“เราอยากส่งต่อความรู้เกี่ยวกับมะรุมให้คนไทยและคนทั่วโลกได้รู้ว่าของบ้านเรามันมีดีมากกว่าที่คิด”
ได้คุยกับคุณ “มาริกา” หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ moringa project. บอกเลยว่าเธออินสไปร์เรามาก น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยแพชชั่นและใจรักอย่างแท้จริง ได้คุยกับเธอถึงจุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์ขึ้นมา สกินแคร์ที่สกัดจากน้ำมันมะรุมที่ปลูกได้ในบ้านเรา ใครจะรู้ว่าพืชผลในประเทศไทยจะมีสรรพคุณเยอะขนาดนี้ ย้อนไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ครอบครัวของมาริกา หลานของเธอเป็นโรคผิวหนังอักเสบ หรือ Eczema ตอนนั้นน้องสะใภ้ของเธอได้นำมาน้ำมันมะรุมมาช่วยในการรักษา ซึ่งทำให้อาการผิวหนังอักเสบหายเป็นปกติ จากที่ก่อนหน้านี้ใช้ยาจากแพทย์แล้วก็ยังกลับมาเป็นอีก ทำให้ฉุกคิดได้ว่าน้ำมันมะรุมสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คิดโดยเฉพาะในเรื่องการรักษาโรคผิวหนัง ทำให้เกิดเป็นไอเดียในการนำน้ำมันมะรุมมาสกัดเป็นสกินแคร์
หลังจากนั้นเธอเลยทำการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับต้นมะรุม ซึ่งเราเองก็เพิ่งรู้จากมาริกาเลยว่า มะรุมถูกใช้มาเป็นพันปีแล้วตั้งแต่สมัยอียิปต์ เพราะมะรุมมีประโยชน์เยอะมากจริง ๆ ทั้งวิตามิน A B C E มีสาร Antioxidant ที่สูงกว่าน้ำมันอื่นหลายชนิด ซึ่งเราก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามะรุมจะมีสรรพคุณเยอะขนาดนี้ คุณมาริกาบอกเราว่าตอนแรกเธอเองก็อยากจะหาผลิตภัณฑ์จากน้ำมันมะรุมมาใช้เอง แต่ก็ไม่เจอที่ถูกใจสักที เพราะมีขายน้อยมาก ไม่ค่อยมีคนทำกันเท่าไร เธอเลยเห็นโอกาสตรงนี้ที่จะได้นำน้ำมันมะรุมมาพัฒนาและสกัดออกมาเป็นส่วนผสมในสกินแคร์ขึ้นมาเอง ทำให้เธอปิ๊งไอเดีย สร้างแบรนด์ที่ทำผลิตภัณฑ์จากน้ำมันมะรุมออกมาเรื่อย ๆ พร้อมให้ความรู้ถึงประโยชน์และสรรพคุณของต้นมะรุมในฐานะตัวช่วยบำรุงผิวพรรณให้คนไทยได้รู้จักมากยิ่งขึ้น รวมถึงชาวต่างชาติในวงกว้างเช่นกัน
มาริกาลงมือทำเองทั้งหมด เริ่มตั้งแต่การปลูกต้นมะรุมขึ้นมาเอง ใชเวลาหลายปีกว่าต้นมะรุมจะโตและออกเป็นฝักที่สามารถนำมาสกัดเป็นน้ำมันมะรุมได้ เธอใส่ใจและตั้งใจในทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มปลูก การดูปุ๋ย ดูดิน การดูแลต้นมะรุมเพื่อให้ได้น้ำมันออกมาอย่างมีคุณภาพมากที่สุด เป็นเวลารวมเกือบสามปีที่ต้นมะรุมโตจนออกฝัก ตากแห้ง และสามารถนำมาสกัดเย็นจนเป็นน้ำมันได้ เธอบอกว่า “เราต้องดูแลให้ดีที่สุดถึงจะได้คุณภาพที่ดี” หลังจากนั้นเธอก็จะนำน้ำมันมาตรวจสอบและเพิ่มวิตามินอี 0.5% ลงไปจนได้เป็นผลิตภัณฑ์แรก “facial oil”
“ลูกค้ากลับมาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ผิวหน้าดีขึ้น ชุ่มชื้นขึ้น สิวและริ้วรอยจางลง”
ด้วยคุณภาพของน้ำมันมะรุมทำให้แบรนด์ของเธอได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า มาริกาได้ต่อยอดโดยการนำน้ำมันมะรุมมาใส่ในสบู่ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ตัวที่สองของแบรนด์ มาริกาแอบกระซิบกับเราว่าในอนาคตอันใกล้นี้ มาริกากำลังจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาโดยครั้งนี้จะนำส่วนที่เป็นเม็ดมะรุมมาใช้ทำเป็นสครับผิวหน้าและผิวกาย รวมไปถึงน้ำมันทาตัวและมาส์กทาหน้าจากผลมะรุมที่มาจากใบมะรุมที่มีประโยชน์ไม่แพ้กับส่วนอื่น
“เราพยายามจะทำทุกอย่างที่มาจากต้นมะรุมเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้คนได้รู้จักมะรุมมากยิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่สกินแคร์อย่างเดียว อาจจะมีอาหารเสริมในรูปแบบแคปซูลออกมา รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่น ๆ” ไม่เพียงแค่นั้น เธอยังให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บรรจุภัณฑ์สามารถทำไปรีไซเคิลได้ ทั้งขวดแก้วแล้วกล่องแพ็กเกจ รวมไปถึงให้ความรู้กับเกษตรกรท้องถิ่นเกี่ยวกับการปลูกต้นมะรุมให้ได้ผลผลิตที่งอกงามและมีคุณภาพเช่นกัน
เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีและมีคุณภาพจากฝีมือคนไทยที่ช่วยนำผลผลิตออกสู่ชาวโลกอย่างแพร่หลาย ว่าบ้านเรามีพืชที่ดีจนเรียกว่าเป็น magical plant ได้เลย สำหรับใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปดูกันได้นะที่ moringa project