ไม่มีอะไรจะทำให้เราสดชื่นได้เท่ากับวิ่งเล่นใน สวนดอกไม้ อีกแล้ว อยากวิ่งเล่น อยากโลดแล่นปล่อยใจให้โบยบินที่สุด คลีโออัพเดท 11 สวนดอกไม้สวยในโลกนี้ล่ะ ที่ชีวิตนี้ต้องขอไป อยากไปก่อนอายุ 50 ได้มั้ยอะ
1. Keukenhof Lisse: เนเธอร์แลนด์
สวนดอกทิวลิปที่สวยที่สุด และใหญ่ที่สุดในโลก สวนที่หนึ่งครั้งในชีวิตทุกคนต้องไปเลย เหมือนสวรรค์ เหมือนโลกหายไปแล้วเหลือแค่เรากับสวน ทิวลิปมาทุกสี มีเลคตรงกลางสวน มีม้านั่งให้เราทิ้งสเปซกับตัวเอง เดือนที่ควรไปที่สุดคือตั้งแต่กลางเมษายน ไปจนถึงกลางพฤษภาคม ไปอัมสเตอร์ดัมแล้วซื้อทัวร์เช้าเย็นกลับไปที่ Keukenhof ไปคนเดียวได้ไม่เหงา เตรียมเสบียงไปด้วยนะ แล้วก็จิตวิญญาณอิสระที่พร้อมจะโลดแล่นไปในสวนดอกไม้ ที่นี่ดีท็อกซ์ทุกอย่างออกไปจากหัว จากใจ แต่อย่ามัวแต่ถ่ายรูปล่ะ แนะนำให้นั่งเหม่อมองทุกสิ่ง ดื่มด่ำเข้าไปเลย และถ้าเอาไม่อยู่ไปสักสองครั้งในหนึ่งทริปเอาให้เต็มที่เลยนะ
2. Kirstenbosch National Botanical Garden: เคปทาวน์ อาฟริกาใต้
สวนนี้ตั้งปะทะภูเขา Table Mountain ฝั่งตะวันออก เป็นสวนที่มีดอกไม้หอมๆ เต็มไปหมด ดอกไม้อย่าง proteas, cricas, restios, agapanthus ที่เราไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จักน่ะ ที่นี่จะรวมเอาไว้เลย เป็นสวนที่ใครๆ ก็บอกว่าชีวิตหนึ่งต้องไปนะ เดือนที่น่าไปที่สุดคือมกราคม เพราะเป็นเดือนแห่งดอกไม้บานช่วงซัมเมอร์ของที่นั่น จะเห็นทุ่งดอกไม้สีม่วงตัดกับยอดเขาและฟ้าสีฟ้าจัด มีสเปซกว้างๆ ให้เดินเล่นเยอะมาก มีสะพานโค้งไปมาที่วิวข้างหลังเป็นภูเขาเขียวๆ วิวนี้ล่ะอเมซิ่งที่สุด ไปที่นี่ต้องไปนอนเล่น นั่งปิกนิก และใช้เวลาเลย ช่วงเวลาซัมเมอร์ของที่นั่นมีคอนเสิร์ตแบบกลางแจ้งด้วยนะ
3. Chateau de Villandry: ฝรั่งเศส
อูยยยย สวยสง่าที่สุด ปราสาทที่นี่สร้างมาตั้งแต่ปี 1536 มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ส่วนสวนก็เริ่มๆ มาเมื่อ 1906 เมื่อคุณหมอชาวสเปนที่ชื่อ Joachim Carvallo ซื้อไป สวนที่นี่มาในสไตล์ฝรั่งเศสยุคเรอเนสซองท์ มีสวนแนวเขาวงกตที่มีลายโมโมแกรมกลางสวน มีสวนน้ำ สวนดอกไม้ และสวนผัก สวยทุกฤดู เป็นสวนที่ดังที่ชาวฝรั่งเศสหรือนักท่องเที่ยวชาวยุโรปต้องไปกัน เห็นแล้วสุดอะ
4. Kew Gardens, The Royal Botanic Gardens: ลอนดอน
