ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Love, Relationship

ผู้ชายที่รักผู้หญิงคนหนึ่งอย่างแท้จริง เป็นแบบนี้นี่เอง



ความรักที่โลกของเธอ

คือโลกของฉัน ของรันและจอนนี่

“เรามาเจอกันตอนที่เขากำลังมีไฟ มีความฝัน ส่วนเราเป็นเด็กติดเที่ยว ไม่มีจุดมุ่งหมายในชีวิต ฝันสูงสุดของเขาคือต้องให้โลกจดจำ แต่ของเราก็แค่ผ่านชีวิตไปวันๆ”

แต่ผู้ชายที่มีฝันอันยิ่งใหญ่คนนี้ล่ะ ยืนหยัดจะอยู่เคียงข้าง จูงมือผู้หญิงคนนี้ และร่วมสร้างฝันของเขาสองคนไปด้วยกัน

วันนี้รันและจอนนี่ จากคนรักที่เจอกันในที่เที่ยวกลางคืน เด็กสาวที่โลกของเธอคือเที่ยว สนุกไปวันๆ เขาสองคนเปิดบริษัทโปรดัคชั่นสร้างงานคุณภาพด้วยกัน มีบ้าน มีหมา มีทีมงานด้วยกัน เขาช่วยกันทำงาน จอนนี่สอน รันเชื่อ จอนนี่ลงมือทำ รันโปรดิวซ์ เขาแชร์ฝันไปด้วยกัน และแน่นอนว่า เขามีความสุข มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ คลีโอได้คุยกับรัน รันนา สาววัย 30 กับเรื่องรักของเธอกับจอนนี่ หนุ่มไทยลูกครึ่งจีนวัย 34 ปี

นี่คือความรักอันลึกซึ้งแท้จริง ถ้าใครเคยดูหนังเรื่อง When a Man Loves a Woman จอนนี่คือแอนดี้ การ์เซียในหนังเช่นนั้นเลย โลกมีจริงๆ นะผู้ชายแบบนี้ เหมือนกับที่รันบอกว่า

“หนูคือผู้หญิงที่โชคดีที่สุด ยิ่งกว่าถูกลอตเตอรี่ ไม่มีทางที่หนูจะเจอใครแบบผู้ชายคนนี้อีก ไม่มีทางจริงๆ”

รันเป็นเด็กสาวมาจากต่างจังหวัด ที่บ้านของเธอพ่อกับแม่เปิดร้านอาหาร รันเป็นลูกคนเดียว เธอเจอจอนนี่ในที่เที่ยว และก็ได้คบกับเขา “เขาเข้ามาในชีวิตช่วงเราอายุ 22-23 ก็กำลังติดเที่ยวเลย เป็นช่วงพีคของผู้หญิงที่ไม่สนใจอะไร ใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่มีความฝันอะไรเลย ตอนคุยกับเขาแล้วเขาเล่าความฝันให้ฟัง ว่าเขาอยากเป็นอะไรให้คนจดจำ เรายังแอบอิจฉาเขาเลยว่า ทำไมเราไม่คิดแบบนั้นบ้าง”

จอนนี่เองเป็นลูกครึ่งจีน คุณพ่อแยกทางกับคุณแม่ พ่อของจอนนี่เป็นผู้กำกับทำหนังอยู่ที่จีน ส่วนแม่เป็นอดีตนักร้องโอเปร่า และมาเปิดธุรกิจที่ไทย จอนนี่ได้เรียนมหาวิทยาลัยในไทย เขาฝึกกีตาร์ ร้องเพลง ทำเพลง และได้เป็นนักแสดง จอนนี่ยังมีความสามารถเรื่องการเป็นผู้กำกับ ตัดต่อ เขามีทั้งงานเล่นดนตรี งานแสดง และทีมโปรดัคชั่นเล็กๆ เขามาเจอรัน ตอนที่รันเล่าว่า “หนูนิสัยไม่ดีเลย ใจร้อน พูดจาหยาบคาย ใครบอกอะไรก็ไม่ฟัง ชอบคิดว่า ก็เราเป็นคนตรงๆ แบบนี้จะทำไม รับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ไม่ต้องรับสิ” การมีจอนนี่เข้ามาในชีวิตรัน จึงเหมือนเรียกได้ว่า หักดิบทุกสิ่งในตัวรัน เพราะเขาคืออีกด้านที่รันไม่มี

“เขาเป็นคนที่ไม่เคยว่าเรา ไม่เคยตัดสิน ไม่เคยบอกว่าเราผิดเลยนะ แต่เขาจะทำให้เราคิดเองได้ เขาทำให้เราเห็นเหตุผลว่า ที่เราเป็นแบบนี้มันดีกับเราหรือเปล่า มันดีกับใครมั้ย แล้วถ้าไม่ดี เราแฮปปี้หรือ เราชอบตัวเองหรือ?”

