากกว่า เธอเลยเริ่มทำความเข้าใจและศึกษาสิ่งนี้ไปเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นความชอบในที่สุด
Birds Eye View มุมมองของนกสู่คนดู
ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว หลังจากที่เธอเริ่มสนใจศึกษาการดูดวง เธอก็เลยลองอัดคลิปเล่น ๆ ลงยูทูปดู สิ่งที่เธอทำมัน simple มาก ๆ มีแค่โต๊ะที่ปูผ้าไว้ กองไพ่ และเสียงของเธอเท่านั้น เธอลองทำคลิปแนว pick a card จากที่เธอดูคลิปดูดวงต่างประเทศ นกอัดคลิปและอัพโหลดลงยูทูป และปล่อยมันไว้อย่างนั้น ไม่ได้เข้าไปดูอีกแล้ว แต่เมื่อเธอกลับเข้าไปดูอีกรอบ ฟีดแบคที่เธอได้มันดีเกินคาด จากที่ไม่มีคนติดตามก็มีเพิ่มมากขึ้น จากยอดวิวหลักหน่วยก็เพิ่มขึ้นเป็นหลักพัน และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของ Bird Eye View จนถึงวันนี้
“คนมาดูดวงก็คงไม่ได้อยากมาดูหน้าหมอดูหรอก เขาก็คงอยากจะดูหน้าไพ่”
ความเรียบง่ายที่เธอทำมาตลอด 4 ปีได้กลายเป็นซิกเนเจอร์ของ Bird Eye View ที่เพียงแค่เอ่ยชื่อ เราก็สามารถนึกภาพบรรยากาศตามได้เลย และนี่แหละที่ทำให้ช่องของนก Bird Eye View ไม่เหมือนใคร
“เราอยากให้ Bird Eye View เป็นพื้นที่สาธารณะ ช่องเราเป็นของทุกคน อยากให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นได้เต็มที่”
อีกหนึ่งสิ่งที่เรารู้จากเธอคือ เธอไม่อ่านคอมเมนต์ใต้คลิปเลย นกเล่าว่าเธอไม่ชอบเห็นอะไรที่บั่นทอน เธอไม่อยากเห็นข้อความที่ทำให้เธอรู้สึกแย่ เพราะความรู้สึกแย่เหล่านั้นจะบั่นทอนการทำงานของเธอเอง ซึ่งเราว่ามันก็ดีนะที่จะไม่รับรู้เพื่อความสบายใจของตัวเองเอง เพราะแต่ละคนก็รับอะไรแบบนี้ได้มากน้อยไม่เท่ากัน เธอเลยตัดปัญหาไม่อ่านมันเลย ไม่ใช่ว่าไม่อยากอ่านแต่เธอรับเอเนอร์จี้เหล่านั้นไม่ไหวจริง ๆ แต่เวลาที่เธอเจอคอมเมนต์ไปในทางลบเธอก็ไม่เคยบล็อกหรือลบออกไปเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะสุดท้ายมันก็คือช่องทางแสดงความคิดเห็นของทุกคน
การดูดวงเป็นเรื่องงมงาย จริงไหม?
