คลีโอขอแชร์ 10 ข้อคิดเรื่องงานจากพี่เอ๋คลีโอ ที่ส่งต่อมาถึงนักเขียนรุ่นน้องได้นำมาปรับใช้ การสอนงานของพี่เอ๋จะไม่ได้บอกตรงๆ แต่จะให้เราได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน ผ่านการทำงานของพี่เอ๋ และการทำงานของตัวเราเองนี่แหละ การทำงานกับพี่เอ๋เราจะเป็นตัวเอง เพราะพี่เอ๋จะปล่อยให้เราอิสระ คิดงานได้แบบไร้กรอบ
10 ข้อคิดในวันนี้คือสิ่งที่เรา decode ออกมาได้จากการทำงานร่วมกับพี่เอ๋ที่ทำให้เราได้เติบโตขึ้นและทำงานได้ดีขึ้น ลองเอาไปทำตามกันดูนะ
“สมุดและปากกาต้องมีติดตัว”
จำได้เลยที่พี่เอ๋บอกว่า “ไปไหนก็ต้องพกไว้นะ สมุดกับปากกา เพราะไอเดียของเรามาเกิดได้ทุกเวลา” ถ้าใครทำงานกับพี่เอ๋จะรู้เลยว่าไอเท็มที่พี่เอ๋ขาดไม่ได้คือสมุดและปากกา ไม่ว่าจะทำอะไรพี่เอ๋จะจดไว้หมด ใครพูดอะไรที่อินสไปร์ก็จะโน้ตลงสมุดไว้ จนตอนนี้เราก็ทำตามพี่เอ๋ไปแล้ว พอได้ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนชิน จะรู้ได้เลยว่าไอเดียเรามีเยอะมากๆ ถ้าไม่จดก็คงลืมไปแล้ว
“ถ้าเราคิดว่าเราทำได้ เราก็จะทำได้”
พี่เอ๋บอกเสมอว่า เวลามีงานเข้ามา ให้บอกตัวเองไว้ก่อนเลยว่าเราทำได้ ไม่ว่าจะยากจะง่ายแค่ไหนก็เข้ามาเถอะ เราทำได้หมด พอเรามีความคิดแบบนี้ ทุกงานจะง่ายสำหรับเรามาก จากใจนักเขียนคลีโอรุ่นน้อง ข้อนี้ช่วยเราเวลาทำงานได้มากจริงๆ แล้วแอดติจูดในการทำงานของเราก็จะเปลี่ยนไปด้วย งานจะสนุกขึ้น ท้าทายแค่ไหนเราก็อยากจะทำมัน
“งานทุกชิ้นของเรามีความหมาย”
การจะทำงานอย่างมีความสุขได้ เราต้องมองเห็นคุณค่าการทำงานของเราเอง คิดและเชื่อไว้เสมอว่างานทุกชิ้นของเรานั้นมีคุณค่าและมีความหมาย เพราะมันเกิดมาจากความคิด ไอเดีย การลงมือทำ การต่อสู้กับหลายๆ ปัจจัยจนออกมาเป็นงานชิ้นนี้ ห้ามคิดเด็ดขาดว่าเราเป็นแค่เฟืองเล็กๆ ที่ไม่มีความหมาย เพราะถ้าไม่มีเฟืองอย่างเรา งานใหญ่ๆ อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้
“สร้างวินัย และรูทีนของตัวเองให้ดี แล้วเราจะแกร่งและเก่งเร็ว”
พี่เอ๋สอนเราเสมอเรื่องการสร้างวินัย เพราะมันคือจุดเริ่มต้นของโลกการทำงาน วินัยที่ดีไม่ใช่การทำงานเยอะๆ จนไม่ได้กินข้าว ไม่ใช่ความถึกแบบไม่สนใจอะไรเลย แต่คือการสร้างรูทีนให้ตัวเอง โดยไม่ต้องเทียบกับคนอื่น เอาที่ตัวเองสะดวก แล้วทำมันให้สม่ำเสมอ จัดตารางการทำงานให้ดี แต่ก็ต้องรู้ลิมิตของตัวเอง ถ้าเกินลิมิตแล้วก็ต้องพัก อย่าฝืน เพราะงานที่ดีมาจากรูทีนที่ดี
“ความสำเร็จมีเวลาของมัน”
“บางครั้งเราอาจจะต้องรอนานเป็นปีๆ เพื่อจะได้เห็นความสำเร็จที่เราได้ทำมา แล้ววันนั้นเราจะเปล่งกระกาย” พี่เอ๋เคยพูดไว้แบบนั้น จะทำอะไรต้องอย่าใจร้อน อย่ามัวแต่รอผลลัพธ์ เพราะการทำงานที่คาดหวังความสำเร็จตลอดเวลา มันจะไม่เหมือนกับการทำงานที่มาจากใจจริงๆ บางครั้งความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่เราตั้งตารออาจจะนานกว่าที่เราคิด แต่สักวันเราจะได้รับมัน ทำปัจจุบันให้เต็มที่และมีความสุขไปก่อนก็พอ
