เจมี่ สเปียร์ส พ่อของบริทนี่ย์ ตกลงลาออกจากการเป็นผู้ปกครองของลูกสาวแล้ว!!!
เหตุการณ์พลิกผันถือเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่สำหรับป๊อปสตาร์บริทนี่ย์ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของพ่อมาเป็นเวลานาน 13 ปี นับตั้งแต่เจมี่ยื่นเรื่องเป็นผู้ปกครอง (ที่มีสิทธิ์คุมทุกสิ่งเกี่ยวกับบริทนี่ย์) ตามข้อตกลงที่ศาลสั่งเมื่อปี 2551
แต่ในช่วง 13 ปีที่ผ่านมาบริทนี่ย์ฟิตพอที่จะออกทัวร์ร้องเพลงได้ เธอพักอาศัยในลาสเวกัส และรับเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์
แต่ถ้าจะพูดถึงเรื่องราวฟ้องร้องระหว่างบริทนี่ย์และพ่อของเธอ อ่านเรื่องราวมหากาพย์ของเธอได้ที่นี่เลย
https://cleothailand.com/2021/06/lifestyle/entertainment/1534/
บริทนี่ย์ได้เรียกร้องให้ผู้พิพากษาถอดพ่อของเธอออกจากการเป็นผู้ปกครองของเธอ บริทนี่ย์ได้แสดงความต้องการอิสระจากพ่อของเธอจนถึงขั้น บอกศาลว่าเธอต้องการ “ฟ้องร้อง” พ่อของเธอ และอยากให้เขาติดคุกด้วย!
ทนายความคนใหม่ของบริทนี่ย์ แมทธิว โรเซนการ์ต กล่าวว่า การตัดสินใจลาออกของเจมี่ สเปียร์สเรียกได้ว่าเป็น “ชัยชนะครั้งสำคัญ” เพราะเขาตั้งใจที่จะสอบสวนความประพฤติของเจมี่ในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา และวางแผนที่จะยื่นข้อกล่าวหากับเขาหลายกระทงเลยทีเดียว
หลังจากที่ต่อสู้กันมายาวนานนับปี อยู่ดีๆพ่อของบริทนี่ย์ก็ตกลงใจที่จะลาออกจากการเป็นผู้ปกครองเองซะงั้น แต่ถึงแม้จะยังไม่ได้มีกำหนดวันที่แน่นอน เพราะเจมี่บอกว่า จะต้องเคลียร์อีกหลายเรื่องก่อนจะออกมาได้อย่างเต็ม แค่นี้ก็ทำให้บริทนี่ย์ได้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้ว!
ทนายความของเจมี่อ้างว่า เจมี่เองก็ต้องทนกับ “การต่อสู้ในที่สาธารณะกับลูกสาวของเขา” ซึ่งเป็นเหตุผลหลักในการลาออกของเขา
“นี่เป็นชัยชนะครั้งสำคัญของบริทนี่ย์และอีกก้าวหนึ่งสู่ความยุติธรรม” ทนายความของนักร้องดังกล่าวในแถลงการณ์
ทีมกฎหมายของบริทนี่ย์กล่าวว่าแม้การที่เจมี่ลาออกจากตำแหน่งถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญ แต่พวกเขายังไม่พอใจกับ “การโจมตี” ของพ่อของบริทนี่ย์อยู่ดี
“เรามีความยินดีที่เจมี่ เปียร์สและทนายความของเขายอมรับในวันนี้ว่าเขาต้องถูกถอดถอน อย่างไรก็ตาม เรารู้สึกผิดหวังกับการโจมตีที่น่าอับอายและน่าตำหนิต่อบริทนี่ย์และคนอื่นๆ” แถลงการณ์ของโรเซนการ์ตทนายความของบริทนี่ย์กล่าว
