ปราง ณัฐกมล นางแบบนู้ดมือใหม่ พร้อมมุมมองความโป๊เปลือยที่อยากให้ทุกคนเข้าใจและเปิดใจ
“ค่าของคนมันอยู่ที่ว่าคนคนนั้นให้ค่าตัวเองเรื่องอะไร”
ปราง ณัฐกมล บัณฑิตสาวป้ายแดงจากอักษร จุฬาฯ เธอเป็นสาวนักกิจกรรมตัวยงที่มากความสามารถและเต็มเปี่ยมไปด้วยเอเนอร์จี้ความสดใสมั่นใจที่สร้างพลังบวกและความสุขให้แก่คนรอบข้างทุกครั้งเมื่อได้พูดคุยกับเธอ
ตั้งแต่เล็กจนโต ปรางเติบโตมากับพลังบวกและการซัพพอร์ตจากครอบครัวอยู่เสมอ เธอได้ทำในสิ่งที่อยากทำ อยากแสดงออกแบบไหน เธอก็กล้าโชว์มันออกมา สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ได้หล่อหลอมจนกลายมาเป็นปรางในวัย 22 ปีที่ใช้ชีวิตในแบบที่เธอต้องการได้อย่างเต็มที่และเอ็นจอยไปกับมัน
ความสุขของปรางคือการได้คุยกับผู้คน
นี่คือสิ่งที่ทำให้เธอมีความสุขและเป็นเหมือนพลังบวกที่ทำให้เธอใช้ชีวิตได้แบบแอคทีฟในแต่ละวัน ด้วยความที่ชอบทำกิจกรรมทั้งในคณะและนอกคณะ หรือพูดอีกอย่างก็คือความชอบในการหาประสบการณ์ใหม่ ๆ และโอกาสดี ๆ ให้กับตัวเอง ทำให้เธอได้ลองทำนู่นทำนี่มาตลอด จนมาวันหนึ่งที่เธอได้รับการชักชวนแบบบังเอิญจากรุ่นน้องให้ไปเป็นนางแบบถ่ายรูปนู้ด ได้ยินแบบนี้ปรางก็ไม่รอช้า โอกาสใหม่ ๆ เดินเข้ามาหาขนาดนี้แล้ว เธอตกลงรับปากไปอย่างไม่ลังเล สิ่งที่เธอโฟกัสไม่ใช่เงินที่จะได้ แต่เป็นประสบการณ์และความสนุกที่เธอจะได้กลับมา
“ไม่เขินเหรอ ถ่ายรูปนู้ด”
เป็นคำถามที่ปรางมักโดนถามอยู่ตลอด ซึ่งสิ่งที่เธอมักตอบกลับไปก็คือ “แล้วทำไมต้องเขิน ทำไมจะต้องอาย” เราได้คุยกับปรางเรื่องนี้ซึ่งเธอเองก็ให้แง่มุมชวนคิดกลับมาให้เราหลายอย่างอยู่เหมือนกัน “พอเราพูดว่าไม่เขิน มันก็ดูเหมือนไม่มียางอายนะ แต่ถ้าถามต่อคือ แล้วเราทำอะไรผิดถึงต้องอับอายขายขี้หน้า เราแค่ถอดเสื้อถ่ายรูป” ซึ่งตัวเราเองพอได้ฟังแล้วก็รู้สึกได้ว่า เออใช่ มันก็จริงนะ การถอดเสื้อเป็นเรื่องปกติ แขน ขา หน้าท้อง หรือหน้าอก ก็เป็นสิ่งธรรมชาติอยู่แล้ว แล้วมันแปลกตรงไหน? ซึ่งนี่แหละ คือหัวใจหลักที่ทำให้ปรางเริ่มต้นถ่ายรูปนู้ด เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ผิดอะไร มันก็คือการถ่ายรูปอีกแนวหนึ่ง เหมือนกับการถ่ายสตรีท ถ่าย landscape อะไรแบบนั้น ซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นแค่การถ่ายรูปนู้ดก็เท่านั้น
ปรางได้เล่าถึงบรรยากาศการถ่ายรูปนู้ด ที่มีอะไรมากกว่าการถ่ายรูป “การถ่ายรูปนู้ดมันคืออาร์ต มันคือศิลปะ มันมีอะไรมากกว่าการเปลื้องผ้าแล้วยิงกล้องมาถ่ายแล้วจบ แต่มันคือศิลปะอย่างหนึ่ง เป็นศาสตร์การถ่ายรูปอีกอย่างหนึ่ง” การถ่ายรูปสู้กับแสงที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว แสงและเงาที่ตกกระทบลงมาสู่เรือนร่าง องศาการวางร่างกาย ท่าทางทุกอย่าง ๆ ล้วนเป็นองค์ประกอบของภาพหนึ่งภาพที่ถูกถ่ายออกมา ทุกอย่างมีกระบวนการอย่างจริงจัง ตากล้องทุกคนที่มีความเป็นมืออาชีพ ให้เกียรติ และตั้งใจถ่ายจนออกมาเป็นรูปนู้ดที่มีเสน่ห์
