อยากแนะนำไอศกรีมนี้ “กินตาม” เป็นไอศกรีมแซนด์วิช น่ารัก สนุก อร่อย คาดไม่ถึง ตรงจากเชียงใหม่!
สองพี่น้องสาวพี่น้องสายอาร์ตจากเชียงใหม่ น้ำทิพย์และน้ำอบ รวมใจกันสร้างแบรนด์ไอติมที่ไม่เหมือนใครช่วงโควิด เกิดเป็น “กินตาม” ไอศกรีมแซนด์วิชอร่อยมากๆๆๆๆๆ
เธอชื่อว่าน้ำทิพย์และน้ำอบ เป็นสาวสายอาร์ตทั้งสองคนจากเชียงใหม่ แต่คนหนึ่งจบสายภาพยนตร์ และอีกคนมาแนวกราฟิกจากศิลปากร พี่น้องที่ยิ้มตลอดเวลา และหันมองตากันเป็นระยะๆ น้ำอบบอกว่า “น้ำทิพย์คือคนทำไอติมขึ้นมาทั้งหมด” ส่วนน้ำอบช่วยเรื่องกราฟิก ไอติมของ “กินตาม” คือแรงบันดาลใจช่วงโควิด ที่น้ำทิพย์บอกว่า “งานไอติมก็เหมือนกับงานตัดต่อนะ ใช้มือเหมือนกัน ต้องปรุงเหมือนกัน ไอติมคือมิกซ์ส่วนผสม ส่วนตัดต่อคือเอาฟุตเทจมารวมกันแล้วเลือก” น้ำทิพย์บอกว่าแทนที่จะสร้างงานเป็นวีดีโอ เธอสร้างออกมาเป็นขนมแทน
ความพิเศษของแซนด์วิชไอติมของกินตามก็คือ ตัวคุ้กกี้ที่ประกบไอติมจะอร่อยมากๆ มีให้เลือก 6 แบบทั้งโกโก้ โกโก้ดำ อังคัก เนย ข้าวพอง และข้าวโอ๊ต เนื้อคุ้กกี้จะกรุบๆ เคี้ยวแล้วฟินๆ ส่วนไอติมตอนนี้มีรสอย่างกล้วยผ่อง ช็อคแสบ เย็นเจี๊ยบ ไบรท์จัง นมเย็น ไวท์มอลต์ ชาเย็นลำไย เก็นไมฉะ สังเกตได้เลยว่ารสจะไม่ธรรมดานะ อย่างช็อคแสบนี่คือช็อคโกแลตและพริก!
อีกความเปรี้ยวของ “กินตาม” ก็คือวิธีคิดสร้างแบรนด์ของน้ำทิพย์-น้ำอบ เธอจะคิดคอนเซ็ปต์แบบเหมือนทำวิทยานิพนธ์ประมาณนั้น คิดออริจินัลมากๆ ที่ไม่คำนึงถึงกำไร ต้นทุนใดๆ แต่เอาความสนุกในการคิดมาเป็นที่ตั้ง ความจริงแล้วแบรนด์ของเธอชื่อเต็มว่า “กินตามอัธยาศัย” เพราะแรกเริ่มเธออยากทำสตูดิโอผลิตงานออกแบบ แล้วอยากเปลี่ยนไปเรื่อยๆ พาร์ทนี้คือซีรีย์ของอาหารชื่อว่า “กินตาม” พาร์ทต่อๆ ไปอาจเป็นเรื่องอื่นๆ ต่อไป
และกินตามคือแบรนด์ทำมือล้วนๆ ของน้ำทิพย์ ที่เธอเปิดตัวเมื่อกรกฏคม 2564 ตอนคิดก็แค่ชอบทำขนม และลองคิดทำอะไรที่แปลกขึ้นดู “ไม่รู้ว่าจะสำเร็จมั้ยนะ แต่แค่ได้เริ่มก็แฮปปี้แล้ว” น้ำทิพย์บอกว่าความสนุกที่สุดคือตอนคิดคอนเซ็ปต์นี่ล่ะ เพราะเธอตั้งจากสิ่งนี้ก่อน คิดแล้วถึงค่อยลุกไปลองปั่นไอติมดู
