คงเพราะความเป็นกันเอง มีสมาธิ ขี้เล่น ไม่ถือตัวใดๆ ของกระทิง เลยทำให้เขาป๊อบมากในหมู่แฟนคลับ และคนที่เคยร่วมงานกับเขา กระทิงคือเด็กหนุ่มที่ไม่ใช่แค่หล่อ แต่ความคิด ความรู้สึกของเขา กระทิงซ่อนอะไรอยู่ในนั้นด้วย ถ้าลองได้คุยอะไรลึกๆ กับเขา ถามคำถามที่อาจไม่ค่อยมีคนถามเขา กระทิงจะคิด แววตาลงลึกขึ้น และเขาตอบออกมาแบบที่เราคาดไม่ถึง และนี่คือหลายๆ คำตอบของเขาที่ทำให้เราต้องตกเข้าไปในโลกของกระทิงตามไปด้วยเลย
กระทิงมีอะไรในตัวที่อยากพัฒนามั้ย?
“ผมอยากเพิ่มศักยภาพให้ตัวเอง ผมเป็นคนมีไฟนะ แล้วก็เชื่อเรื่องสัญชาติญาณของตัวเอง ผมเชื่อเสียงของตัวเองมาก ตอนนี้ในหัวผมมีเรื่องที่อยากพัฒนาตัวเอง ผมอยากเรียนรู้อะไรเพิ่มเติม ส่วนใหญ่น่าจะเป็นเรื่องของการแสดง แล้วก็อยากเรียนร้องเพลง ผมว่าเวลาเราเรียนอะไร แต่ละคนจะได้อะไรไม่เหมือนกันนะ ถ้าผมเรียนกับคนนี้ ผมจะได้อินเนอร์นี้จากเขา ถ้าอีกคนผมก็อาจได้อีกแบบ”
ระหว่างความละมุนละไม กับความอีโรติค กระทิงเลือก?
“ผมชอบความละมุนละไมนะ มันน่าหลงใหลกว่า สำหรับผมอีโรติคไม่ต้องอะไรเยอะเลย แค่มองตาก็อีโรติคได้ แต่มันเป็นโมเมนท์ที่นานๆ เราถึงจะเจอ แล้วมันก็จะพิเศษ”
กระทิงใช้ head หรือ heart นำ?
“ผมใช้ใจนำสมองนะ จะใช้ความรู้สึกว่าเรารู้สึกอย่างนี้ เราจะทำอย่างนี้ เราเชื่อในใจเรามากกว่า คือต้องมาจากใจเราที่อยากทำ ผมแค่รู้สึกว่าเวลาผมเชื่อเซนส์ตัวเอง ถ้าผมตัดสินใจถูกหรือผิด ผมจะไม่เสียดาย ผมได้เรียนรู้ว่า อย่างน้อยเราก็ได้เลือก”
วิธีการเข้าถึงบทของกระทิง
“ผมจะมีความติสท์ประมาณหนึ่งเลย ผมต้องหาแบ็คกราวน์ตัวละครก่อน แล้วมาเขียนเป็นแบ็คกราวน์ตัวละครเอง เหมือนเขียนไดอารี่ตัวเอง ตอนเด็กเขามีชีวิตยังไง แล้วแต่ตัวละคร แล้วแต่เรื่อง ตอนโตเป็นยังไง ก็จะเขียนเป็นเหมือนชีวิตตัวเอง แต่เราอ้างอิงมาจากเรื่องของเขา แต่เราต้องเป็นตัวเอง เราต้องเข้าใจเขา มีปมอะไร มีจุดเซนซิทีฟอะไร แล้วเราขาดอะไร มองโลกยังไง ถ้าเรามองแบบเขาล่ะ จะเป็นยังไง”
คาแร็คเตอร์ที่อยากเล่น และไม่เคยเล่นมาก่อน
“อยากเล่นบทที่เป็นคนที่คิดไม่เหมือนคนอื่น ที่คิดต่างจากคนอื่นไปเลย ที่มีความสุขไม่เหมือนคนทั่วไป อย่างในเรื่องโจ๊กเกอร์ เขามีความสุขคนละแบบกับคนอื่น ไม่ใช่ส่วนน้อยด้วยนะ แต่เขามองโลกแบบนี้ มีความสุขกับสิ่งนี้ อยากเข้าใจเขาว่าเขาคิดแบบนี้”
ถ้าคบใครในชีวิต..