รันบอกว่าจอนนี่ใจเย็น วันที่เขาตัดสินใจคบกับเธอ เขาก็จะมั่นคงไม่เปลี่ยน ถ้ามีอะไรที่รันทำไม่ได้ จอนนี่ไม่เคยปล่อยไป แต่ก็ไม่เคยว่าเลย “อย่างถ้าหนูขับรถแล้วเหวี่ยงยาม เขาจะบอกว่าทำไมทำแบบนั้นใส่คนอื่น ทำไมเราต้องทำตัวเป็นวันที่ไม่ดีของเขาด้วย เขาไม่ว่านะ แต่ทิ้งให้เราคิด เรารู้แต่ว่าเขาไม่ชอบตัดสินใคร อย่างถ้าเรานินทาเพื่อน เขาจะบอกเลยว่า เราไม่มีทางรู้ว่าเพื่อนเราเขาเป็นแบบนั้นทำไม เขาอยากให้เราคิดได้เอง

จอนนี่ค่อยๆ ซึมเข้ามาในชีวิตรัน เขาไม่ได้เปลี่ยนเธอ แต่เขาทำจนเธอเปลี่ยนตัวเองไปได้เอง เหตุการณ์หนึ่งที่เป็นจุดหักดิบของรันอีกเหตุการณ์ก็คือ “เรามีไปทำอะไรที่ไม่ดีกับเพื่อน เพื่ออยากน้ำหนักลด อยากสวย แล้วปิดไม่ให้จอนนี่รู้ แต่เขาก็รู้เพราะเขาได้กลิ่น พอเขารู้ก็บอกเราทันทีว่า ถ้าไม่เลิกทำ จะต้องเลิกกับเขา ตอนแรกก็ยังเลิกไม่ได้นะ คอยหลบๆ เขา แต่เขาก็มาเปรยๆ อีกว่า อะไรไม่ดีเอาออกไปจากชีวิตเถอะ คราวนี้เรารู้เลยว่าเขาเอาจริง ก็เลยหักดิบ เพราะเราไม่อยากเสียเขาไป

รันไม่คิดว่าจอนนี่จะจริงจังกับเธอขนาดนี้ เพราะเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่มีเป้าหมายในชีวิตอะไร ต่างจากเขามาก แต่การกระทำของเขานั่นแหละที่ทำให้เธอต้องหันไปอีกทาง “หลังจากนั้นเขาก็จะคอยถามว่าเราอยากทำอะไร พอรู้ว่าเราชอบอะไรนิดเดียว เขาจะสนับสนุนทันที เราชอบกินขนมมาก เขาเลยส่งเราไปเรียนทำขนม เขาซื้อเตาอบเล็กๆ ให้หัดทำ อย่างภาษาอังกฤษเราอ่อน เขาก็ซื้อคอร์สให้เรียน คือเขาจะหามาให้ทุกอย่าง เพื่อให้เราหาตัวเองให้เจอ

สิ่งที่จอนนี่ทำให้รันทำให้เธอรู้สึกว่า เขาคงอยากมีเธอในชีวิตจริงๆ เขาพยายามทำให้เธอร่วมทางเดินไปกับเขา ทำให้รันคิดได้ว่า..

“ถ้าเราไม่เปลี่ยนตัวเอง ก็คงไม่มีเขาในชีวิต”

แต่สิ่งนี้ยากสำหรับรันมาก เพราะเธอโตมาแบบที่มีเงินทุกเดือนที่พ่อแม่ส่งมาให้ ชิลล์ ไม่ต้องพยายามอะไร เขาออกจากบ้านไปทำงานแต่เช้า แต่รันนอนดูหนังทั้งวัน เขากลับมาเธอก็ยังดูหนังอยู่ที่เดิม จนเขาบอกเธอว่า

“วันหนึ่งจะเสียดายเวลานะ เวลาจะกลับคืนมาไม่ได้นะ”

จนมาถึงวันที่รันรู้สึกว่า “หนูสะอึกขึ้นมาเลยว่า นี่เราทิ้งเวลาไปขนาดนี้เลยหรือ”

