8 สัญญาณนี้บอกได้ว่าคุณอาจเป็น “Highly Sensitive Person” อ่อนไหวในระดับสูง

ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมอะไรนิดอะไรหน่อย เราต้องรู้สึกไปหมด ก็เลยฉุกคิดว่าหรือเราเกิดมาจะเป็นคน Highly Sensitive Person คนที่อ่อนไหวสูง เซนซิทีฟสูงนี่ล่ะ ลองเช็ค 8 สัญญาณนี้เลยนะว่าคุณเป็นหรือเปล่า? ถ้าเป็นก็อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะคน Highly Sensitive Person ก็มีข้อดีมากมายอยู่เหมือนกัน อ่านเรื่องราวอื่นๆ ต่อได้ที่ สุดยอดวิธีแยกแยะอารมณ์เก็บในโหลแก้ว

10 แนวคิดเรื่อง “เวลา” ที่ทำให้เรากระตุกที่สุด

จากหนังสือที่ทุกคนต้องอ่าน “ชีวิตเรามีแค่สี่พันสัปดาห์” Four Thousand Weeks Tme Management for Mortals ถ้าใครกำลังตั้งคำถามกับตัวเอง “ฉันใช้เวลาในชีวิตไปกับอะไรเนี่ย?” “ฉันจะทำยังไงให้ชีวิตฟินที่สุด” อย่าเพิ่งตอบอะไรตัวเองทั้งนั้น อ่านเล่มนี้ก่อนเลย “ชีวิตเรามีแค่สี่พันสัปดาห์” หรือ “Four Thousand Weeks Time Management for Mortals” เพราะหนังสือเล่มนี้จะทำให้คุณถึงกับคลั่ง ผู้เขียน โอลิเวอร์ เบิร์กแมน เขาสั่นสะเทือนคุณได้จริงๆ เรียกว่าแนวคิดเรื่องเวลาจากเล่มนี้มาเหนือสุดๆ ถ้านั่งอยู่ข้างกำแพงต้องเอาหัวโขกกันเลย แต่อ่านจบมีพลังดีนะ แล้วอยากกลับไปอ่านอีกรอบ คลีโอขอสรุปแนวคิดปังๆ 10 ข้อนี้มาให้ มั่นใจมากว่าต้องรีบไปกดซื้อหนังสือเล่มนี้กันเลย อ่านเรื่องราวอื่นๆ ต่อได้ที่ เริ่มต้นใหม่และเปลี่ยนตัวเองด้วย Monk Mode

12 โฟกัสที่ทำให้เราลืมเรื่องอะไรบางอย่างในใจไปได้

ใช้ชีวิตกับการคอยเช็คตัวเองตลอดเวลา จะค่อนข้างรู้ว่าตอนนี้เรารู้สึกยังไง บาลานซ์เราเป็นยังไง ก็เลยเอนจอยที่จะคอยหาอะไรมาเติมโฟกัสให้เรา เพราะนั่นคือสิ่งที่ช่วยเราได้เวลาเรามีอะไรในใจ แล้วอยากลืม…. 2. เล่นดนตรียากๆ: คุ้มที่สุดที่ชีวิตได้ทุ่มเทไปกับการเรียนเปียโนในช่วงเวลาหนึ่ง ยิ่งยากยิ่งดีเลย พอเวลาเราอยากคลี่คลายอะไรในใจออกไป คืนแห่งการกลับมานั่งงมดีดโน้ตบีโธเฟ่นยากๆ ใจเราจะไม่มีเรื่องอะไรมากวนนอกจากความจดจ้องบรรทัด 5 เส้นของโน้ตเพลงเท่านั้น! 3. ทำอาหารสัก 3 เมนูพร้อมกัน: สมองต้องคิดตั้งแต่ทำอะไรดีที่มันบาลานซ์กัน เครื่องปรุงล่ะ แล้วจะทำอะไรก่อน เพื่อให้ออกมาเสร็จพร้อมกัน ตอนต้มน้ำ เราจะหั่นผัก ตอนยืนเคี่ยวจะกริลล์เบคอนเอาไว้ แค่คิดว่าจะหยิบจานกี่ใบมาใส่เครื่องปรุง จะแบ่งพื้นที่ในจานยังไง เอามาวางหน้าเตาให้หยิบได้ง่าย ทั้งหมดสมองต้องว่างเปล่าจริงๆ ถึงจะแมเนจได้เลย 4. เขียนบทความยาวๆ: ยิ่งถ้าเป็นบทความที่ไม่คุ้นชิน จะท้าทายเรามาก ต้องหาข้อมูล อ่าน จด แล้วเรียบเรียง วิเคราะห์ แล้วกลั่นออกมาเป็นคำพูดเรา แล้วถ้าเป็นบทความออริจินัล คือเราสร้างหัวข้อขึ้นมาเองเลย ใจและสมองก็จะยิ่งส่ายไปไหนไม่ได้ 5. เขียนข้อความจากความรู้สึกเก็บไว้: เป็นทั้งช่วยโฟกัสและช่วยเยียวยา ใจจะรวมศูนย์ แล้วเป็นโมเมนท์ให้เราได้เช็คตัวเองอีกครั้ง ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร เราเป็นใคร อะไรพาเรามารู้สึกแบบนี้ ถ้าทำได้ทำทุกวันจะทำให้เราเข้าใจตัวเองขึ้นด้วย 6. เพนท์รูปที่เราไม่คุ้น: […]