“ในชีวิตผม ผมไม่ตัดสินคนอื่นนะ จะให้เขาเป็นในแบบที่เขาเป็น ถ้าผมโอเค เราเป็นเพื่อนกันได้ จะให้เขาเป็นไปเลย ถ้าเรารับได้ก็โอเค เราเชื่อว่าทุกคนมีเส้นทางของตัวเอง แต่เราเป็นเพื่อนกันได้”
ชอบไปเที่ยวแบบไหน?
“ชอบไปเที่ยวต่างจัดหวัดกับเพื่อน ออกทริปขับมอเตอร์ไซค์ ขับรถขึ้นดอยไปนอนเต๊นท์ หรือไปทะเล ผมไม่ชอบวางแผน ถ้าอยากไปเกาะนี้ ก็ไปเลย ผมจะไม่วางแผน จะร็สึกว่าสนุกกว่า แค่รู้ว่าต้องไปตรงนี้ แต่ที่เหลือก็อยากทำอะไรให้เกิดเรื่องดีๆ ระหว่างเดินทางด้วย”
“เคยมีเหตุการณ์เพี้ยนๆ นะ ก็คือเคยไปเกาะเต่าแล้วผมใส่สนอร์คกลิ้งดำน้ำข้างโรงแรม มีโขดหินเต็มเลย แล้วด้วยความที่สนุกดี ช่วงพักผ่อน ก็เลยดำดูเต่าตัวหนึ่ง ตาก็มองตามเต่าไปเรื่อยๆ จนรู้ตัวอีกทีคือไปไกลฝั่งมาก เราตามติดชีวิตเขาอยู่ เกือบสองชั่วโมง เราเพลินมาก แต่เรารู้ว่าแสงเริ่มใกล้หมด เลยนึกขึ้นมาได้ แต่ระหว่างนั้นเราสนุกมาก”
“ก็เลยอยากเรียนดำน้ำนะ ผมชอบความสวยงามของธรรมชติ อะไรที่มีอยู่แล้ว จะสวยในแบบของเขา ไม่ต้องจัดแต่งอะไร ชอบพระอาทิตย์ตก ชอบทะเล ไปเกาะเต่ารอบนั้น ผมรู้สึกว่า ผมแทบจะไม่ได้จับโทรศัพท์เลย ผมรีเฟรชตัวเอง อยู่กับตัวเอง อยู่กับธรรมชาติ มันเยียวยาตัวเองได้ ที่ทำทุกวัน คือไปกินร้านอาหารร้านหนึ่ง แล้วเรานั่งดูพระอาทิตย์ตกทุกวัน กินข้าว กินกาแฟ นั่งดูตอนเย็นๆ ที่ต้องทำคือดูพระอาทิตย์ตก รู้สึกว่าผมเป็นคนมีความสุขมากขึ้น”
เล่าเรื่องพระอาทิตย์ตกให้ฟังอีกหน่อย
“ผมจะนั่งมอง นั่งคุยกับเพื่อนไป สีมันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ มันเหมือนเปลี่ยนโมเมนท์ให้เรา ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยใส่ใจเรื่องพระอาทิต์ตกเลยนะ แต่พอไปเจอครั้งนี้แล้วเรารู้สึกว่า พรุ่งนี้อยากมาดูพระอาทิตย์ตกอีก ก็เลยอยากไปอาฟริกาใต้ อยากดูแสดงเหนือ อยากไปเห็นธรรมชาติมากขึ้น อยากนั่งรถจี๊ปแล้วดูสัตว์ที่ไม่ได้อยู่ในสวนสัตว์อยากเห็นสิงโตล่าสัตว์ในระบบนิเวศน์จริงๆ แล้วก็จระเข้ อยากไปเห็นคนที่สนิทกับสัตว์ได้ ผมว่าเป็นเสน่ห์เลยล่ะ เรื่องนี้ทำให้ผมจินตนาการกับมันเยอะ เพราะเราไม่เคยเจอ”
แล้วเรื่องความรักของกระทิงล่ะ?