สวนคิว การ์เดนส์ คือสวนที่ดังที่สุดในอังกฤษ เป็นสวนที่น่ารักมากๆ มีดอกไม้สไตล์อังกฤษๆ มากมายทั้งลิลลี่ ไอริส แคคตัส และยังมีดอกไม้เอ็กโซติคอย่างกล้วยไม้ บอนไซ ดอก bleeding heartด้วย หรือจริงๆ ดอก crocus สีม่วงเล็กๆ ก็มากันเป็นทุ่งเหมือนพรมผืนใหญ่ให้เราเมียงมอง ที่นี่ยังมี fungarium เห็ดสวยๆ มากันเป็นคอลเล็คชั่น เพื่อให้ไว้ศึกษาด้วย มาที่นี่ต้องไม่ใช่แค่วันเดียวนะ แต่ต้องมาใช้เวลาวีคเอนด์ที่นี่เลย หาที่พักแถวๆ นี้แล้วมาเดินเล่นในคิวการ์เด้นบ่อยๆ ที่นี่มีเป็นสารคดีของบีบีซีที่ชื่อว่า “A Year at Kew” ด้วย
5. The Palace of Versailles: ฝรั่งเศส
สวนแห่งพระราชวังแวร์ซายส์เริ่มมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 จ้างดีไซเนอร์แลนสเคปที่ชื่อว่า Andre Le Notre เพื่อสร้างสวนที่สวยที่สุด และใหญ่ที่สุด ก็เลยมีทั้งคลอง ต้นไม้ น้ำพุ สวนดอกไม้แบบเขาวงกต สวนของแวร์ซายส์มีความบาลานซ์ที่เท่าๆ กัน ประมาณว่าถ้าพระเจ้าหลุยส์ยืนชมสวนจากระเบียง ก็จะต้องเห็นต้นไม้สุดลูกหูลูกตา สวนนี้ใช้เวลา 40 ปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ แน่นอนว่าดีไซเนอร์ตายก่อนเสร็จ แต่พระเจ้าหลุยส์ที่ครองราชย์ไป 72 ปี มีโอกาสได้เห็นสวนเสร็จ เป็นสวนหนึ่งในโลกที่ไม่ไปไม่ได้จริงๆ มีประวัติศาสตร์ ความรุ่งเรืองของหลุยส์ที่ 15 และมีกลิ่นอายมารี อังตัวเน็ตต์แห่งหลุยส์ที่ 16 อยู่ด้วยนะ
6. Longwood Gardens: เพนซิลวาเนีย
อีกสวนดอกไม้ที่ชวนฝันเลย สวน Longwood Gardens ที่ Kennett Square เพนซิลวาเนีย สวนนี้สร้างโดย Pierre S. du Pont ในปี 1906 ที่นี่มีเป็นสวนในห้องกระจก สวนแนวอิตาเลียน สวนทิ้งสเปซให้เดินเล่น มีดอกไม้สีสันสดใส ดอกคริสเซนเดอมัมหลากสี มีดอกไม้เป็นพุ่มกลม ดอกไม้ที่ปลูกให้เกาะตามเสา มีกล้วยไม้สวยๆ เพียบ หรือดอกน่ารักมากๆ อย่างสโนว์ดร็อพ ที่นี่ต้องไปทุกฤดูเลยนะ
7. The Butchart Gardens: Victoria Island บริติช โคลัมเบีย
สวนสวยในบริติช โคลัมเบีย แคนาดา เรียกได้ว่าเป็นสวนพฤษศาสตร์ที่อยู่ในใจผู้คนมากมายเลย บางคนบอกว่านี่คือสวนที่สวยที่สุดในโลก สร้างเมื่อยุค 1900s โดย Jennie Butchart เธอเริ่มปลูกดอกไม้ในสวนหลังบ้าน แล้วดอกไม้ก็ค่อยๆ งอกงามขึ้นจนอลังแบบนี้ ที่นี่มีสวนญี่ปุ่น สวนแนวอิตาเลี่ยน และสวนกุหลาบด้วย แล้วเธอก็มอบสวนนี้ให้กับหลานชาย Ian Ross เขาเริ่มพัฒนาสวนอย่างจริงจัง จนมีพืชเป็นล้านต้นที่นี่ และมีพันธุ์หลากหลายถึง 900 พันธุ์ The Butchart Gardens เป็นสวนที่แนะนำเลยว่าต้องจัดมาให้เป็นลิสท์ต้นๆ ที่จะต้องไปเลยนะ
8. Villa d’Este: Tivoli อิตาลี
