อีกเมืองที่เที่ยวได้สนุกครบมาก ทึ่งในหลายสิ่ง อินในเกือบทุกอย่าง รักในความเวียดนาม และตื่นเต้นในความปังของประเทศที่กำลังแผ่ความเจ๋งไปเรื่อยๆ! โฮจิมินห์ ซิตี้
ตั้งแต่หลังปี 1975 เมืองไซ่ง่อนก็กลายเป็นเมืองโฮจิมินห์ เมืองบนแม่น้ำไซง่อนที่สงบสุข ทันสมัย มีกลิ่นอายของความรู้สึกในอดีต และแรงขับที่ก้าวไปพร้อมๆ กันของผู้คน ใครมาโฮจิมินห์จะรู้สึกว่าเมืองนี้กำลังเปล่งประกาย สนุก ใสซื่อ กระตือรือร้นและสวยงาม สมกับที่เขาเรียกตัวเองกันว่าเป็น “Vibrant Ho Chi Minh City”
8 ความเป็นโฮจิมินห์ที่อยากให้เข้าไปดูใกล้ๆ และถอยออกมาดูไกลๆ
ดูใกล้ให้ลึกซึ้งในความตั้งใจและความใส่ใจของชาวเวียดนาม และดูไกลเพื่อมองโฮจิมินห์เป็นหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญตัวหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่กำลังเปล่งแสงเป็นเดสติเนชั่นของโลก
- เมือง แม่น้ำ และไลฟ์สไตล์
สังเกตได้เลยว่าสิ่งที่ชาวโฮจิมินห์ภูมิใจกันมากคือแม่น้ำไซ่ง่อนอันกว้างใหญ่สวยงาม ตึกสูงรอบๆ ความเย็นของแม่น้ำ ลมพัดเรื่อยๆ ทำให้ช่วงเวลาเย็นๆ มีชาวเวียดนามออกมาใช้ชีวิตพักผ่อนกันริมแม่น้ำชิลล์ๆ และเรือดินเนอร์พานักท่องเที่ยวล่องไปตามล้ำน้ำพร้อมกับเพลงเพราะๆ สากลบ้าง เวียดนามบ้าง งานสำคัญๆ อะไรของเมือง เขาจะมักจัดกันไปตามแม่น้ำไซ่ง่อน ถือเป็นไฟลท์บังคับว่าถ้ามา ต้องไปลงเรือดินเนอร์กันสักคืน!
2. ถนนที่มีต้นไม้สูงๆ ผังเมืองเหมือนในปารีส
ความสวยงามของโฮ จิ มินห์อย่างหนึ่งคือผังเมือง และตึกรามบ้านช่อง โฮจิมินห์เคยเป็นเมืองที่ฝรั่งเศสเข้ามาดูแล สถาปัตยกรรมและการวางผังเมืองจึงมีกลิ่นอายของปารีส เกือบทุกถนนต้องมีต้นไม้สูงๆ ระไปกับสถาปัตยกรรมอินโดไชน่า และมีความเป็นเวียดนามใต้ ในขณะเดียวกันก็มีความมินิมัล มีความทันสมัยที่อาร์ตๆ ทีเดียว ผังเมืองจะมีถนนเส้นยาวไป แล้วมีสแควร์ตรงกลางตกแต่งเป็นสวนดอกไม้ หรือเป็นต้นไม้สูงเรียงรายกันกลางสแควร์นั้น เดินเล่นรอบเมืองเลยเพลินๆ ได้
3. คาเฟ่เยอะมาก ถึงกับมีตึกหนึ่งที่เป็นคาเฟ่ทั้งตึก
คาเฟ่ในโฮ จิ มินห์มีทั้งแบบแบรนด์หลักๆ อย่าง Highlands Coffee และก็มีแนวอินดี้มากมาย จนไปถึงตึกสูงตึกหนึ่งที่ในนั้นมีแต่ร้านคาเฟ่ให้เดินวนเลือกกันได้ตามสไตล์ และกาแฟเวียดนามอร่อยอยู่แล้ว มีให้เลือกกินทั้งแบบผสมนมข้นหรือแบบปกติ ยังมีร้านกาแฟที่เอาเก้าอี้ตัวเตี้ยวออกมาตั้งวางหน้าร้านให้นั่งเหม่อมองไปข้างหน้ากัน ร้านกาแฟแทรกตัวไปในทุกถนนคล้ายๆ ในไทย จนกลายเป็นไลฟ์สไตล์ของชาวเวียดนามไป แต่ก็มีร้านแนวสตรีทขายกันเหมือนร้านกาแฟอาแปะบ้านเรา มีคนมาต่อคิวซื้อเยอะอยู่เลย
4. ศิลปะทั้งอิงมาจากสงคราม คอนเท็มโพลารี่ และแนวอิงความโลคัล
ในโฮ จิ มินห์มีศิลปะให้ดูหลายที่อยู่นะ ทั้งมิวเซียมใหญ่ๆ อย่าง The National Museum of Fine Arts มิวเซียมลุงโฮ หรือแกเลอรี่ตามถนนที่เดินๆ แล้วเจอ ภาพก็จะมีทั้งแนวอิงสงครามในอดีต ชีวิตผู้คนที่ผ่านสงครามมาแล้วค่อยๆ มีความสุข ภาพแนวจิตกรรมฝาผนัง งานปั้นที่มีความเฟมินีน ศิลปะคอนเท็มโพลารี่ที่ก็อาจจะติดกลิ่นสงครามมาเหมือนกัน และภาพวาดวิวทิวทัศน์ในความเป็นเวียดนามอันสวยงาม ศิลปะแผ่ไปในทุกที่ได้ในเมืองนี้ จนถ้าหลับตานึกจะเห็นประกายวิบๆ ของศิลปะแว่บเข้ามาในความรู้สึก เติมความ Vibrant ให้โฮ จิ มินห์ได้ลงตัวเลย