อะไรที่มากเกินไปก็เป็นเรื่องที่งมงายได้ทั้งนั้น
เราชอบทุกคำที่เธอพูดเลย มันคือเรื่องจริง ไม่ใช่แค่เรื่องดูดวง แต่กับทุกเรื่องในชีวิต อะไรก็กลายเป็นเรื่องที่งมงายได้ทั้งนั้น
“ความงมงายหรือไม่งมงายมันคือสิ่งที่เราไปใช้มากกว่า ถ้าเราใช้แบบไม่ไตร่ตรอง ไม่มีสติ ใช้แบบที่เราไม่ได้คิดพิจารณาให้ดี ไม่ว่าจะเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องงมงายหรือไม่งมงาย มันก็สามารถเป็นเรื่องงมงายได้ แม้กระทั่งศาสตร์ที่เป็นวิทยาศาสตร์มาก ๆ คนก็ยังมองเป็นเรื่องงมงาย เพราะเชื่อมากเกินไปจนขาดสมดุล”
เธอบอกว่า การดูดวงก็เหมือนอีกหนึ่งเครื่องมือในการใช้ชีวิต “เราดูดวงเพื่อที่เราจะรู้แนวทางในการใช้ชีวิตของเรา อยากให้มองว่าเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งที่ช่วยในการตัดสินใจของเรา ไม่อยากให้มองว่าเป็นทั้งหมดในการตัดสินใจ นกเชื่อว่าคนเรายังมีพื้นฐานการตัดสินใจที่ยังต้องเป็นตัวของตัวเองอยู่ แต่ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนอนาคตได้จากการกระทำในปัจจุบันของเรา”
กดพอส วางกองไพ่ แล้วมาทำความรู้จักกับความเป็น “นก นภัสสร”
สิ่งแรก ๆ ที่เราจดจำเธอได้เมื่อพูดถึง Bird Eye View คือลุคหมอดูแซ่บ เปรี้ยว มั่นใจ ที่มาพร้อมกับน้ำเสียงใส ๆ หวาน ๆ ที่ฟังได้แบบเพลิน ๆ จนเราก็แอบอยากรู้ว่า ถ้าเธอวางกองไพ่ ปิดกล้อง เอาชื่อ Bird Eye View ออกไปเหลือเพียงแค่ นก นภัสสร เธอเป็นคนแบบไหนกันแน่ อะไรบ้างที่เหมือนและแตกต่างจากที่เราเคยเห็น เราก็ไม่รอช้าถามเธอเลยทันที
ขึ้นอยู่กับว่าตอนนั้นกำลังคุยอยู่กับใคร
เราเข้าใจคำนี้มาก ๆ ความเป็นตัวเราก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์และบุคคลที่เรากำลังคุยอยู่ด้วย แน่นอนว่าในฐานะหมอดู เธอก็จะนิ่ง ๆ เป็นผู้ใหญ่ระดับนึงเลยแหละ เพราะต้องให้คำปรึกษาเขา เลยต้องนิ่ง เป็นผู้ฟังที่ดี เป็นผู้ใหญ่ที่ให้ความสบายใจได้ แต่เมื่อเธออยู่กับเพื่อน ความรั่วจัดเต็ม นกคือคนเฮฮา เธอบอกว่าตัวเองเป็นคนเกรียน ๆ ชอบเล่นมุกที่เพื่อนไม่ค่อยจะขำ เป็นคนชิลล์ ๆ ไปไหนไปกัน แต่ถ้าเธออยู่คนเดียว ความเป็นตัวเองของเธอก็จะเผยออกมา เธอเป็นคนตลก ชอบหาอะไรทำอยู่เสมอ (จะว่าเป็นคนที่อยู่เฉยไม่ได้ก็ได้นะ) แต่ในขณะเดียวกันเธอเป็นคนที่เปิดรับคนเข้ามาในชีวิตยาก แต่ถ้าเปิดแล้วเธอก็พร้อมเปิดใจให้ทุกคนที่เข้ามาในชีวิตได้อย่างเต็มที่
ความรักของ Bird Eye View
มาถึงเรื่องที่เราอยากชวนเธอคุยมากที่สุด ได้คุยกับหมอดูดวงความรักทั้งที จะไม่คุยเรื่องความรักก็คงจะไม่สนุก เราก็อยากจะรู้เหมือนกัน ชว่าหมอดูที่ต้องเปิดไพ่ทำนายเรื่องราวความรักของใครต่อใครมาไม่รู้กี่ครั้ง ที่จริงแล้วเธอมีมุมมองความรักเป็นอย่างไรบ้าง