รันเริ่มลุกขึ้นมาตั้งใจว่าเป็นตายยังไงก็ต้องทำอะไรสักอย่าง เขาชอบกล้อง มีงานโปรดัคชั่น รันจึงไปช่วยงานเขาบ้าง แล้วพอเขางานเยอะขึ้น เขาก็เริ่มเปิดบริษัทกับเธอ ให้รันจัดการเรื่องเงินทุกอย่าง “ยากเลยสำหรับเรานะ จากคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย เขาให้ดูแลเรื่องเงินให้หมด ขนาดเงินเดือนของเขา เรายังเป็นคนจ่ายให้ พอดีกับช่วงที่มีงานใหญ่เข้ามา เขาเลยชวนเราเปิดบริษัทเลย คือเรียกได้ว่าชีวิตพลิกเลย” รันเปิดบริษัทชื่อจินโตะ กับจอนนี่ แต่เธอเองก็มีความสงสัย ว่านี่คือสิ่งที่เธออยากทำหรือเปล่า ก็ได้เขาอีกนั่นล่ะบอกเธอว่า

“เราไม่ได้กำลังสร้างอะไรด้วยกันหรือ อยากทำด้วยกันมั้ย ถ้าอยากทำก็ทำด้วยกันเลย”

คราวนี้รันต้องลุยแล้ว เธอบอกว่าเธอกลายเป็นเจ๊ไปเลย “เขาให้ดูแลเรื่องเงินหมด ทุกวันต้องรอเงินเดือนจากหนู หนูเซ็นต์อย่างเดียว เงินจะซื้อของส่วนตัว เขายังไม่มี ต้องให้เราเป็นคนจ่าย เขาต้องถามตลอด หนูเลยรู้สึกเหมือนเจ๊ เพราะเขาไม่มีเงินแล้ว เขาเอาเงินมาให้เราหมด แต่งานทั้งหมดเขาเป็นคนทำนะ เขาบอกที่ทำอย่างนั้น เพราะอยากให้เรารู้สึกร่วม”

ด้วยความที่จอนนี่สู้ชีวิตของเขาเองมาตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 เขาจึงเป็นคนสอนทุกอย่างกับรัน และตั้งใจจะปั้นเธอให้เก่งให้ได้ “เขามีวิธีกดดันหนูนะ เวลาที่หนูกลัว ต้องรับบรีฟลูกค้า เขาจะบอกว่าไม่ต้องกลัว ให้เตรียมตัวให้ดีก่อน ให้หาข้อมูล เช็คให้ละเอียด เขาสอนตำแหน่งงานในโปรดัคชั่น เอาไบเบิ้ลการเป็นโปรดิวเซอร์มาให้ดู มีสตูดิโอที่ไหน ค่าเช่าอะไรกี่บาท เขาให้หนูจดลงสมุดให้หมด” จอนนี่สอนรันไปเรื่อยๆ เขาฝึกเธอให้ต้องสู้ด้วยตัวเอง “คือถ้าหนูไม่กล้า บอกให้เขาไปคุยกับลูกค้า เขาจะไม่คุยนะ ให้หนูต้องคุยเอง เขาใจแข็งขนาดที่ไม่ทำจริง ๆนะ แล้วหนูเครียดมาก จนสุดท้ายก็ต้องกลั้นใจทำ เสียงสั่นเลย”

ความรักของผู้ชายคนหนึ่ง ไม่เพียงแต่รัก สำหรับจอนนี่เขาอยากให้รันหาความหมายในชีวิตให้เจอ เพราะเขาเชื่อว่านั่นจะทำให้รันมีความสุข ภูมิใจในตัวเอง แล้วเขาก็คิดถูก ทั้งสองคนจับมือทำงานด้วยกัน รันจากเด็กที่ทำอะไรไม่เป็น เธอกลายมาเป็นโปรดิวเซอร์ให้จอนนี่แล้ว มีจอนนี่ ต้องมีรัน จนเพื่อนรันทุกคนไม่เชื่อที่เธอเป็นได้ขนาดนี้ “เพื่อนๆ ไม่เชื่อเลยว่าหนูมาขนาดนี้ได้ไง มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย คือหนูเนี่ยแค่คิดคำสื่อสารกับคน หนูยังทำไม่ค่อยได้เลย มันเลยดูไม่น่าเชื่อมากๆ”

และจอนนี่ยังไม่เคยว่ารันอีก “เขาเป็นคนที่ไม่ว่า แต่บอกว่าถ้าเราไม่รู้ให้ถาม เรามีทะเลาะกันนะ แต่เดี๋ยวนี้เรื่องทะเลาะจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่ก่อนเป็นเรื่องที่หนูดื้อ ไม่ยอมทำ แต่ตอนนี้ทะเลาะเรื่องไอเดียในงานนั้นมากกว่า” สิ่งที่รันรู้สึกว่าเปลี่ยนไปก็คือ ชีวิตเธอมีความหมายแล้ว “หนูรู้สึกเลยว่าเวลาเราทำงาน เราชอบงาน มันเหมือนจุดพลุในใจ อ๋อ มันรู้สึกแบบนี้เองเนอะ เราได้สัมผัสความรู้สึกแบบนี้แล้ว ชีวิตมีความหมายขึ้นมาเลย