Self Love, Women's Stories

สาวแกร่งไม่ใช่แค่ต้องเข้มแข็งแต่เป็นการมีจุดยืนที่ แข็งแกร่ง



เวลาไม่เคยรอใครกับทุกประสบการณ์ที่เธอได้เรียนรู้สู่ความสำเร็จที่หมายถึงการตามหาตัวเองไปเรื่อยๆ เปิดเผยความคิดต้นแบบสาวแกร่งในยุคนี้กับ คุณเกล นภัสกร เจียรอดิศักดิ์ เพราะคุณค่าของชีวิตที่กำหนดได้เอง

ทุกความแตกต่างคือความหลากหลายที่สวยงาม

ชีวิตของเธอผู้นี้ที่กำหนดด้วยตัวเองสู่ Influencer /Model /Content Creator กับโอกาส จังหวะเวลา และตัวเอง right time right place เกลเชื่อว่าเวลาไม่รอใคร ในวันที่เรายังมีแรงมีโอกาสเราต้องรีบคว้ามันไว้

ในวงการนางแบบคุณเกล เธอผู้นี้เจอมาทุกรูปแบบของความหลากหลาย ทั้งรูปร่าง สีผิว ฟันห่าง ปาน ซึ่งวงการนี้ทำให้เธอมองความหลากหลายได้สวยงามมากๆ เพราะความแตกต่างและความหลากหลายมันคือสิ่งที่สวยงาม ทุกคนสวยในแบบของตัวเอง ก่อนหน้านี้เธอเล่าว่า โดนคนวิจารร์ถึงรูปร่างที่ผอมมากเกินไปเหมือนกระดูกเดินได้ ผิวคล้ำมากๆ แต่เกลมานั่งคิดว่าตวามจริงแล้วการไปยิมออกกำลังกายหนักๆหรือการไปตากแดดให้ผิวแทน มันคือสิ่งที่เกลแฮปปี้ ถ้าอะไรที่เรามีความสุขเราจะทำมันและเกลไม่ได้สนใจคอมเมนท์ของใครๆ

บางทีความสำเร็จอาจหมายถึงการตามหาตัวเองไปเรื่อยๆ

การก้าวสู่ชีวิตหลังเรียนจบในวัย 22 ปี ของคุณเกล เธอได้เห็นผู้คนหลาหลายมาก บางคนอายุเท่าเราแต่เป็นถึง ceo แล้ว แต่บางคนอายุมากกว่าเราก็กำลังตามหาตัวเองอยู่เลย คุณเกลเล่าว่าเคยคุยกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในมุมมองที่ว่า ถึงเราจะเจอสิ่งที่ชอบตอนอายุ 50 ก็ไม่ได้สาย บางทีความสำเร็จอาจหมายถึงการตามหาตัวเองไปเรื่อยๆเพื่อหาความชอบและรู้ว่าเราอยากทำอะไร การได้ลองทำอะไร เหนื่อยแต่คุ้มเพราะเราได้ประสบการณ์ 

