นี่สินะ ชีวิตบน เรือยอร์ชหรู มันฟินแบบนี้นี่เอง ได้มาลองปล่อยใจรับธรรมชาติ ดูพระอาทิตย์ตก มองน้ำทะเลใสๆ จิบไวน์กินบาร์บีคิวเบาๆ ยามบ่าย สาดความหรูหราให้ตัวเองแบบไม่ต้องแคร์อะไรทั้งนั้น บอกตัวเองเลยว่า วันนี้ฉันจะมาอัพความไฮที่ Maralyn Yacht Club ประทับใจทุกอย่าง ตั้งแต่ Welcome Drink จนก้าวเท้าออกจากเรือ เวลาหกชั่วโมงที่ใช้ชีวิตบนเรือนี้มันฟินมากจริงๆ นะ ซัมเมอร์แดดเปรี้ยงแบบนี้ วินาทีนี้ก็ต้องยกให้ทริปนี้แล้วล่ะ
จุดหมายปลายทางของเราวันนี้คือ เกาะเป็ด พัทยา เราขึ้นเรือตอนบ่ายโมง เรียกว่าแดดเปรี้ยงเลยล่ะ แต่ลมโปร่งสบาย ไม่ได้รู้สึกร้อนขนาดนั้น เริ่มออกเดินทางจาก Ocean Marina แบบชิลล์ๆ เรือที่เราขึ้นคือ Maralyn เราประทับใจทุกอย่างจริงๆ เขาเก็บรายละเอียดได้ดีมาก ทั้งความสะดวกสบาย อาหาร เครื่องดื่ม การบริการ ทุกอย่างลงตัวมาก
Luxury Beyond Experience
คอนเส็ปต์ของที่นี่คือ อยากให้เรือลำนี้เป็นบ้านที่เคลื่อนที่ได้ เต็มไปด้วยความอบอุ่น สะดวกสบาย หรูหรา และวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ซึ่งเรารู้สึกได้แบบนั้นจริงๆ
ที่ชื่อว่า มาราลีน มาจากความหมายที่แปลว่า “ดวงดาวแห่งท้องทะเล” Maralyn เรียกได้ว่าเป็นคือเรือยอร์ชใหม่ที่สุดแห่งท้องทะเลไทย เหมาะมากเลยนะกับใครที่อยากได้ความเป็นส่วนตัว และความหรูหราแบบไฮๆ ลักชัวรี่จัดๆ ที่นี่เทียบเท่าโรงแรม 6 ดาวเลย เป็นทริปที่อิ่มเอมใจสุดๆ
ถ้าได้ขึ้นไปบนเรือ Maralyn เราจะเห็นสีที่เตะตาเรามาตั้งแรกก้าวขาเหยียบเรือ นั่นก็คือสีส้ม ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากความสวยงามของท้องฟ้า ทั้งในตอนที่พระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า น่าแปลกเหมือนกันนะ ว่าทำไมสีโทนร้อนอย่างสีส้ม ไม่ว่าเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นหรือตก กลับกลายเป็นว่าเราสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานที่โลดแล่น ความอบอุ่น และยังมีความ Relax ในตัว สีส้มเลยเป็นความมหัศจรรย์บนท้องทะเลที่เราสามารถสัมผัสและรับรู้ได้ด้วยตาเปล่า นอกจากสีส้ม ก็ยังมีสีน้ำตาลที่เปรียบเสมือนผืนทราย และสีฟ้า ที่เปรียบเสมือนท้องฟ้า เมื่อทั้ง 3 สีนี้รวมประสานกัน ก็เปรียบเสมือนเราได้อยู่ภายใต้การโอบล้อมของผืนดิน ผืนน้ำ และผืนฟ้านั่นเอง