“เรื่องความรัก ผมไม่ได้คาดหวังนะ เราคบกันไปเรือ่ยๆ ปล่อยให้มันเป็นไป ไม่ใช่ว่าเธอต้องดูแลเรา ต่างคนต่างเป็นได้ ถ้าไปด้วยกันได้โดยไม่ต้องพยายาม มันโรแมนติคกว่ามาก ถ้าเขาอยากทำเขาก็ทำ ถ้าผมอยากทำก็ทำ หลักๆ คือความเข้าใจ ถ้ามีคนบอกให้ผมทำอย่างหนึ่ง แล้วผมไม่อยากทำ ผมก็จะไม่ทำ บังคับไม่ได้ แต่ถ้าผมรับปาก ผมจะทำเต็มที่ ผมจะไม่รับปากใครมั่วๆ”
อะไรที่กระทิงชอบทำเล่นตอนว่างๆ
“ผมจะฟังเพลง ขับมอเตอร์ไซค์วินเทจ ผมอยากแต่งรถญี่ปุ่นตามรุ่น แต่งให้ออกจากโชว์รูมปีนั้น ความสนุกคือเวลาเราหาอะไหล่ยากๆ แล้วมันไม่ได้หาง่ายๆ ต้องไปเชียงกง อย่างตอนเด็กๆ ผมขับฮอนด้า C70 แล้วเราชอบคนแต่งตัววินเทจยุคเก้าศูนย์ด้วย เวลามองแล้วมีคาแร็คเตอร์ชัดเจนดี เราชอบมู้ดนั้น เวลาเราเห็นภาพแล้วมันใช่ ส่วนเพลงนี่ผมฟังได้ทุกแนว ร็อค แร็บ อีสาน ใต้ ญ่ปุ่น เกาหลี ลาติน ฟังไปเรื่อย เราฟังแล้วสนุก ไม่ได้ชอบแนวไหนเป็นพิเศษ เราชอบร้องอยู่แล้ว อยากเรียนไว้ ซื้อกีตาร์ อยากเพิ่มทักษะให้ตัวเองทุกปี”
หนังเรื่องล่าสุดที่กระทิงชอบ
“เรื่องล่าสุดดู Scent of a Woman โรแมนติคสุดๆ ชอบมาก ผู้ชายที่เดินผ่านได้กลิ่นน้ำหอม แล้วตาบอดด้วย เป็นเรื่องที่ดีมากที่เคยดูมา ผมเพิ่งมาดูหนังเก่าๆ อย่างเรื่องแนวมาเฟีย God Father, American Gangster ก็ชอบ ผมชอบคาแร็คเตอร์มาเฟีย ที่เท่ แต่มีสัจจะ เขาเหนือกว่านักเลงนะ”
มีอะไรที่กระทิงมักสงสัยในใจมั้ย?
“ผมสงสัยเรื่องความรักนะ ผมเข้าใจประมาณหนึ่ง แต่ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าคืออะไรขนาดนั้น ผมรู้ว่ารักพ่อรักแม่ รักแฟน แต่ว่าผมยังตอบไม่ได้ว่า แล้วความรักคืออะไร? ถ้าถามตัวเองผมตอบไม่ได้ ผมมีความรัก และรู้สึกรักนะ แต่ลึกกว่านั้นผมก็อยากรู้คำตอบเหมือนกัน”
ถ้าให้กระทิงเลือกใช้เวลากับใครสักคน
“ผมอยากใช้เวลากับวิลล์ สมิธนะ ผมว่าเขาเป็นนักแสดงที่เก่ง ทำได้ทุกอย่าง เล่นได้ทุกบท เขามีความคิดดี มีความคิดที่แบบว่าไม่ได้เหมือนคนอื่น เขาเป็นเวย์ของเขาเอง เขาตอบตัวเองได้ เขาสอน เขาพูด แล้วทำไมโดนใจเราจัง เลยชอบเขา”
#CleoExclusiveInterview #Krating