ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Career, Eat

Cafe SOU คือความฝันที่เป็นจริงของ แบม อริสา



เรามีความฝันอยากทำคาเฟ่เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะทำงานที่ไหน อายุเท่าไหร่ เราก็ยังอยากเปิดคาเฟ่อยู่ดี

Cafe SOU จึงเป็นเหมือนความฝันที่กลายเป็นความจริงของ แบม อริสา เธอกล้าที่จะลงมือทำตามความฝันของตัวเอง รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร มีอะไรอยู่ในมือ แล้วพุ่งชนเข้าหาสิ่งนั้น โดนที่ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร เธอก็พร้อมลุยและรับมือกับมันเสมอ เพราะทางเดินนี้เป็นทางที่เลือกเองด้วยความเต็มใจและความสุขที่จะได้ลงมือทำมันอย่างสุดใจ

เราเคยได้ยินชื่อคาเฟ่ที่นี่มาผ่าน ๆ หูอยู่เหมือนกัน แต่แปลกดีที่เวลาที่ได้ยินชื่อคาเฟ่นี้ขึ้นมาทีไร เราก็สามารถสร้างภาพในหัวได้แบบอัตโนมัติ เริ่มจากโฮมคาเฟ่ที่เหมือนเป็นบ้าน บรรยากาศโฮมมี่ การตกแต่งร้านที่ไม่เหมือนใคร มันเซ็ตขึ้นมาในหัวเราหมดแล้ว อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน รู้แค่ว่านี่แหละ Cafe SOU และแน่นอนว่าในลิสต์คาเฟ่ของเราก็มีร้านนี้อยู่ในนั้น ที่เราต้องลองไปให้ได้สักครั้ง

โชคดีมากที่เพื่อนของเรารู้จักกับเจ้าของคาเฟ่ พอยิ่งได้ฟังเรื่องราวของที่นี่จากเพื่อน เราก็ไม่รอช้า รีบทักไปหาแบมเจ้าของร้านทันที เพราะอยากรู้จังว่ากว่าจะมาเป็นคาเฟ่ซูในทุกวันนี้ แบมเริ่มต้นมาได้อย่างไร และสิ่งที่เธอต้องเจอนั้นมีอะไรบ้าง

เรามองไม่เห็นภาพตัวเองตอนทำงานประจำเลย แต่เรามองเห็นภาพตัวเองตอนเปิดคาเฟ่นะ

แบมก็คือผู้หญิงคนหนึ่งที่หลงรักการทำขนม และอยากเปิดคาเฟ่เล็ก ๆ เป็นของตัวเอง ไม่ต้องใหญ่โตมาก แต่ขออบอุ่นหน่อยก็ดี นี่คือภาพความฝันของแบม จริง ๆ แล้วแบมเรียนจบการโฆษณา การตลาดมา ซึ่งพอเรียนจบ ก็เป็นเรื่องปกติที่จะต้องคิดเรื่องการหางานประจำทำ งานไหนที่จะพอเข้ากับสิ่งที่เรียนมาได้บ้าง แต่พอเธอมานั่งคุยกับตัวเอง ถามตัวเองว่าสุดท้ายแล้วต้องการอะไร ต้องทำอะไรต่อ คำตอบที่ได้มาจากตัวเธอเอง มันไม่มีเรื่องงานประจำอยู่ในนั้นเลย เธอบอกเราว่า “เราไม่เห็นภาพตัวเองตอนทำงานประจำเลย มันน่าจะไม่ใช่แล้ว” นั่งนึกไปนึกมา ภาพในหัวที่เธอมองเห็นคือการเปิดคาเฟ่ ความฝันของเธอเองนั่นแหละ พอได้ข้อสรุป แบมเลยคุยตกลงกับครอบครัวที่จะเริ่มต้นเปิดคาเฟ่จริงจัง โดยมีคุณแม่เป็นผู้สนับสนุนและอยู่เคียงข้างมาตลอด

เราเป็นมือซ้ายมือขวาของกันและกัน

แบมได้บอกว่า เธอและคุณแม่ลงมือสร้างคาเฟ่นี้มาด้วยกันตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงทุกวันนี้ เป็นการซัพพอร์ตและดูแลกันและกันไปได้ในตัว

