8 นิสัยที่ต้องแก้ด่วนของสาวผิวแห้งขาดน้ำไม่ไหว! คลีโอจัดเต็มความชุ่มชื้นที่ได้รางวัลแห่งปี

มีงานวิจัยบอกเอาไว้ว่าพฤติกรรมที่ทำซ้ำๆ เกิน 21 ครั้งจะทำให้กลายเป็นนิสัย และถ้านิสัยเหล่านั้นทำให้ผิวแห้งเกิดเป็นปัญหาริ้วรอย แต่งหน้าไม่ติดทน หน้าโทรมไม่สดใส ยังไงก็ต้องรีบแก้! คลีโอขอรวม 8 เช็คลิสต์ที่เปลี่ยนให้ผิวชุ่มชื่นดูสุขภาพดีขึ้นในเวลาไม่นาน ปรับแล้วเห็นผลแน่นอน

คลีโอเจาะลึกสารสกัด & นวัตกรรมที่ Riviera Suisse คิดค้นเพื่อผิวที่มีปัญหาริ้วรอย หย่อนคล้อยและหมองคล้ำ

บางครั้งปัญหาผิวซับซ้อนกว่าที่คิด การดูแลอาจจะแก้แค่ปัญหาเดียวคงไม่ได้ ทั้งริ้วรอย หน้าไม่กระชับ มีจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ปีนี้คลีโอได้มีโอกาสไปเห็นถึงที่มาส่วนผสมของผลิตภัณฑ์สกินแคร์ Riviera Suisse ว่ามาจากธรรมชาติในป่าลึก และได้ลองใช้ในหลายๆ ไลน์โปรดักท์ รู้สึกว่าเห็นผลกับผิวคนเอเชียได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาผิวที่มีริ้วรอย หน้าหย่อนคล้อย ต้องยอมรับเลยว่าการค้นหาส่วนผสมที่เป็นเอกสิทธิ์กว่า 20 ชนิด บวกกับประสบการณ์ในด้านการผลิตยามากว่า 100 ปี ทำให้เราเห็นถึงความตั้งใจที่จะดูแลผิวให้ผู้หญิงทุกคนจริงๆ




Women's Stories, Career

“Strategist” สาวมาแรงสุดในวงการเอเจนซี่ กับ 8 บทเรียนชีวิตของเธอ เปรียว-สขิลา บานเย็น

ผู้หญิงทำงาน เปรียว สขิลา บานแย้ม

เธอมาแรงเพราะด้วยวัยเพียง 36 ปี เปรียว-สขิลา บานเย็น คือ Strategist ที่หาตัวจับยากที่สุดในวงการเอเจนซี่ อาชีพที่น้อยคนจะเป็นได้ โหดและยากจริง ที่โจทย์ของเธอคือ ต้องปั้นการสื่อสารของแบรนด์ที่ดูแลให้เป็น game changer ให้ได้!

ผู้หญิงคนนี้ เปรียว-สขิลา บานเย็น Head of Strategy นักวางกลยุทธ์ยืนหนึ่งของเอเจนซี่ VML เอเจนซี่อินเตอร์ระดับท็อปๆ ของไทย เปรียวต้องเข้าใจทุกสิ่งในเชิงลึก เพื่อออกมาเป็นกลยุทธ์ครีมๆ ปั้นแนวทางการสื่อสารเพื่อมอบให้ครีเอทีฟนำไปคิดงานต่อ จนกลายมาเป็นโฆษณาที่สร้างความแตกต่างของแบรนด์ และโดนใจผู้คนในวงกว้าง เปรียวต้องเข้าใจแบรนด์ เข้าใจการตลาด ดักทางเทรนด์และผู้บริโภค รู้มุมการคิดงานเชิงครีเอทีฟ เธอต้องจบทุกสิ่งให้ได้ภายในตัวเธอ เปรียวเลยต้องย่อยข้อมูลมหาศาล บวกกับประสบการณ์ การสังเกตของเธอ สาดเป็นกลยุทธ์ล้ำๆ เพื่อให้ครีเอทีฟเอาไปเป็นต้นตอไอเดียคิดงานต่อ