พอเข้าเรือมา เราจะเจอกับ Panoramic Sea Space เป็นห้องโถงส่วนกลาง ชอบโซนนี้นะ เหมือนเป็นจุดรวมให้ทุกคนมาจอยกัน นั่งดื่ม กินอาหาร ดูวิวน้ำทะเล หรือถ่ายรูปเล่น คือดีมากๆ ลมพัดกำลังดี แม้วันที่ล่องเรือตอนแดดเปรี้ยงแต่จะไม่ร้อนเลย ส่วนถัดไปเป็นห้องนอน
ที่นี่เขามีทั้งหมด 4 ห้องนะ แต่ละห้องก็จะมีคาแรกเตอร์ของตัวเอง แล้วแต่สไตล์
ห้องแรก Sunrise Room เป็นห้องสีส้มที่เปรียบเสมือนแสงแดดช่วงพระอาทิตย์ขึ้น ตกแต่งและให้ความรู้สึกของการเริ่มต้น ที่จะเดินทางออกไป Explore และมี Energy ตลอดเวลา
ห้องที่สองชื่อว่า Ocean Room เป็นห้องสีฟ้ากับบรรยากาศความรู้สึกถึงท้องทะเลที่สวยงามของประเทศไทย
ห้องที่สาม Sunset Room ให้บรรยากาศ Relax ตกแต่งเรียบง่ายสีส้มน้ำตาลเหมือนพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าอะไรแบบนั้นเลย
ห้องที่สี่ Sand Beach เป็นห้องขนาดเล็กอีกห้องที่เหมาะสำหรับเด็ก มาพร้อมการตกแต่งที่เรียบง่าย
วิวทะเลเท่านั้นที่เราต้องการ
อีกโซนขาดไม่ได้คือบริเวณภายนอกเรือ เรียกว่าถ้ามาลงเรือยอร์ชก็ต้องถ่ายรูปกับเรือและวิวทะเลตรงนี้แหละ ที่นี่เขามีบริการเบาะรองนั่งเพื่อให้เราได้จิบเครื่องดื่มพร้อมดื่มด่ำบรรยากาศในขณะที่เรือเคลื่อนที่ไปยังจุดหมายปลายทาง ท้องตาข่ายแบบ Sea Through ที่สามารถนอนเล่น ทำกิจกรรมสนุกๆ กับเพื่อนและมองเห็นท้องทะเล มุมถ่ายรูปบริเวณหัวเรือ
กิจกรรมบนเรือเขามีเยอะมากนะ เริ่มที่อาหารก่อนเลยแล้วกัน สายปาร์ตี้ถูกใจแน่นอน เพราะที่นี่เขามีปาร์ตี้ให้กินอาหารด้วยกันแบบฟินๆ เลย เราสามารถเลือกได้ด้วยนะว่าจะกินเป็น Set BBQ หรือ Seafood พร้อมบัตเลอร์ที่ทำให้เรากินแบบสดๆ ไปเลย เราเลือกเป็นซีฟู้ด ชอบที่สุดคือซีฟู้ดเขาสดทุกอย่าง กุ้งแม่น้ำเด้งมาก ปูก็เนื้อแน่น ไม่คาวเลย น้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติกำลังดี พร้อมกับจิบไวน์ขาวเบาๆ ชมวิวทะเลไปด้วยคือแฮปปี้สุดๆ
ช่วงเย็น แดดเริ่มร่ม เราก็สามารถลงไปเล่นน้ำได้ด้วย ที่นี่เขามีกิจกรรมให้เราเล่นเยอะมากๆ ทั้งการดำน้ำแบบ Snorkeling, พายเรือ Paddle Board และ เรือยาง Dinghy เรียกว่ามาครบจบในที่เดียวจริงๆ
ที่เราชอบที่สุดของวัน ก็จะเป็นการนั่งบนเรือชิลล์ๆ ดูพระอาทิตย์ที่กำลังจะเคลื่อนตัวลับขอบฟ้านี่แหละ แสงพระอาทิตย์ที่กระทบน้ำทะเลคือสวยจริงๆ เป็นโมเมนต์ที่สะกดจิตเราได้เลยจริงๆ นะ ความรู้สึกตอนนั้นมันเบามากและฟรีมาก ในหัวไม่ต้องคิดอะไรเลย แค่ดูความสวยงามของธรรมชาติตรงหน้า หายใจเข้าลึกๆ ทอดสายตาออกไปยาวๆ แค่นี้ก็แฮปปี้มากแล้ว