คาเฟ่ที่สร้างขึ้นมาบ้านเก่าอายุเกือบร้อยปี

คาเฟ่แห่งนี้เป็นบ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ที่เจริญนคร 7 เป็นชุมชนเก่าแก่ที่เค็มไปด้วยรอบยิ้มของผู้คนและบรรยากาศที่เป็นมิตร แม่น้ำ บ้านหลังเล็กหลังน้อยตามตรอกซอย เป็นความเก่าท่ามกลางความใหม่ในปัจจุบัน เราเลยอยากรู้ว่าแล้วทำไมต้องมาตั้งอยู่ที่นี้ด้วย แถมยังเป็นบ้านอีก แบมก็ได้เล่าให้เราฟังว่า จริง ๆ แล้วก่อนที่จะมาเป็นคาเฟ่ซูในทุกวันนี้ บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณยายของแบม เป็นบ้านทางครอบครัวฝ่ายแม่ที่มีอายุเกือบร้อบปีแล้ว ซึ่งเธอก็ได้บอกว่า ก่อนที่คุณยายจะจากเธอไป คุณยายได้สั่งเสียเอาไว้ว่า

อย่าขายบ้านให้คนอื่นนะ วันนึงเราจะได้กลับมาใช้ประโยชน์

และเธอก็ได้ใช้ประโยชน์จากบ้านหลังนี้จริง ๆ แบมได้เล่าต่อว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่คุณยายของเธออยู่มาตั้งแต่ 15-16 ปี รวมไปถึงคุณแม่ของแบมเองก็เคยใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหลังนี้เช่นกัน จึงเป็นเหมือนบ้านที่เต็มไปด้วยความทรงจำและเรื่องราว เธอจึงเล็งเห็นที่ตรงนี้ที่เป็นที่พื้นที่ของครอบครัว มารื้อฟื้นความทรงจำเก่า ๆ และแต่งแต้มเรื่องราวใหม่ ๆ ลงไปจนได้มาเป็น Cafe SOU หลังเล็ก ๆ

Cafe SOU คาเฟ่ที่เก็บเรื่องราวและความทรงจำของทุกคนในครอบครัว

เราถามคำถามแบบคลิเช่ธรรมดา ๆ กับเธอไปเลยว่า “แล้วทำไมต้องเป็นชื่อนี้ด้วยล่ะ” และเราก็ได้คำตอบว่า

ชื่อนี้มาจากคำว่า Story of Us ความหมายก็ตรงตัวเลยนั่นแหละ มันคือเรื่องราวของพวกเรา คาเฟ่นี้เหมือนเป็นการหวนคืนความทรงจำจาง ๆ ให้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง แบมได้บอกว่า “บ้านหลังนี้เป็นเป็นบ้านเก่า คนในครอบครัวอยู่กันมาจริง ๆ มันมีเรื่องราว มีของสะสม มีความทรงจำมากมากอยู่ในนั้น เราเลยนึกคำว่า “พวกเรา” “เรื่องราว” Story of Us ดึงออกมาเป็น Cafe SOU”

ทุกอย่างในร้านเป็นฝีมือและการจัดการดูแลของคนในครอบครัวของเธอเองทั้งหมด มันเลยเป็น Story of Us อย่างที่เธอว่าจริง ๆ

แบมและเมนูขนมที่คิดเองทำเองทุกขั้นตอน

อีกหนึ่งสิ่งที่จะขาดไปไม่ได้เป็นอันขาดเมื่อพูดถึงคาเฟ่ นั่นก็คือขนมและเครื่องดื่ม เราบอกเลยว่าพอได้เห็นขนมของที่นี่แล้วประทับใจมาก มันให้ความรู้สึกที่ไม่เคยเจอที่คาเฟ่อื่น เรารู้สึกได้ถึงความใส่ใจ ความตั้งใจ ความละเอียดอ่อนที่แบมค่อย ๆ ทำใส่ลงไปทีละนิดทีละหน่อย จนได้เป็นขนมที่หน้าตาน่ารักแบบนี้

แบมเล่าว่าทุกเมนูในร้านนั้นเธอเป็นคนคิดขึ้นเอง ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง แต่ทุกอย่างนั้นก็มาจากฝีมือเธอเองล้วน ๆ ทั้งสูตรขนม การทำ การตกแต่ง ดีไซน์เค้ก ทุกอย่างคือผลจากความตั้งใจของเธอเองทั้งหมด

Cafe SOU และเมนูขนมที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่ไม่เหมือนใคร

Lemon Rare Cheesecake

เป็นเมนูขายดีของที่ร้าน แบมเล่าว่าจริง ๆ แล้วเธอไม่ได้ตั้งใจจะขายเมนูนี้ตั้งแต่เริ่มต้น มันเริ่มมาจากที่เพื่อนของเธออยากกินชีสเค้กเลม่อน เธอก็เลยลองทำให้เพื่อนกิน หน้าตาชีสเค้กที่เธอทำตอนนั้นก็ไม่ค่อยสวยงามเท่าไรนัก แต่เธอแก้ไปแก้มาจนสวย กลายเป็นว่าเพื่อนของเธอดันชอบชีสเค้กเลม่อนของเธอ ไม่ใช่แค่ชอบนะ แต่เชียร์ให้ขายในร้านไปเลย เธอเลยเชื่อเพื่อน ลองปรับสูตรนิดหน่อย ตกแต่งหน้าตาขนมให้น่ารักตามแบบฉบับคาเฟ่ซู ที่ไม่เหมือนที่ไหนแน่นอน