เปรียวจึงต้องแม่นยำ คาดการณ์ล่วงหน้า มีความคิดสร้างสรรค์ ในความเป็นผู้หญิงทำงานที่มีสกิลล์แบบเธอ คลีโอเลยอยากรู้ว่า “อะไรที่เปรียวต้องย่อยเข้าไปแล้วผุดออกมา?” “เปรียวเรียนรู้จักโลกยังไง?” “ประสบการณ์และเซนส์สำคัญกับอาชีพนี้มั้ย?” “ความลับในการเป็น strategist ของเปรียวคืออะไร?” เราอยากรู้จักอินเนอร์ และหัวใจของเธอ ผู้หญิงที่ขึ้นเวที Marketing Oops Summit 2025 อย่างมั่นใจเพื่อเล่าเทรนด์ในการพัฒนาแบรนด์ระดับโลกแบบเธอ ไม่ได้มีกันง่ายๆ แน่นอน!

และนี่คือ 8 ความเป็นเปรียวทั้งเรื่องงาน ชีวิต การมองโลก เธอจริงและไปสุด เราถึงยกให้เปรียวคือ Strategist สาวที่มาแรงที่สุดในวงการเอเจนซี่!

1. เราต้องกล้าลองผิดลองถูก..

เวลาทำงานเปรียวจะไม่คิดถึงปัญหาหรือความยากใดๆ เธอใช้ความเป็นเธอที่สะสมมาตั้งแต่วัยรุ่นที่เปรียวบอกว่า “ทำอะไรแล้วทำให้สุดไปเลย ผิดถูกไม่เป็นไร ต้องกล้าแล้วไปสุด ความสุดจะมอบรางวัลให้เรา เพราะพอสุดเราจะไม่เครียด จะศิโรราบให้กับความเป็นไปของโลก เวลาเจอปัญหาก็แค่สนุกไป ก็เลยไปให้สุด เกิดเป็นความมันส์ ไฟลุก พลังแบบนี้เลยทำให้ไม่ท้อใดๆ”

2. เราไม่ต้องพิสูจน์ตัวเรากับใคร

เปรียวเองกว่าจะมาถึงจุดนี้เธอเคยท้อมาก่อนจนเธอมาเจอว่า “เราเคยอยากพิสูจน์ตัวเองว่าต้องทำให้ได้นะ เรากดดันตัวเองเลย จนเคยท้อแล้วก็ได้เรียนรู้ว่า ตัวตนเรา เราไม่ต้องพิสูจน์อะไรจากใครเลย แค่นั้นเราก็ไม่ต้องแบกความกดดันใดๆ แล้ว เราปลดล็อคเรื่องนี้ได้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเราอยากไปทำงานที่นิวยอร์ค ก่อนขึ้นเครื่องนั่งกินไวน์กับเพื่อน เพื่อนพูดว่า “ขออย่างหนึ่งนะ ไม่ต้องพิสูจน์ให้ใครเห็นหรอกว่าแกมีดี” คำพูดเพื่อนแค่นั้นปลดล็อคเราหมดเลย เราตื่นทันที” ตอนนั้นเปรียวอายุเพียง 33 ปี และเธอได้งานเป็น Director of Strategy VML, New York

3. เราอยากรู้ อยากเข้าใจไปหมด

นิสัยอย่างหนึ่งของความเป็นเปรียวคือเธอบอกว่า “เราอยากรู้ อยากเข้าใจว่าคนๆ นี้คิดยังไง ทำไมถึงคิดแบบนี้ ทำไมแต่งตัวแบบนี้ อยากรู้ของทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เราเลยเลือกนั่งบีทีเอส นั่งรถเมล์ตลอด เพราะเราอยากรู้ว่าคนเขาคุยอะไรกัน ถ้าเราอยากรู้ว่าเขามี pain อะไร เราก็ต้องเข้าไปในโลกของเขา แล้วเราก็ซึมทุกอย่างที่เราสังเกตมาเข้ามาอยู่ในตัวเราทั้งหมด” ซึ่งความเป็นเปรียวเรื่องนี้คือจุดเฉือนในการเป็น Strategist ของเธอเลย เปรียวเลยมีข้อมูลเพียบ จับเทรนด์เก่ง มองอะไรค่อนข้างแม่นยำ ประสบการณ์ที่เธอเจอด้วยตัวเองคือ living proof ในชีวิตจริงของเธอนั่นล่ะ