การใช้ชีวิตทุกวันเพื่อตัวเอง ทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองมีความสุขมากที่สุด อยากทำอะไรในสิ่งที่อยากทำ อยากใส่อะไรที่ได้ใส่ และอยู่บนพื้นฐานที่ไม่เดือดร้อนคนอื่น เกลขอบคุณตัวเองทุกวันทุกครั้งก่อนนอน สิ่งที่จะเปลี่ยนความคิดทุกคนได้คือการชื่นชมเรื่องเล็กๆน้อยๆของตัวเองได้ บางวันไม่ได้ทำอะไรเลยแต่ก่อนนอนเราจะมานั่งคิดว่าวันนี้เราอยากขอบคุณตัวเองยังไงดี มันอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆแต่มันทำให้เกลมีแรงขับเคลื่อนในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

แค่นึกถึงอดีตที่ผ่านมาไม่ค่อยได้แล้ว นั่นอาจเป็นสัญญาณของการปล่อยวางที่แท้จริง

คุณเกลพยายามนึกถึงเรื่องความผิดหวังอยู่สักพักและนึกไม่ค่อยออก คุณเกลบอกว่า นี่คงเป็นสัญญาณของการปล่อยวางได้แล้วกับเรื่องในอดีต และเกลคิดตลอดว่าทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล ถ้าอะไรที่มันแย่มากนั่นก็หมายความว่าเราจะไม่ไปแตะมันอีกนะ คนแบบนี้ไม่เหมาะกับเรา หรือแม้กระทั่งเรื่องปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมไม่ได้แต่ทำให้เราเสียใจ มันก็ทำให้เรารู้ว่าเป็นประสบการณ์นึงที่ทำให้เรารู้ว่า “ไม่เจอกับตัวไม่รู้” ตอนนี้เกลเลยปล่อยให้ชีวิต Glow with the Flow เจ็บก็เจ็บเลย เสียใจก็เสียใจไปเลย 

วิถีของสาวแกร่งทุกอย่างเกิดขึ้นเพื่อตัวเอง

คุณเกลเธอเล่าว่าเคยกดดันตัวเองมาก พยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเอง มีความคิดที่ต้องทำทุกๆอย่างจนในที่สุดก็ฝืนเกินไป ทั้งที่จริงๆเราแค่เป็ดตัวนึงที่หยิบจับทุกอย่างได้แต่ไม่ได้เก่งไปสะทุกด้าน ทุกวันนี้เกลจะคอยบาลานซ์สิ่งต่างๆให้มีความสุข เช่น การไม่บังคับตัวเองให้ทำงานจนดึก แต่นอนขึ้นเร็วหน่อยเพื่อตื่นเช้ามาปั่นงาน ซึ่งการรักตัวเองในแบบของเกลคือการทำให้ตัวเองมีความสุขไม่เดือดร้อนใครและไม่เดือดร้อนตัวเองด้วย การเป็นสาวแกร่งไม่ใช่แค่ต้องเข้มแข็ง แข็งแรง แต่เป็นการมีวิสัยทัศน์ที่แข็งแกร่ง คือการมีจุดยืนของตัวเองว่าเราต้องการอะไรในชีวิต สาวแกร่งคือสาวที่รู้ว่าจะทำอะไรเพื่ออะไร เป้าหมายทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็เพื่อตัวเอง เช่น อยากดูแลตัวเองเพื่อตัวเอง

คำวิจารณ์จากคนแปลกหน้าก็เป็นแค่อากาศ

เกลในเมื่อก่อนเคยคิดว่าเกลต้องดีขนาดไหนถึงจะมีคนยอมรับเรา แต่เกลในเวอร์ชั่นนี้เกลคิดว่าชีวิตนี้มีอะไรให้ทำมากกว่าสนใจคอมเมนท์ต่างๆ เราไม่ได้รู้จักเขาด้วยซ้ำ มันก็แค่คำพูดของคนที่ไม่ได้แคร์เรา เราโฟกัสที่ตัวเอง เราทำงานหาเงินทำเพื่อตัวเอง