5. ถนนร้านหนังสืออันรื่นรมย์
Book Street คือถนนเส้นเล็กๆ ที่มีแต่ร้านหนังสือสองข้างทาง มีม้านั่งให้นั่งเล่น หนังสือส่วนใหญ่จะเป็นแบบมือสอง และมีเครื่องเขียนอาร์ตๆ ของศิลปินชาวเวียดนามขายตามร้านต่างๆ มีร้านหนังสือเก่าทำมือ และร้านอาหาร ร้านกาแฟ คนรักหนังสือยังไงก็ต้องมาที่นี่ และถ้าเดินต่อไปอีกนิด ก็จะมีถนนเส้นเล็กๆ ใกล้ๆ มีร้านอาหารเวียดนามอร่อยสไตล์คาเฟ่อยู่ เดินต่อไปก็ไปเจอตึกคาเฟ่และมิวเซียมต่างๆ เป็นย่านที่น่าเดินเล่น ไม่ต้องเรียกรถ เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ได้
6. กาแฟ ช็อคโกแลต ปอเปี๊ยะ ชุดอ๊าวหญ่าย หมวกเวียดนาม
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่พลาดไม่ได้ถ้าได้ไปโฮ จิ มินห์ นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ของชาวเวียดนามแล้ว ยั่งดีงามจริงๆ กาแฟจะเข้ม หอม และละมุนๆ ช็อคโกแลตเข้มข้น หอมอร่อย ปอเปี๊ยะแห้งเหนียว ไส้ทะลัก ชุดอ๊าวหญ่ายใส่ยังไงก็สวย อ้อนแอ้นและสง่างาม หมวกเวียดนามกันแดดได้จริง และสวยเสมอ ถ้าได้เจอก็ควรจะลองให้หมด สั่งกาแฟเวียดนาม กินช็อคโกแลตเวียดนาม และถ้าได้ไปงานแฟร์ของเวียดนาม อย่างงาน The International Travel Expo Ho Chi Minh City หรือ ITE จะได้ลองทุกสิ่งมากมายตระการตาในงานมากๆ ซื้อเลยนะ เพราะดีหมดจริงๆ
7. โชว์จับใจที่ ไซ่ง่อน โอเปร่า เฮาส์ และเวสป้า ทัวร์
อีกความเป็นเมืองไซ่ง่อนที่เราจะสัมผัสได้คือโชว์ดิบๆ ที่แสดงกันที่ Saigon Opera House โชว์ที่ชื่อ AO Show นักแสดงเล่นกันแบบพรอพไม่เยอะ ไม้ไผ่ ฝาชียักษ์ แต่ลีลาและอินเนอร์เต็มมากๆ โชว์เล่าเรื่องความเป็นหมู่บ้านของชาวเวียดนาม ไล่มาจนถึงความเป็นเมือง พลังการตีลังกาของนักแสดง สีหน้า ความรู้สึกแน่นๆ ที่มาเต็มตลอดโชว์ ทำให้เราเข้าใจความเป็นคนเวียดนามได้จับใจ และทัวร์บนมอเตอร์ไซค์เวสป้าหลังดูโชว์ คนขับพาเราไปตามถนนตอนค่ำ ขับผ่านแม่น้ำไซ่ง่อน พาไปกินสตรีท ฟู้ดชื่อดัง เราเลยได้สัมผัสกับจิตวิญญาณของโฮ จิ มินห์และคนเวียดนามเข้าไปในสายเลือดเลย เป็นความโลคัลจริงใจๆ ที่ไม่ลืมแน่นอน
8. โฮ จิ มินห์ได้เป็นฮับจัดงานใหญ่ๆ ระดับโลกด้านท่องเที่ยว
เวียดนามได้ถูกยกให้เป็นประเทศในการจัดงานใหญ่ๆ ของโลกแล้ว ล่าสุดกับงาน The International Travel Expo Ho Chi Minh City 2024 ในเดือนกันยายน งานนี้ถือเป็นอีเวนท์ด้านท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม และยังรวมถึงประเทศต่างๆ ทั่วโลกถึง 40 ประเทศได้มารวมตัวกันออกบูธท่องเที่ยวที่นี่ด้วย บริษัทที่เข้าร่วมงานมีกันถึง 400 บริษัททั่วโลก ภายในงานจะมีบูธทั้งสินค้าเวียดนาม บูธโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และมีพนักงานประจำบูธมากมายที่คอยแนะนำ ใครอยากเห็นแหล่งที่เที่ยวใหม่ๆ ต้องมาเดินที่นี้ จะได้รู้จักอะไรที่ไม่รู้จักเพียบมากๆ ถือเป็นการร่วมมือกันของชาวเวียดนามทั้งประเทศ และในงานนี้สื่อต่างประเทศจำนวนมากได้รับเชิญให้มาร่วมงาน และเที่ยวไปในเวียดนามร่วมกันอีกด้วย เรียกว่าตั้งใจกันเพื่อสร้างการท่องเที่ยวของเวียดนามให้ระเบิดไปทั้งโลก
อ่านเรื่องราวอื่นๆ ต่อได้ที่ คู่แฝดที่รักการท่องเที่ยว