มีความรักเมื่อพร้อม
นกบอกเลยว่าเธอเป็นคนมีกำแพงในเรื่องความรักมาก เพราะตั้งแต่ความรักครั้งล่าสุดของเธอที่เธอเลิกกับแฟนเก่ามา เธอก็ยังไม่เจอใครที่รู้สึกว่าเป็นเซฟโซนให้เธอได้เลยสักคน ทุกคนต้องมีคำถามให้เธอคิดเสมอ “ทำไมเขาถึงไม่ดีกับเรา” “ทำไมเขาถึงไม่โอเคกับเรา” เธอเจอความรักที่เรียกได้ว่าไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เวลาผ่านไปนานเข้า เธอก็ยิ่งมีกำแพงที่สูงมากขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นคนที่ปิดกั้นเรื่องความรักไปแล้ว ถ้าถามว่าปิดกั้นขนาดไหน ก็ขนาดที่ว่า ถ้ามีใครที่เข้ามาในแบบคนคุย เธอปิดเลยทันทีไม่ว่าทางใดก็ตาม อ่านไม่ตอบ ลบแชท เธอไม่เอาเลย แต่นกก็มีความสุขกับสิ่งที่เธอเลือกนะ
แต่สิ่งนี้ไม่ได้มีปัญหาในการให้คำปรึกษาเรื่องดวงแต่อย่างใด เธอบอกว่า “การที่เราไม่ได้อยู่ในเกมความสัมพันธ์มันเห็นอะไรได้ชัดกว่าอยู่แล้ว จะไม่เอาอคติเรื่องความรักของตัวเองไปตัดสิน เราอาจจะเจอคนไม่ดี แต่ไม่ได้หมายความว่าความรักของคนอื่นจะไม่ดีก็ได้”
ความโสดมันแฮปปี้มากจนมันกั้นคนที่จะเข้ามาในชีวิตเรา ถ้าเรารับใครเข้ามาแล้ว เราจะมีความสุขได้อย่างทุกวันนี้ไหม
ถึงจะโสดแต่ก็สบายใจ เธอบอกว่าการใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวทำให้เธอแฮปปี้กับชีวิตตัวเองมาก ๆ จะทำอะไรก็ได้ กินข้าวกับเพื่อน ไม่อยากตอบแชทก็ไม่ต้องตอบ อยากทำอะไรก็มำได้เลยโดยไม่ต้องไปรายงานกับใคร เวลาเห็นคนมีความรักก็รู้สึกยินดีมาก ยิ่งคนที่มีความรักที่ดีก็ยิ่งภูมิใจ แต่ลึก ๆ ก็ยังเชื่อว่า สักวันหนึ่งจะมีผู้ชายสักคนที่อยู่นอกกำแพงเราและอยากจะดูแลเราจากนอกกำแพง และอาจจะเป็นตัวเองเราเองที่ค่อย ๆ ลดกำแพงในการมีเขาในชีวิตมากขึ้น
เยียวยาหัวใจในแบบ Bird Eye View
คุยกับตัวเองว่าเรารู้สึกอย่างไรกับคนที่ทำให้เราอกหัก รู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นและพยายามเข้าใจมองด้วยความเป็นจริง พยายามแยกความรู้สึกออกมาแล้วมองมันด้วยเหตุผล พอเราเข้าใจเหตุผล เราก็ใช้ความเสียใจให้เต็มที่ แล้วไปต่อ
ก่อนจากกันไป เธอก็ยังฝากบอกใครที่อาจจะยังมีอคติกับการดูดวงอยู่ อยากให้มองการดูดวงเป็นเครื่องในการใช้ชีวิต ไม่จำเป็นต้องเอาการดูดวงมาตัดสินชีวิตเรา แต่มันช่วยให้เราระแวดระวังกับสิ่งรอบตัวได้ดีขึ้น
ใครที่ยังไม่เคยดูดวงความรักจากหมอนก ก็ลองเข้าไปส่องดูกันได้ที่ช่อง Bird Eye View หรือติดตามเธอได้ที่ Instagram @awwnokk ได้เลยนะ
อ่านเรื่องราวอื่น ๆ ได้ที่ CLEO Thailand และ FB > CLEO