4. เราต้องฟัง เปิดกว้าง เราถึงจะเข้าใจ

ธรรมชาติของลักษณะงาน Strategist ที่สำคัญมากๆ ก็คือการเข้าใจแบรนด์ เปรียวจึงเป็นคนที่เปิดกว้างเพื่อจะฟัง และเธอเลยได้เข้าใจ “งานเราต้องเข้าใจแบรนด์ ต้องเข้าใจคู่แข่งทางการตลาด เข้าใจผู้บริโภคในเชิงลึก ต้องมีโลจิคในการคิด ต้องหาจุดที่จะชนะให้เจอ แล้วเอาทั้งหมดไปให้ครีเอทีฟทำงาน เราเลยต้องฟังให้เยอะ ใจนี่ตัดสินอะไรก่อนไม่ได้เลย เราต้องละอีโก้ตัวเองเพื่อเปิดกว้างให้ที่สุดด้วย”

5. เรามีจุดมุ่งหมายในการทำงานเสมอ

เปรียวบอกว่าเธอเป็นคนมีแรงขับ มีพลังทะเยอทะยานในการทำงานสูง เธอต้องตั้งจุดมุ่งหมายในการทำงานให้ตัวเอง และหาความรู้เพิ่มเติมเสมอ สิ่งหนึ่งที่เปรียวปักไว้ว่าเธอต้องทำให้ได้ก็คือ “เราอยากสร้างทีม strategist ที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่แข็งแกร่งและเก่งให้ได้” ในเอเจนซี่คนอาจจะคุ้นกับอาชีพครีเอทีฟ แต่เบื้องหลังของการคิดงานครีเอทีฟนั่นล่ะคือ strategist คนที่จะตีความทุกสิ่งมาให้ครีเอทีฟใช้เป็นไอเดียคิดงาน “เราอยากกรูมคนรุ่นใหม่ให้เขารักความเป็น strategist อยากให้เขาเอนจอยด้วย เพราะนี่คืออาชีพที่สนุกจริงๆ” เปรียวมีพลังความเชื่อในคนรุ่นใหม่แบบ 100% เธอบอกว่า “เราไม่เห็นความเปราะบางในคนรุ่นใหม่นะ เรามองว่าเขาคือมนุษย์ที่อาจจะแค่ยังไม่เจอคลื่นที่ถูกจริต”

6. เรามีบาลานซ์ที่ไม่จำเป็นต้องทุ่มทั้งชีวิตให้กับงาน

สิ่งหนึ่งที่เปรียวบอกเราว่าเรื่องนี้สำคัญมาก เปรียวย้ำว่าไม่ว่างานจะมีธรรมชาติที่ต้องเร็วและต้องฟาดแค่ไหนก็ตาม “เราไม่ได้ทุ่มทั้งชีวิตให้กับการทำงานนะ เราหาวิธีบริหารงานให้ฉลาดและไปใช้ชีวิตของเราด้วย” เปรียวคือสาวทำงานที่เข้ายิม 4 วันในหนึ่งอาทิตย์ ไปแฮงค์เอาท์เสมอๆ สนใจการพบปะผู้คน เรียนรู้เรื่องอื่นๆ ตลอดเวลา

7. เราไม่จำเป็นต้องเอาความ romanticize มาใช้

ขอยกให้เป็นเคล็ดลับในการเป็นผู้หญิงทำงานของเปรียว ที่ทำให้เธอมีแรงทำงานได้สนุกเสมอเลยก็คือ เปรียวไม่อ่อนไหวไปกับเรื่องความรัก สิ่งนี้ล่ะที่ทำให้เธอรักษาพลังงานให้คงมั่นได้ ถือเป็น big idea ที่เปรียวอินสไปร์พวกเราเลย เธอบอกว่า “เราต้องห้าม romanticize อย่าเอาอารมณ์ความรักมาเป็นที่ตั้งของชีวิต ถ้าไปเดทกับใครก็คือการได้เรียนรู้จักอีกคน ถ้าเจอสัญญาณไม่ดีก็ถอย แต่ถ้าเราทุ่มให้กับการอยู่ในอารมณ์รักปั๊บ จะพังทันที เอาตัวเองถอยออกมาแล้วมองเข้าไป เราจะรู้ว่าคนนี้ไปกับเราได้มั้ย เราจะถอยทัน คิดให้วิน-วิน มีช่วงเวลาดีๆ กัน มีความสุข จบ แต่ไม่เอามาเวิ่นในอารมณ์ของการ romanticize”