รันบอกว่าจอนนี่เป็นคนมีไฟตลอด ไม่เคยเหน็ดเหนื่อย ทำงานถึงเช้า มีไอเดียหลากหลายตลอด ใจเย็น ยิ้มเสมอ ถ้าใครเคยทำงานกับจอนนี่ จะไม่เคยเห็นเขาเหวี่ยงแม้แต่นิดเดียว เขาคุมเกมได้ สุภาพ และเขาไม่เคยต้องรอให้ใครมาเติมไฟให้ เขาเติมเองได้ “หนูว่าถ้าฝันเขาอยู่บนยอดเขา เขาเดินมาเกือบถึงกลางภูเขาแล้วนะ เขามีภูเขาลูกใหม่เพิ่มขึ้นตลอด ต้องรู้จริง ทำจริง ต้องทำอย่างดีด้วย แล้วต้องรู้ว่าทำอะไรไปเพื่ออะไร เขาไม่คิดตื้นด้วย”

เหนือสิ่งอื่นใดคือจอนนี่คิดจะดูแลรันไปตลอดชีวิต “ตอนแรกเราอยู่ทาวน์โฮม หนูเองนั่นแหละอยากมีบ้าน เขาก็ไปหาบ้านทันที ย้ายเลย เขาคิดตลอดว่าต้องดูแลหนูให้ได้ เขาจะทำให้หนูสบาย เขาก็เลยไปหาบ้านให้” รันเองยังเคยสงสัยในตัวเอง ว่าผู้หญิงที่ไม่ได้มีคอนเน็คชั่น ไม่ได้ทำอะไรเก่งแบบเธอ ทำไมผู้ชายที่ดีคนนี้ถึงยังเลือกเธอ “หนูเคยบอกเขาว่า ถ้าเธอมีแฟนที่มีคอนเน็คชั่นเยอะๆ คงเสริมเธอนะ เธอจะพุ่งมากๆ เลย เขาบอกหนูกลับมาว่า “แล้วเธอไม่ดีตรงไหน?” เขาบอกอีกว่า..

“ถ้าเธอคิดว่าฉันไม่มีเธอ ฉันจะทำมาได้ขนาดนี้เหรอ?”

ในความเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ได้เจอผู้ชายเช่นนี้ “ในชีวิตหนู ไม่มีทางหาคนดีแบบนี้ได้แล้ว หนูบอกเพื่อนเสมอว่า ถ้าหาผู้ชายรวย ก็หาได้นะ แต่จะหาคนที่อยู่กับเขา แล้วเรารู้ว่าเขาไม่มีวันทิ้งเราน่ะ ไม่มีหรอก หนูรู้เลยว่าวันหนึ่งถ้าเราไม่มีเงินสักบาท จอนนี่ก็จะทำให้เรากลับมามีเงินได้ ไม่มีทางที่เขาจะทิ้งเราไว้ตรงนั้น”

คลีโอรู้จักจอนนี่กับรันมาหลายปีแล้ว สองคนนี้เรียบง่าย รักกันแบบไม่ต้องบอกโลก จอนนี่เป็นผู้ชายมีความสามารถที่ถ่อมตัวที่สุด รันก็น่ารักสดใส แววตาเหมือนกวางตลอดเวลา รันดูแลทั้งจอนนี่และคนรอบตัว เธอน่ารัก ง่ายๆ ไม่คิดเยอะ แอบถามรันว่าแล้วหึงจอนนี่มั้ย เขาก็หน้าตาดี นิสัยดีขนาดนี้ “ไม่หึงเลย เพราะเขาไม่เคยมีทำอะไรให้ต้องสงสัย หรือต้องหึงแม้แต่นิดเดียว” ถามเรื่องแต่งงาน รันก็บอกว่า “เราอยู่กันแบบนี้มันเกินกว่าแต่งงานแล้ว งานแต่งงานไม่จำเป็นเลย”

ทั้งสองทำงาน ไปเที่ยว ทำอาหาร เลี้ยงหมา ดูแลทีมงาน และทุกคืนก่อนนอน รันกับจอนนี่จะมานั่งเขียนบุลเล็ท เจอร์นัลด้วยกัน ว่าเขาทำอะไรสำเร็จกันไปบ้าง เขามีอะไรที่ต้องทำเพื่อเข้าใกล้ฝันกันบ้าง ถ้าใครได้อยู่ใกล้ๆ จอนนี่และรัน จะรู้สึกเลยว่าอบอุ่น แล้วความน่ารักของทั้งสองมันแผ่ออกมาจริงๆ

คลีโอขอขอบคุณเรื่องราวของรันและจอนนี่ และความรักน่ารักๆ ของเขาทั้งสอง

#CleoLove

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']