Apple Crumble

ปกติเวลาพูดถึง Apple Crumble เรามักจะนึกภาพทาร์ตแอปเปิ้ลที่อยู่ในถาดวงกลมแล้วตัดแบ่งออกมาเป็นชิ้น ๆ แต่พอเราได้ยินแบมบอกว่าเมนูแอปเปิ้ลครัมเบิ้ลที่คาเฟ่ซูเสิร์ฟมาในถ้วยชา เราก็อึ้งเลย เพราะไม่เคยเห็นคาเฟ่ที่ไหนทำแบบนี้มาก่อน เป็นอีกหนึ่งเมนูที่เราคิดว่าไม่น่าจะเจอจากที่อื่นแล้วนะ แบมลงมือคิดสูตรเอง ตัวครีมที่เราเห็นในรูปเธอก็เป็นคนคิดเอง ส่วนไอเดียที่เอาถ้วยชามาใส่แทนที่ทำแบบปกติ เธอก็บอกว่าเธอพยายามดึงของสะสมที่มีมาใช้ในร้านให้ได้มากที่สุด อยากให้มันมีีความพิเศษและไม่เหมือนใคร ที่พอได้เห็นแล้วให้ความรู้สึกเหมือนได้นั่งกินขนมอยู่ที่บ้าน จนได้ออกมาเป็น Apple Crumble ถ้วยนี้

SOU Carrot Cake 

เป็นเค้กง่าย ๆ ที่มีทุกคาเฟ่ แต่เธอก็ยังอยากให้ลูกค้ากินแล้วรู้สึกว่าไม่เหมือนกินที่อื่น แบมเลยเพิ่มรสชาติความเป็นคาเฟ่ซูลงไป ใส่ชาเอิร์ลเกรย์ ใส่รสชาติที่เธอปรุงแต่งเพิ่มให้ไม่เหมือนใคร กลิ่นหอมของเค้กที่ชวนให้ตักเข้าปากแบบไม่ต้องคิดอะไร แบมค่อย ๆ ใส่ความไม่ธรรมดาลงไปจนทำให้เค้กแครอทที่เจอได้ตามคาเฟ่ทั่วไป กลายเป็น SOU Carrot แต่ถึงจะไม่เหมือนใคร ก็ยังให้รสชาติที่คอมฟอร์ตกับทุกคนอยู่เหมือนเดิม

Russian Tea

ปิดท้ายที่เมนูเครื่องที่แบมอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลอง เธอเล่าว่าเมนูนี้เธอได้มาจากตอนที่เธอไปเยี่ยมญาติที่รัสเซีย ซึ่งทุกครั้งที่ไปเธอก็จะได้ดื่มชาผลไม้ ที่เธอเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าชาที่ว่านี้คืออะไร พอกลับมาที่ไทยก็ตามหาทั่วทุกที่เลยแต่ก็ไม่เจอสักที จนเธอก็เลยลองทำเองไปเลย มีทั้งแบบร้อนและเย็น มีผลไม้ให้เลือกหลายแบบ กลายเป็นอีกหนึ่งเมนูเครื่องดื่มที่ไม่ธรรมดาจากคาเฟ่ซู

เราอยากนำเสนอภาพคาเฟ่ที่เป็นบ้านให้ทุกคนเข้ามาใช้บริการ เราชอบไอเดียการเดินเข้าตรอก เข้าซอยเล็ก ๆ แล้วก็จะเห็นว่าในนั้นมันมีเรื่องราว มีสีนสัน ชีวิตชีวา เดินไปอีกนิดก็เจอคาเฟ่ สามารถแวะมากินขนม นั่งชิลล์ได้ เราอยากให้คนได้เข้ามาเห็นกันเยอะ ๆ

เป็นเวลาเกือบสองปีเต็มที่แบมได้สานฝันของตัวเองจนสำเร็จ เป็นทางเดินที่เธอเลือกด้วยตัวเอง และเส้นทางนี้ในอนาคตของเธอก็ยังเต็มไปด้วยความสนุกและความท้าทายใหม่ ๆ ที่ต้องพบเจออย่างแน่นอน แต่อย่างน้อยเธอก็ได้พิสูจน์แล้วว่าเธอผ่านมันมาได้ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ และแพชชั่นที่เธอมีจริง ๆ

ใครที่อยากลองไปคาเฟ่ของแบม ก็ลองตามไปได้ที่ เจริญนคร 7 หรืออยากสั่งขนมมาชิม ก็เข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่

IG @cafe__sou

อ่านราวเรื่องอื่น ๆ ได้ที่ CLEO Thailand และ FB > CLEO

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']