“เราตั้งตารอที่จะทำการสอบสวนอย่างเข้มงวดต่อไปเกี่ยวกับพฤติกรรมของเจมี่ สเปียร์สและคนอื่นๆ ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่เขาเก็บเกี่ยวเงินหลายล้านดอลลาร์จากหยาดเหงื่อของลูกสาวของเขา และฉันหวังว่าจะได้คำสาบานจากเจมี่ สเปียร์สในอนาคตอันใกล้นี้” โรเซนการ์ตกล่าวเสริม
คำพูดของเขาสรุปว่า: “ในระหว่างนี้ แทนที่จะกล่าวหาเท็จและยิงปืนมาที่ลูกสาวตัวเอง เจมี่ควรนิ่งเงียบและหลีกทางให้ดีกว่านะ”
ช่วงเวลาที่ผ่านมาทนายความของบริทนี่ย์ได้เรียกร้องให้เจมี่ลาออกอย่างเปิดเผยมาตลอด ก่อนหน้านี้เขาได้เน้นย้ำว่าเขาจะไม่ลาออกโดยสมัครใจแน่ๆ
ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ทั้งฝ่ายบริทนี่ย์และฝ่ายเจมี่ต่างก็วุ่นวายกับทนายความของตัวเองเพื่อรวบรวมหลักฐานที่จะมาสู้คดีความกัน
เมื่อเร็วๆทนายฝ่ายบริทนี่ย์ได้ยื่นฟ้อง และพยายามที่จะถอดถอนหรือระงับการเป็นผู้ปกครองของเจมี่ โดยอ้างว่าเขาได้ “ละลาย” ทรัพย์สมบัติหลายล้านดอลลาร์ของเธอไปแล้ว นอกจากนี้ เขายังไม่อนุญาตให้บริทนี่ย์ ลูกสาววัย 39 ปีของเขาไปพักผ่อนที่ฮาวายด้วย “เงินที่หามาอย่างยากลำบาก” ของเธอเอง ถึงแม้ว่าเจมี่จะปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ รวมถึงการกระทำผิดอื่นๆด้วย โดยระบุว่า “แรงจูงใจเพียงอย่างเดียวของเขาคือความรักที่ไม่มีเงื่อนไขที่เขามีต่อลูกสาวของเขา และความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะปกป้องเธอจากผู้ที่พยายามเอาเปรียบเธอ” แต่ก็มีหลักฐานหลายอย่างระบุได้ว่า เขาได้กระทำตามที่ถูกกล่าวหา
นักร้องสาวได้ยื่นฟ้องต่อศาลด้วยข้อกล่าวหาที่น่าตกใจหลายอย่าง เช่น พ่อของเธอและไม่อนุญาตให้เธอยกเลิกการคุมกำเนิดแบบห่วงคุมกำเนิด แม้ว่าเธอจะปรารถนาจะแต่งงานและมีลูกอีกคน เธอยังอ้างว่าพ่อของเธอจะไม่ยอมให้เธอขับรถไปกับแฟนของเธอ ไปเยี่ยมเพื่อนที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ หรือเลือกสิ่งที่เธอต้องการจะกินหรือดื่มในแต่ละวันอีกด้วย
“แทนที่จะพยายามตรวจสอบพฤติกรรมหรือความสามารถของฉัน ฉันต้องการให้ตรวจสอบพ่อมากกว่า” สเปียร์สบอกกับผู้พิพากษา “การตัดสินให้เขาเป็นผู้ปกครองนี้ทำให้พ่อของฉันปกครองชีวิตฉันได้อย่างแท้จริง … นั่นคือการล่วงละเมิด และเราทุกคนต่างก็รู้ดี”
หากปราศจากพ่อของ Spears ที่เกี่ยวข้องกับคดีความของเธอ เป้าหมายก็คือให้ผู้ปกครองของบริทนี่ย์ทำงานร่วมกับเป้าหมายสุดท้ายในการพาเธอออกจากข้อตกลงที่ศาลสั่งเสียที ทนายความของบริทนี่ย์กล่าวว่า “เราทุกคนต้องให้ความสำคัญกับสิ่งเดียวเท่านั้น นั้นก็คือสุขภาพความเป็นอยู่ที่ดีและผลประโยชน์ที่ดีที่สุดของบริทนี่ย์ สเปียร์ส”
คงต้องมาช่วยกันลุ้นต่อ ว่าสุดท้ายแล้ว บริทนี่ย์จะต่อสู้เพื่อความสุขของเธอได้สำเร็จหรือไม่นะ..