8. เราแค่ ride the wave

เป็นมอตโตของเปรียวที่เธอใช้ในการทำงานและการใช้ชีวิตตลอดคือ “ไม่ว่าชีวิตมายังไง เราก็แค่โต้คลื่นไปกับมัน เรา ride the wave ไปเลยไม่ว่าจะมาท่าไหนก็ตาม แล้วจะเกิดความมันส์ เราจะมีหนทางในการแก้ปัญหาได้เสมอ เราไม่ต้องยึดติดกับสิ่งที่มา หรือไม่ต้องตื่นตระหนกใดๆ ล้อไปบนคลื่นนั้นแหละ เดี๋ยวเราจะเจอทางเอง”

ในงาน Marketing Oops Summint 2025

เปรียว-สขิลา บานเย็น ขึ้นเวทีในนาม Strategist จาก VML เธอสรุปสิ่งที่อยากบอกแบรนด์เกี่ยวกับคนรุ่นใหม่มา คลีโอสรุปมาได้ประมาณนี้….

9 เทรนด์ของคนรุ่นใหม่ เพื่อให้แบรนด์ได้เบลนด์เข้ากับพวกเขา

1. คนรุ่นใหม่จะโหยหาความรู้สึกที่สัมผัสได้จริง ไม่ว่าเขาจะติดออนไลน์แค่ไหน แต่ความโหยหาที่จริงนั่นล่ะ ถึงจะเข้าไปมีความหมายกับเขา แบรนด์จึงควรผสมการทำออนไลน์มาออฟไลน์ด้วย เพื่อให้คนได้นำไปใช้กับชีวิตจริงของเขา

2. ต้องหาทางสร้างค่านิยมร่วมกัน แบรนด์ทำอะไรต้องไปสร้างจุดมุ่งหมายให้กับคนรุ่นใหม่ ให้เขาสามารถแสดงออกถึงความเป็นตัวเอง ความดีพื้นฐานในตัวเขาออกมาได้ สิ่งที่แบรนด์ทำจึงต้องทำได้จริงด้วย

3. คนรุ่นใหม่มีความรอบคอบในการใช้เงินนะ เขามีระบบจัดการการเงินที่ฉลาด เช่น ยอมอดข้าวเพื่อเก็บเงินไปดูคอนเสิร์ต เขากล้าลงทุนกับความรู้สึกที่เขาชอบ ประสบการณ์เหนือกว่าตัวทรัพย์สินสำหรับเขา

4. พวกเขาคือนักประมวลข้อมูลที่เร็วที่สุด แบรนด์ต้องเอาความอยากรู้ของพวกเขามาดึงให้เป็นความสนใจของเขา แล้วเขาจะดำดิ่งไปกับแบรนด์ ความเก่าคือความใหม่สำหรับคนรุ่นใหม่ได้

5. คนรุ่นใหม่เขาต้องการใช้สมาธินะ slow content มีพลังดึงสมาธิของเขา แบรนด์ควรนำเรื่องนี้มาเชื่อมต่อกับเขา

6. แบรนด์ต้องโอบกอดความย้อนแย้งของพวกเขาให้ได้ ไปให้สุดกับพวกเขาแล้วเขาจะกลับมาบาลานซ์เอง

7. พวกเขาอยากโดดเด่นแต่ไม่อยากโดดเดี่ยว คอมมิวนิตี้จึงสำคัญมากสำหรับเขา

8. แบรนด์ต้องคอยจุดประกายความเป็น well-being ให้เขาด้วย สิ่งนี้จะกลายเป็นพลังและเป็นตำนานให้กับแบรนด์ พวกเขาจะเห็นความหมายของแบรนด์ได้

9. แบรนด์ต้องจริง ต้องโปร่งใส ต้องไม่ลำเอียงเข้าข้าง!

อ่านเรื่องราวอื่นๆ ของคลีโอได้ที่ “Great Career Shift” สภาวะเปลี่ยนสายงาน 2025

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']