แต่ก็สร้างความสนุก และความหวังในใจคน
เป็นเรื่องที่ได้รับการยืนตบมือนาน 14 นาทีที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ที่ผ่านมา
นักวิจารณ์บอกกันว่าเรื่องนี้คือ Beauty and the Beast มาเจอกับ The Matrix เวอร์ชั่นออนไลน์ไฮเปอร์โมเดิร์น และแฟรี่เทล เป็นเรื่องเกี่ยวกับชาวเจ-ป๊อบจะกู้โลกยังไง ผู้กำกับคือ “Mirai” มาโมรุ โฮโซดะผลักจินตนาการอันไร้ขอบเขตของเขาไปสู่ความสุดขั้วใหม่ ในแอนิเมะที่น่าตื่นตาตื่นใจเกี่ยวกับวิธีที่เจ-ป๊อบสามารถกู้โลกได้
โฮโซดะเป็นผู้กำกับที่มีความสามารถพิเศษในการถึงสถานที่ที่คุ้นเคย อย่างเรื่องนี้นางเองของ “Belle” เธอเข้าสู่เรื่องด้วยวาฬหลังค่อมที่บินได้และเต็มไปด้วยลำโพงสเตอริโอหลายร้อยตัว ถือว่าเป็นบทนำที่จะทำให้คนดูตื่นตาตื่นใจของสัญลักษณ์บางอย่างในยุคอินเตอร์เน็ตขึ้นมาเลย โฮโซดะเป็นคนที่เกิดมาพร้อมกับหัวใจยิ่งใหญ่ เขาสร้างแก่นแท้ของ “Belle” คือการผสมผสานที่น่าทึ่งระหว่างเรื่องราวเก่าแก่ตามกาลเวลา และเทคโนโลยีที่ยังไม่ได้ประดิษฐ์ขึ้น
หนังแอนิเมะเรื่องนี้ของเขา จึงเหมือนกับเป็นตัวบอกถึงมุมมองอันดุเดือดของยุคนี้ที่มีความแตกแยกในโลกของดิจิตัล แรงบันดาลใจของเรื่องนี้ของโฮโซดะคือหนังแอนิเมชั่น “Beauty and the Beast” เขาบอกว่ามันคล้ายๆ กับเรื่องราวของกวีที่แปลงร่างเป็นเสือของญี่ปุ่น ที่แต่งโดยอัตสึชิ นากาจิมะ เป็นเรื่องราวของชายที่ถูกครอบงำด้วยความหึงหวง และกลายร่างเป็นเสือ เพื่อนคนหนึ่งมาเยี่ยมเขา และอ่านบทกวีให้เขาฟัง โฮโซดะมักได้รับแรงบันดาลใจจากนิทานประเภทนี้ และจากเรื่องราวที่ตัวละครถูกแปลงเป็นสัตว์เพื่อแสดงความเศร้าอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติ
นักวิจารณ์บอกกับว่า
“Belle มีเสน่ห์เหลือเกินจากความคลั่งไคล้ในจิตใจของโฮโซดะ หนังเรื่องนี้อาจยาวเกินไปเมื่อโลกแห่งความจริงและตัว U ดึงมันไปในทิศทางตรงข้าม สงครามระหว่างความรู้สึกพื้นฐานของมนุษย์กับอารมณ์ร่วมที่เต็มไปด้วยสีสัน ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่พวกมันระเบิดออกมาในโลกออนไลน์ สิ่งที่ทำให้ Belle รู้สึกจริงแม้ในขณะที่ล้มลงนั้น ลึกซึ้ง และยิ่งลึกซึ้งยิ่งขึ้นในตรรกะของเทพนิยาย”
“Belle” เป็นเรื่องของผลกระทบทางเทคโนโลยีต่อเด็กวัยรุ่น เป็นเรื่องของสาววัยรุ่น Suzu ที่ในชีวิตจริงเธอมาจากภูเขา และเป็นร็อคสตาร์ที่เป็นเทวรูปในโลกเสมือนจริงของ “ยู” คือเรื่องที่ผู้ใช้ห้าพันล้านคนได้ลงทะเบียนในสังคมเสมือนจริงที่เรียกว่า “U” ซึ่งเป็นช่องว่างขนาดใหญ่ของแสงและหน้าจอ และเต็มไปด้วยอวาตาร์ที่สร้างขึ้นโดยอัลกอริทึม ที่คาดว่าจะดึงเอาจุดแข็งภายในของบุคคลนั้นออกมา สำหรับ Suzu นักเรียนมัธยมปลายขี้อาย เธอเข้ามาหา U ในฐานะนักร้องสาวผมสีชมพูชื่อ Belle ซึ่งเสียงนางฟ้า และเพลงที่สร้างแรงบันดาลใจก็แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว
และเมื่อชื่อเสียงของเธอขึ้นสู่จุดสูงสุด เบลล์ก็พบกับสิ่งมีชีวิตที่เหมือนหมาป่าที่เงียบขรึม ที่ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อความสุขอันละเอียดอ่อนของ “U” เบลล์ตั้งใจแน่วแน่ที่จะเข้าใจที่มาของรอยแผลเป็นบนหลังของเขา แต่ก็ลังเลที่จะติดต่อใดๆ กับเขา แม้ว่าเธอจะค่อยๆ เลื้อยเข้ามาในชีวิตของเขา จนอาจตกหลุมรักเลยด้วยซ้ำ มันเริ่มเหมือนกับ “Beauty and the Beast” ตรงนี้ล่ะ
หนังมีเรื่องราวเกี่ยวกับ ผลตอบรับเชิงลบของผู้ติดตามของเบลล์ ทำให้ซูสุ เด็กหญิงขี้อายในความเป็นเบลล์รู้สึกท้อแท้ จนเพื่อนสนิทของเธอต้องมาให้ความมั่นใจว่าในความเห็นน่ารังเกียจพวกนั้น ก็ยังมีอีกหลายคนที่สนับสนุนเธอนะ เบลล์เลยเป็นหนังที่ทั้งมีปรัชญาความดีของคนที่ไม่เปิดเผยตัวตน จะมาเหนือความน่ารังเกียจในโลกออนไลน์ได้เหมือนกัน เป็นุมุมมองที่เต็มไปด้วยความหวังให้กับวัยรุ่นยุคนี้ได้
สื่อต่างชาติได้ถามโฮโซดะว่าแอนิเมะเรื่องนี้เขาต้องการให้เห็นอะไร? โฮโซดะบอกว่า “ลูกสาววัย 5 ขวบของผม เธอคิดมากเกี่ยวกับโลกอนาคตในขณะที่ผมกำลังทำหนังเรือ่งนี้ ก็เลยเกิดเป็นจินตนาการของผมว่า โลกดิจิตัลจะเป็นยังไงนะ เมื่อเธอโตขึ้นมา” โฮโซดะรู้ว่าอินเตอร์เน็ตจะสร้างปัญหาให้กับโลก แต่ในใจเขาแล้วเขารู้ว่ามันเป็นเครื่องมือที่เราขาดไม่ได้ อยู่ที่ว่าจะใช้ประโยชน์ยังไงมากกว่า
ชมตัวอย่าง ‘Belle’ ที่นี่เลย