อย่างคอลเล็คชั่นที่ออกไปก่อนหน้านี้ จะเป็นแนวคอนเซ็ปต์การเมืองเล็กๆ อย่างรสช็อคโกแลต+พริก คือตัวแทนความแสบๆ คันๆ ของความรู้สึกของคนที่มีต่อการเมือง หรือรสไบรท์จัง เป็นเลมอนเคิร์ดใส่ผงชาโคล แต่แทนที่เลมอนจะมีสีสดใส กลับเป็นสีเทา-ดำ ก็คือความหมายว่าท่ามกลางความเทาๆ เราจะมีความหวังที่สว่างอยู่รอมั้ย
รสไอติมว่าแซ่บแล้ว แต่อินเนอร์ของน้ำทิพย์และน้ำอบแซ่บกว่า เธอยิ้มตลอดที่คุยกัน เธอเองก็รู้ว่าต้องต่อสู้กับอะไรอีกมากมายในการปั้นแบรนด์นี้ ไม่ง่ายเลย ต้องคิดเงิน ทำมาร์เก็ตติ้ง เจาะลูกค้า ซึ่งเธอมาสายอาร์ตกัน แล้วเวลาคิดคอนเซ็ปต์ก็จะคอนเซ็ปต์ล้วนๆ เพื่อให้คนกินได้สนุก เอาจริงๆ เธอบอกว่า “บางคนอาจคิดตาม บางคนก็อาจไม่คิดเลย ซึ่งก็ไม่เป็นไร” ความอาร์ตจริงคือสิ่งนี้ล่ะ ที่เธอไม่ได้สนใจว่าทุกคนต้องเข้าใจนะ ปล่อยตามอัธยาศัย คล้ายๆ กับหัวใจของแบรนด์ของเธอ
แต่ก็รู้มาว่าน้ำทิพย์และน้ำอบโตมาในครอบครัวที่คุณพ่อเป็นอาร์ติสท์วาดสีน้ำ เธอบอกว่าคุณพ่อไม่เคยเครียด ไม่เคยวาดกรอบชีวิตใดๆ ให้ มีแต่คำสอนว่า “ทำอะไรก็อย่าให้ใจเราขุ่นนะ ให้ใจใสๆ ไว้” เธอก็เลยยึดความสนุกของใจเป็นที่ตั้งในการคิดแบรนด์ของกินตาม พลังงานแบบนี้นี่เองที่ทำให้เธอบอกว่า “ถ้าไม่เวิร์ค ก็ไปต่อ ทำอย่างอื่นได้อีกเยอะเลย” คงเหมือนกับฝันที่ทั้งน้ำทิพย์และน้ำอบอยากทำเหมือนกันคือสร้างสตูดิโอ และก็สร้างโรงหนังอินดี้ที่เชียงใหม่กัน
อยากให้ลองไอติมของกินตามกันนะ แล้วอ่านชื่อไอติม สังเกตรสชาติดู เราจะรู้สึกว่ากินตามอินดี้เลยทีเดียว และล่าสุดกินตามออกคอลเล็คชั่นสนุกๆ ออกมา คอนเซ็ปต์ไม่ธรรมดาแน่นอน น้ำทิพย์บอกว่าครั้งนี้จะเป็นเรื่องของ “การรับรู้”แค่คำโปรยอาร์ทเวิร์คก็ใช้ว่า “เซ็ตนี้สีเพี้ยน” แล้วล่ะ สิ่งที่เราเห็นกับสิ่งที่เราได้ลิ้มรสจะสลับกันหมด อย่างไอติมรสสตรอว์เบอร์รี่ เราคิดว่ามันต้องเป็นสีชมพู แต่ของกินตามจะเป็นสีส้ม หรือไอติม Mint Choc ยังไงก็สีเขียวแน่ๆ แต่น้ำทิพย์บิดให้เป็นสีขาว หรือไอติมสีชมพู แต่ทำไมรสออกมาเค็ม
นี่คือความกวนๆ และสนุกของไอศกรีมแซนด์วิช “กินตาม” ที่เราอยากให้คุณลอง เป็นความล้ำในความเย็น ที่แน่ๆ ระหว่างกินจะรู้สึกมีความสุขจัง สนุกที่ได้แทะเล็มไอติมกับจับประกบคุ้กกี้ด้วยกันไปเรื่อยๆ
ตอนนี้ “กินตาม”มากรุงเทพฯ อยู่ ลองเข้าเฟซบุ๊คของเพจ แล้วเช็คดูนะว่าไปป๊อปอัพที่ไหนบ้าง และที่เชียงใหม่อยู่ที่ onenimman นะ มีสั่งจาก Robinhood, Grabfood, Lineman ได้หมด