ทุกอย่างผ่านไปได้สวย ได้รูปออกมาในแบบที่พึงพอใจ ต่อไปก็ถึงเวลาของการลงรูป ก็เหมือน ๆ กับการโพสต์รูปลงไอจีปกตินี่แหละ ปรางเลือกรูป กดโพสต์ เป็นอันเสร็จ ภายในเวลาไม่กี่นาที เธอได้รับคอมเมนต์จากฟอลโลเวอร์อย่างถล่มทลายด้วยคำชมและคำสนับสนุนจากคนรอบข้าง ทำให้ทุกโพสต์ของเธอที่เป็นรูปนู้ดมักจะได้ฟีดแบคแบบปัง ๆ มาตลอด แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อเธอเปิดไอจีขึ้นมาแล้วพบว่า ไอจีได้ทำการแบนรูปของเธอเพียงเพราะแค่เห็นหน้าอกด้วยเหตุผลที่ว่า “มันไม่เหมาะสม” ซึ่งทำให้ปรางเริ่มตั้งคำถามกับสิ่งนี้มากขึ้น “อะไรคือความเหมาะหรือไม่เหมาะสม” สิ่งใดคือตัวชี้วัดความโป๊หรือไม่โป๊ของรูป เพียงแค่ผู้หญิงลงรูปเปลือยอกซึ่งเป็นอวัยวะของมนุษย์ตามธรรมชาติ แต่ทำไมถึงโดนบล็อกโดนแบน แล้วทีผู้ชายถอดเสื้อ ทำไมถึงลงได้ล่ะ มันก็คือร่างกายมนุษย์เหมือนกันไม่ใช่เหรอ? สิ่งนี้ยิ่งทำให้เธออยากหาคำตอบให้เจอว่าทำไมมันถึงลงไม่ได้ อะไรคือความโป๊กันแน่ เหมือนการตั้งคำถามกับความคิดแบบเก่า ๆ ที่มองว่าผู้หญิงต้องเรียบร้อย แต่งตัวดี ๆ ห้ามโป๊ อะไรแบบนั้น และคำตอบที่เธอได้ก็คือ สังคมเราได้ถูกกดทับไว้ด้วยแนวคิดปิตาธิปไตยมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งมันก็เลยทำให้ผู้หญิงนั้นถูกตีกรอบในสิทธิการแสดงออกของตัวเอง และถูกตีกรอบแม้กระทั่งร่างกายของพวกเธอเองด้วยซ้ำ ซึ่งปรางก็ได้พยายามทำให้เห็นว่าสิ่งนี้ควรหมดไปได้แล้ว
พอพูดถึงเรื่องรูปร่างหน้าตา ยังมีคนอีกหลายคนบนโลกนี้ที่ยังไม่มั่นใจกับรูปร่างของตัวเอง ตลอดเวลาที่ได้คุยกับปราง เธอมักจะเน้นย้ำอยู่เสมอว่า ทุกคนสามารถ “สวย” ในแบบของตัวเองได้ และนี่ไม่ใช่คำปลอบใจ แต่เป็นเรื่องจริง “มนุษย์เราเกิดมามีสรีระ มีคอนดิชั่นที่ต่างกัน บางคนเผาผลาญไม่ดีเป็นคนอ้วนง่าย บางคนผอม บางคนเป็นสิวจากฮอร์โมนส์ ขาแตกลาย มันไม่ได้เป็นอะไรเลย มันไม่เคยเป็นอะไร” จนวันนึงที่เราถูกสังคมกำหนดว่าเราจะต้องขาเรียว เอวคอด ไม่มีขน หน้าไม่มีสิว ทำให้คนที่มีความหลากหลายต้องวิ่งเข้าหาสแตนดาร์ดนั้นเพื่อให้เป็นที่ชื่นชอบจากคนอื่น แล้วแบบนี้ถ้าทุกคนมีหน้าตามีหุ่นที่คล้ายกันไปหมด แล้วมันจะไปพิเศษอะไร ? “รอยแตกลาย ขาใหญ่ สิวบนหน้า มันไม่เคยเป็นเรื่องใหญ่อะไร แต่มันกลับเป็นเรื่องใหญ่ก็เพราะสังคมทำให้คนพยายามจะวิ่งเข้าหามาตรฐานความงามที่ตั้งกันไว้ ซึ่งมันใจร้ายต่อความหลากหลายของมนุษย์มาก สิ่งเหล่านี้คือเรื่องธรรมชาติที่เราเลือกไม่ได้ และนั่นแหละที่ทำให้เราเป็นเรา ทำให้เราแตกต่าง”
ปรางได้ทิ้งท้ายไว้ว่า
“เราสนับสนุนให้ทุกคนอยากสวย และเราสนับสนุนทุกคนที่อยากจะเริ่มดูแลตัวเอง แต่เราไม่อยากให้ทุกคนผิดหวังกับสิ่งที่ตัวเองมีแล้วต้องดิ้นรนให้สวยในแบบที่สังคมกำหนดไว้” ถ้าเราเคารพตัวเอง ภูมิใจในตัวเอง และรักในสิ่งที่ตัวเราเป็น เราจะมีความสุขกับรูปร่างของตัวเองแบบที่ไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร “อย่าให้ใครมากำหนดความสวยและกำหนดคุณค่าของเรา มีแค่ตัวเราเองเท่านั้นที่จะกำหนดมันได้”
เราขอเชียร์เธออย่างสุดใจ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนในการหันมารักและเคารพในความสวยในแบบของตัวเองนะ เพราะคุณค่าของเรา เราต้องเป็นคนกำหนดเอง