ระหว่างที่เรานอยด์ทุกสิ่งอยู่ที่กรุงเทพฯ เจอความเยอะรอบตัว และตัวเราเองที่บางทีก็เยอะ อยากตัดภาพมานั่งเหม่อมองอะไรที่ได้ทิ้งสายตา ขึ้นเขาก็อาจจะร้อนเกินไป ไปทะเลก็แดดๆ เหนอะๆ แนะนำให้ลองมาเที่ยวริมน้ำโขง แม่น้ำโขงที่นครพนม ทอดยาวมาก ทิ้งสายตามาก มองได้สุดตา เดินเล่นกับทางเดินเลียบแม่น้ำที่ยาวไกล และพออยู่ริมน้ำตอนเช้า และตอนเย็นไม่ร้อนเท่าไหร่ สวย และทำเอาโรแมนติคกับตัวเองดีเหมือนกันนะ
นครพนมอยู่ได้ชิลล์ๆ 3 คืน ถ้าเช่ารถก็ขับไปสกลนคร ไปบึงกาฬ หรือฟิตๆ หน่อยต่อไปกาฬสินธุ์ ไปอุดรธานีเลยก็ได้ และถ้ามาแล้วไม่ต้องทำอะไรมาก เมืองนี้เป็นสโลว์ ซิตี้ สโลว์ไลฟ์สุดๆ ช้าได้ช้า อยู่กับชีวิตเนิบๆ ง่ายๆ นี่ล่ะ ทำเป็นเล่นไป ไม่อยากกลับเหมือนกันนะ
นครพนมมีกลิ่นอายของเวียดนามอยู่มาก ด้วยครั้งหนึ่งที่คนเวียดนามหนีร้อนมาพึ่งเย็นที่เมืองนี้ เราเลยได้กินอะไรที่มีความเวียดนามอย่างแหนมเนือง ขนมปังเวียดนาม ก๋วยจั๊บเวียดนาม และมองข้ามโขงไปก็คือลาว ก็เลยจะมีส้มตำลาวให้กิน เมืองนี้อาหารอร่อย หากินได้ง่ายๆ โคเสียบไม้ปิ้ง รวมมิตรแมลงทอด ข่าวจี่ กะละแมปากหม้อ ถ้าเลือกโรงแรมที่มีระเบียง หรือมีชั้นสระว่ายน้ำมองเห็นแม่น้ำโขง ก็ซื้อของกินจุบจิบมากินได้ ไวน์ขาวสักขวด มีความสุขเลย อาหารเช้าที่นี่มีเสน่ห์นะ ต้องไปลอง Mimi Opla Breakfast เป็นหมูกับไข่จานร้อน มาพร้อมขนมปังเวียดนาม กาแฟดริพเวียดนาม หรือร้านbreakfast อื่นที่มาพร้อมต้มเส้น ไข่กระทะ ไข่ลวก อะไรแบบนี้ล่ะจะทำให้เราสโลว์ไปด้วย
แล้วก็ต้องฉกฉวยชีวิตริมโขงสูดเข้าไปให้ชุ่มปอดนะ เดินเลียบน้ำโขงไปเลยทุกวันเช้า-เย็น หน้าหนาวท้องฟ้าจะเปิดด้วยสีม่วง ส้ม ทอง แต่ถ้ามาหน้าร้อนก็จะดูสีส้มทอง แล้วเย็นก็จะฟ้าสีจางๆ น้ำโขงนิ่งตลอดมองแล้วดีท็อกซ์ทุกสิ่งลงไป คนที่นี่จะเดิน จะขี่จักรยานเป็นระยะยาวๆ เลียบโขงออกกำลังกัน กลางคืนถ้ามาเสาร์-อาทิตย์จะมีถนนคนเดินขายของมากมาย เดินเพลินมาก เดินบนถนน หรือถ้าอยากสงบก็เดินเลี้ยวเลียบน้ำโขงได้
ไลฟ์สไตล์อีกอย่างเวลามานครพนมคือ ตอนสายๆ หรือเย็นๆ ต้องไปนั่งคาเฟ่ ที่นครพนมมีร้านคาเฟ่น่ารักๆ หลายร้านเลย อย่าง Mogu, 76A, คาเฟ่โรงแรมชีวาโขง คาเฟ่โรงแรม Siri ที่สวยไม่แพ้ไปนั่งอยู่ช่องแคบบอสฟอรัสเลยล่ะ
แล้วขับไปเที่ยวพระธาตุต่างๆ ของเมือง พระธาตุพนม พระธาตุเรณู พระธาตุท่าอุเทน อีกวันขับไปสกลนครไปพระธาตุเชิงชุมได้เลย ถ้าไปสกลนครก็ไปพักที่บ้านเสงี่ยมมณีเลยนะ บ้านเก่าอยู่สบายมาก มีคาเฟ่รายล้อม เดินเล่นตอนเย็นๆ ได้
นครพนมยังมีบ้านเก่า จวนเก่า อย่างบ้านลุงโฮ จวนผู้ว่า ที่ให้เราเข้าไปเดินดูได้ ก็จะไปเจอความเก่าอายุเป็นร้อยปี สวยหมดทุกตึก หรือแวะโบสถ์อันนา โบสถ์เท่ๆ สวยมาก ทิ้งสเปซมีต้นไม้สวยๆ
และใครที่มาพร้อมความเชื่อสำคัญมากต้องไปกราบองค์ศรีสัตตนาคราช ที่บางเวลาท่านจะพ่นน้ำออกมา ยืนดูจะทั้งขลังและอบอุ่นนะ ที่ลานพระยานาคนี้มีโรงแรมชื่อ Landmark สีเหลืองๆ เหมือนโรงแรมกลางปารีสเลย รอตอนพระอาทิตย์ตกดินปริ่มๆ ถ่ายรูปสวยมากๆ แล้วก็เลยจากลานพระยานาคขึ้นไปแถวๆ วัดกลาง จะมีต้นไม้ที่เราของเรียกว่าต้นฮอบบิท ตั้งตระหง่านสวยงามมาก ลองไปนั่งเหม่อมองโขงใต้ต้นไม้นี้ดูนะ พลังของต้นฮอบบิทเยียวยาเราได้
นครพนมหน้าร้อนน่ารัก เรียบง่าย ไม่ค่อยมีคน สีของเมืองจะส้ม ทอง เทาๆ เขียวๆ มีโรงแรมดีๆ ริมโขงหลายโรงแรมเลย ที่เราชอบก็คือ Siri กับ Chewa Khong ใหม่และมีคาเฟ่มุมวิวสวยมาก
ลองมา slow life ที่นครพนมดูนะ
อ่านเรื่องแนวท่องเที่ยวต่อได้ที่ CLEO THAILAND