“คิดให้ใหญ่ไว้ก่อน”
ข้อนี้ทำให้เราหลุดออกมาจากกรอบที่วางไว้มากๆ พี่เอ๋จะคอยบอกเสมอว่า อยากทำอะไรก็คิดออกมาเลย ทำได้ไม่ได้ไม่เป็นไร พ่นความคิดออกมาก่อน คิดให้ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วมันจะเห็นความเป็นไปได้เอง ว่าเราจะไปสุดที่ตรงไหน บางครั้งเราก็คิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่าเราจะคิดอะไรแบบนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือชีวิต คิดให้ไกลไว้ก่อน อย่าคิดติดกรอบ หาไอเดียอินสไปร์ตัวเองเยอะๆ
“ทำสมาธิให้ใจนิ่ง แล้วอินเนอร์การทำงานจะกระฉูดมาก”
นั่งสมาธิบ่อยๆ อยู่กับตัวเองเยอะๆ แล้วเราจะนิ่งมาก คิดอะไรเฉียบขาด ไม่วอกแวก มีสติ แล้วจะทำงานทุกอย่างได้ดี พี่เอ๋ชอบบอกให้น้องๆ ฝึกนั่งสมาธิ “ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดีนะ” พี่เอ๋บอกว่าการนั่งสมาธิไม่ใช่แค่การหายใจเข้าออก แต่คือการกลับเข้ามาอยู่กับตัวเอง ทบทวนตัวเอง ปลดปล่อยพลังงานไม่ดีออก และเปิดรับพลังงานที่สดใหม่เข้ามา ยิ่งทำยิ่งดีกับตัว
“ในวันที่ได้เป็นเจ้าาคนนายคน ให้คิดว่าเราจะผลักดันเขายังไงได้บ้าง”
ถ้าวันไหนที่เรามีลูกน้องต้องดูแล ให้ใช้ความเป็นหัวหน้าของเราให้มีประโยชน์ เราส่งต่ออะไรให้น้องได้ก็ส่งให้หมด อย่ากั๊กความรู้ อย่ากันซีนกันเอง ให้เขาได้ลองผิดลองถูกเอง ผลักดันลูกน้องทุกคนให้เขาเปล่งประกายให้สุด จนเขาสามารถเฉิดฉายได้ด้วยตัวเอง หัวหน้าที่ดีจะต้องไม่เก็บคนเก่งไว้กับตัว แต่ต้องทำให้ทุกคนเป็นคนเก่งและที่ส่งต่อความสามารถไปได้อีกเรื่อยๆ
“จัดลำดับความสำคัญให้ดี”
จะทำงานเก่งต้องรู้อะไรสำคัญมากสำคัญน้อย อย่าเสียเวลากับงานที่ไม่สำคัญ อันไหนปล่อยผ่านได้ก็ต้องปล่อย ไม่งั้นจะเปลืองทั้งแรงและเวลา อันไหนที่สำคัญ งานด่วน งานเร่ง ก็ต้องทำให้ดี ส่วนงานรูทีนก็ต้องทำสม่ำเสมอ บาลานซ์ให้ได้ แยกแยะความสำคัญให้ออก ใครที่เทพมากๆ จะสามารถแพลนในหัวได้เลยว่าตื่นมาวันนี้จะต้องทำอะไรบ้าง งานไหนต้องทำก่อนทำหลัง
“ทุกการทำงานคือศิลปะ”
การทำงานคืองานศิลปะอย่างหนึ่ง ผลงานจะออกมาตามที่เราลงมือทำ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกไปจนถึงเสร็จงาน การทำงานคือการใส่ใจ ใช้ความคิด ความทุ่มเทลงไป ถึงจะได้งานที่ดีในแบบที่เราต้องการ พี่เอ๋บอกว่าถ้าเรามองการทำงานให้เป็นศิลปะ ทุกอย่างจะสนุกขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็นการเขียน การคุยกับคน การนำเสนองาน ทุกอย่างต้องอาศัยฝีมือทั้งนั้น