สวนอิตาเลี่ยนแท้ที่สร้างโดย Ippolito II d’Este เขาสร้างเป็นวังที่อยู่สูงขึ้นไปบนเนิน ที่สามารถมองลงมาเห็นเป็นวิลล่าที่ถูกทำลายของกษัตริย์เฮเดรียน เขาลงทุนสร้างให้สูงขึ้น จ้างผู้เชี่ยวชาญมาทำทางเดินน้ำ เขาอินกับเรื่องนี้มาก เขาใช้น้ำเหมือนกับเป็นทางเดินสายไฟเลยทีเดียว สวนนี้ทำให้นักจัดสวนสมัยนี้ทึ่งมากว่าคนยุคนั้นทำได้ยังไง สวนนี้ถือเป็นแรงบันดาลใจของอาร์ติสท์หลายร้อยคน และไม่เคยจางไปจากใจของคนที่เคยมา ถ้ามาอิตาลีต้องมาที่นี่นะ แล้วจะได้ความทึ่งสุดๆ
9. Jardin Majorelle: Marrakesh โมร็อคโค
สวนนี้มีโทนสีฟ้าเรียงรายไปทั่ว ที่นี่เป็นบ้านและสตูดิโอของอาร์สิตท์ Jacques Majorelle เขาเสียชีวิตไปเมื่อ 1962 และครีเอทสวนโอเอซิสนี้มาทั้งหมด 40 ปี คนที่มาค้นพบก็คือ Yves St. Laurent และ Pierre Berge เขามาเที่ยวและประทับใจ ก็เลยออกเป็นแคมเปญเพื่อช่วยพัฒนาสวนนี้ และในปี 1980 เขาก็เลยซื้อสวนนี้ และทำบ้านอยู่ข้างๆ รวมทั้งทำสตูดิโอของ Majorelle เป็นพิพิธภัณฑ์ไปเลย สิ่งที่คนจะเห็นวันนี้คือความเป็น Majorelle บางส่วน แต่จะมีความเป็น Yves St. Laurent และ Berge เต็มๆ คนไปเที่ยวสวนนี้เยอะมากๆ เป็นสวนที่แทรกตัวอยู่ในเมืองอันวุ่นวาย ก็เลยเหมือนโอเอซิสกลางเมืองนี่ล่ะ
10. Botanical Gardens: สิงคโปร์
ไปสิงคโปร์ถ้าได้ปลีกออกจากถนนช้อปปิ้ง Orchard Rd. สักแป๊บ แล้วเลี้ยวเข้าไปใน Singapre Botanic Gardens จะเจอสวนพฤกษศาสตร์อันไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่กลางเมืองเลย ที่นี่มีทั้งต้นไม้เก่าแก่ยาวนาน มีบึงใบบัว มีสวนกล้วยไม้ มีที่ให้ได้เรียนรู้จักป่า มีความเขียวเต็มไปหมด และดอกกล้วยไม้ก็สวยสง่าไม่แพ้ของบ้านเรา ที่น่าถ่ายรูปมากคืออุโมงค์ต้นไม้ที่มีทั้งแบบเขียวล้วน และวันดีคืนดีก็อาจมีการเอากล้วยไม้ไปตกแต่งสวยงามระย้าไปหมด เดินเล่นที่นี่ชิลล์ๆ ได้ไม่ร้อนเลย
11. Victoria State Rose Garden: เมลเบิร์น ออสเตรเลีย
สวนกุหลาบสวยงามสุดๆ ใน WerribeePark เมลเบิร์น ออสเตรเลีย ที่นี่คือดินแดนแห่งกุหลาบหลากสี สีส้ม เหลือง ขาว ชมพู แดง ม่วง ดอกกุหลาบกว่า 5,000 ดอกที่ขี้นเป็นพุ่มบ้าง เป็นกำแพงกุหลาบเตี้ยๆ บ้าง เลื้อยสูงขึ้นบ้าง ตัดกับสนามหญ้าสีเขียวจัด และท้องฟ้าสีสด ที่นี่มีคนดูแลสวนกุหลาบทำงานกันตลอดเวลา จะเดินดู เดินดมเขาก็ยินดีกัน จะได้เห็นดอกกุหลาบเชพที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน และสีที่สวยมากๆ แนะนำเลยว่าถ้ามาเมลเบิร์นต้องแวะไปให้ได้นะ
อ่านเรื่องราวท่องเที่ยวดีๆ ต่อได้ที่ CLEO THAILAND