8 นิสัยที่ต้องแก้ด่วนของสาวผิวแห้งขาดน้ำไม่ไหว! คลีโอจัดเต็มความชุ่มชื้นที่ได้รางวัลแห่งปี

มีงานวิจัยบอกเอาไว้ว่าพฤติกรรมที่ทำซ้ำๆ เกิน 21 ครั้งจะทำให้กลายเป็นนิสัย และถ้านิสัยเหล่านั้นทำให้ผิวแห้งเกิดเป็นปัญหาริ้วรอย แต่งหน้าไม่ติดทน หน้าโทรมไม่สดใส ยังไงก็ต้องรีบแก้! คลีโอขอรวม 8 เช็คลิสต์ที่เปลี่ยนให้ผิวชุ่มชื่นดูสุขภาพดีขึ้นในเวลาไม่นาน ปรับแล้วเห็นผลแน่นอน

คลีโอเจาะลึกสารสกัด & นวัตกรรมที่ Riviera Suisse คิดค้นเพื่อผิวที่มีปัญหาริ้วรอย หย่อนคล้อยและหมองคล้ำ

บางครั้งปัญหาผิวซับซ้อนกว่าที่คิด การดูแลอาจจะแก้แค่ปัญหาเดียวคงไม่ได้ ทั้งริ้วรอย หน้าไม่กระชับ มีจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ปีนี้คลีโอได้มีโอกาสไปเห็นถึงที่มาส่วนผสมของผลิตภัณฑ์สกินแคร์ Riviera Suisse ว่ามาจากธรรมชาติในป่าลึก และได้ลองใช้ในหลายๆ ไลน์โปรดักท์ รู้สึกว่าเห็นผลกับผิวคนเอเชียได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาผิวที่มีริ้วรอย หน้าหย่อนคล้อย ต้องยอมรับเลยว่าการค้นหาส่วนผสมที่เป็นเอกสิทธิ์กว่า 20 ชนิด บวกกับประสบการณ์ในด้านการผลิตยามากว่า 100 ปี ทำให้เราเห็นถึงความตั้งใจที่จะดูแลผิวให้ผู้หญิงทุกคนจริงๆ




Career

ทำงานเสร็จ แบบเวิร์คและเห็นผลที่สุด ต้องใช้เทคนิคอะไร?



“เลิกทำลิสท์สิ่งที่ต้องทำ แล้วคอยติ๊กว่าทำอะไรเสร็จแล้ว
แต่เปลี่ยนมาโฟกัสกับสิ่งที่ทำ แบบที่ไม่มีอะไรมาเบนความสนใจคุณจากสิ่งนั้นได้”

เนอร์ อียาล เจ้าพ่อซิลิคอน วัลเลย์ และผู้เขียนหนังสือขายดีของนิวยอร์ค ไทม์ เขาเชี่ยวชาญที่สุดคือ ช่วยคนให้พัฒนาพลังในการโฟกัสกับสิ่งที่ทำ แบบที่ไม่ว่อกแว่กไปทำอย่างอื่น เขาบอกว่า “ผมไม่อยากให้คุณนั่งเช็คว่าทำอะไรเสร็จแล้วบ้างนะ การทำลิสท์สิ่งที่ต้องทำน่ะ เป็นวิธีที่ไม่แนะนำเลย ว่าจะทำให้งานมีประสิทธิผล บอกเลยว่ามันไม่เวิร์ค” เนอร์บอกว่าการที่เรานั่งวัดผลตัวเองทุกวัน คอยติ๊กถูกข้างหน้าสิ่งที่เราต้องทำน่ะ เรากำลังทำผิดพลาดอยู่นะ

เนอร์ให้เหตุผลว่าเพราะ…ลิสท์สิ่งที่ต้องทำน่ะ ไม่มีลิมิต เราจะลิสท์มารัวๆ ว่าฉันอยากทำอะไรบ้าง แล้วมันก็สามารถยาวไปได้เรื่อยๆ เนอร์บอกว่า “ในชีวิตผม ผมไม่เคยเจอใครที่สามารถทำลิสท์สิ่งที่ต้องทำเสร็จหมดนะ” เนอร์ฟันธงว่ามันเป็นวิธีที่ขัดแย้งกับความเป็นจริง ที่เราเอาโวลุ่มเป็นตัววัดว่าเราทำอะไรเสร็จไปแล้วบ้าง เพราะสิ่งสำคัญกว่านั้นคือ….

“ฉันได้ทำสิ่งที่ฉันตั้งใจจะทำหรือยัง แบบที่ไม่มีอะไรมากวนสมาธิของฉันได้”

มันไม่ใช่เรื่องว่าเราทำอะไรเสร็จบ้าง แต่สิ่งที่เราตั้งใจจะทำน่ะ เราได้นั่งทำมัน และไม่ไปไหนจากสิ่งนั้นไหม?

เนอร์ย้ำว่าถ้าเรายังทำลิสท์สิ่งที่ต้องทำอยู่ ทุกวันๆ ตอนเช้า ตอนกลางคืน เราจะเอากระดาษ ปากกามานั่งเขียนลิสท์ และย้ำกับตัวเองว่า “ตายล่ะ ฉันยังไม่ได้ทำสิ่งนี้เลย” ความรู้สึกที่เราจะมีให้ตัวเองก็คือ “ฉันไม่รับผิดชอบอีกแล้ว ฉันเฉื่อยไป ทำไมฉันไม่ทำมันให้เสร็จ” และนั่นล่ะเราเริ่มรู้สึกไม่ดีกับตัวเองแล้ว

แต่ถ้าเราเปลี่ยนเป็นแค่คิดว่า “ฉันได้ทำสิ่งที่ฉันคิดจะทำ แบบที่ไม่มีอะไรมาขวางให้สมาธิหลุดไปได้ไหม?” เราจะเริ่มกลับเข้ามาโฟกัสกับสิ่งที่ต้องทำทันที สิ่งสำคัญจะไม่ใช่ว่าฉันทำอะไรไปแล้วบ้าง แต่เราจะสนว่า “สมาธิฉันโฟกัสได้มีประสิทธิภาพจริงๆ ไหม?” คำว่า “ไม่ยอมให้อะไรมารบกวน” จะเป็นประโยคใหม่ในใจเรา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกครึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมงข้างหน้า ถ้าเราตั้งใจจะทำสิ่งนี้ให้เสร็จแล้ว “เราจะไม่ยอมให้อะไรมาเบี่ยงเบนสมาธิเราไป” นั่นเอง

จากสิ่งที่เนอร์บอก มีข้อมูลซัพพอร์ตออกมาด้วยว่า คนที่ตั้งใจทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ โดยไม่ยอมเสียสมาธิไป และทำให้เสร็จตามตั้งใจน่ะ มักจะทำอะไรเสร็จได้มากกว่า คนที่มีลิสท์สิ่งที่ต้องทำเลยล่ะ

เอาเป็นว่าพอคิดได้แล้วว่าอยากทำอะไรให้เสร็จ มามุ่งทำให้เสร็จเลย ไม่วนเนอะ ไม่ลากยาวว่าต้องทำอะไรบ้างด้วย ลองดูนะว่าจะเวิร์คสำหรับคุณไหม?

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']