เธอเชื่อว่าเราไม่ได้เกิดมาเพื่อรองรับหรือตามใคร ไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็น Some one แต่เราเป็น No one ทุกคนสนใจเรื่องเราได้แปปเดียว ไม่มีใครมามองเราใช้ชีวิตทุกฝีก้าว ถ้าเรามัวแต่ป่าวประกาศว่าเราเป็นหรือไม่ได้เป็นแบบไหนนั่นมันคือการเสียพลังงาน ทุกคนเข้าใจแบบไหนไปแล้วก็คงเชื่อไปแล้วแบบนั้น แต่ตัวเราเองแค่ใช้ชีวิตของเราให้ดี เราต้องเลือกที่จะปล่อยผ่าน

วันแย่ๆก็ไม่แย่เสมอไป ถ้าเรารู้จักชื่นชมตัวเอง

คุณเกลเชื่อว่าการชื่นชมเรื่องง่ายๆเล็กน้อยในชีวิตประจำวันให้ได้นั้นมันคือการรักตัวเองที่ดีที่สุด วันๆนึงเราเจอเรื่องราวเยอะแยะมากมาย ถ้าเราเลือกที่จะมองแต่เรื่องแย่ๆก็เหมือนกับการมองจุดสีดำบนกระดาษขาว ซึ่งหมายความว่าเราก็จะไปโฟกัสแต่กับสิ่งนั้นทำให้เรามองว่าวันนี้แย่จัง 

เลือกอยู่กับคนที่เขาอยากจะอยู่ ไม่ใช่คนที่ต้องร้องขอ

ไม่ต้องเลือกใครแค่เลือกตัวเอง เพราะเรามีคุณค่ามากพอ

คุณเกลเชื่อว่าความรักมีอยู่รอบตัวเรา วันนี้กินข้าวรึยัง ก็ถือเป็นความรักอย่างหนึ่ง ความรักจากเพื่อน ครอบครัว พี่น้อง ทุกอย่างหลักๆมันคือการแคร์กันและกัน ถามว่าวันนี้เป็นยังไงบ้าง นั่นก็คือการแสดงความรักอย่างหนึ่ง

คุณเกลเล่าว่า ถ้าสิ่งที่เรากำลังได้รับมันคือความผิดหวัง ความเศร้า เราจะหันกลับมาถามตัวเองก่อนเลยว่าเราสมควรที่จะได้รับมันไหม ควรมานั่งร้องไห้จริงรึป่าว ถ้าเราเสียใจก็เสียใจให้เต็มที่ ร้องไห้ให้พอแล้วจะมีจุดนึงที่เราจะถามตัวเองว่า เราทำอะไรอยู่ ชีวิตมันต้องไปต่อ ชีวิตมีอะไรอีกหลายอย่างมากอย่าไปจมกับอะไรนานๆ

ถ้าเราเห็นคุณค่าของตัวเราเองหรือเห็นคุณค่าในชีวิตของเรามันจะทำให้เราลุกขึ้นได้เร็วขึ้น อย่ามองความทรงจำทั้งดีและแย่ที่ผ่านมา ก่อนหน้าที่จะมีเขาเรายังอยู่ได้ จะมีหรือไม่มีชีวิตต้องไปต่อ

ไม่ต้องพยายามเป็นใคร แค่เป็นตัวเองให้มีความสุข

คุณเกลเธอมีความเชื่อเสมอว่า อย่าตามหาสิ่งที่เราวาดฝันไว้ เพราะเราจะสมควรกับสิ่งที่จะได้มันจริงๆในเวลาและจังหวะที่ถูกต้อง อย่าพยายามเอาตัวเองไปลำบากและเหนื่อยเพราะคนอื่น ถ้าจะเอาใครเข้ามาในชีวิตแล้วทำให้เราเสียพลังงานให้ตัดออก อยู่คนเดียวมีความสุขไหมก็อยู่คนเดียวดีกว่า ถ้ามีใครคนนั้นแล้วดีก็ดี แต่อย่าไปพยายามตามหาเพราะเราจะเสียพลังงานดีๆ

ติดตามได้ที่ IG: gailgales

อ่านเรื่องราวอื่น ๆ ได้ที่ CLEO Thailand และ FB > CLEO

More