ตบเข่าฉาดสมกับเป็นบริษัทระดับโลกจริงๆ เพราะขนาดทำแบบสำรวจพนักงานก็ยังทำได้ตรงใจไม่ใช่แค่ในองค์กร แต่ได้ใจคนทำงานทั่วโลกให้ดูเป็นโมเดล ก็ Google เขาเริ่มโปรเจ็คท์ที่มีชื่อว่าอ็อกซิเจน ซึ่งตั้งสมมติฐานว่าพวกระดับผู้จัดการที่เป็นหัวหน้างานจำเป็นจริงมั้ย เขาคิดว่าเมเนเจอร์ทั้งหลายนี่แหละตัวดีที่ทำให้องค์กรเกิดเป็นชนชั้นวรรณะแบบไม่จำเป็น Google เลยเริ่มทำการทดลองในโปรเจ็คท์นี้มาตั้งแต่ปี 2002 เพื่อทำให้องค์กรไม่ต้องมีลำดับขั้นเยอะๆ
แต่พอเริ่มแบบสำรวจนี้ก็ไม่ได้ทำได้ราบรื่น ยิ่งทำยิ่งเฉ จนทางกูเกิ้ลปัดฝุ่นใหม่แล้วถามด้วยคำถามที่ว่าหัวหน้างานในระดับผู้จัดการที่ดีต้องมีคุณสมบัติยังไง ทำให้สุดท้ายได้มาทั้งหมด 10 คาแร็กเตอร์ที่ทุกคนต้องการ
- ช่วยเป็นโค้ชที่ดี
หัวหน้าตอบมาเลยว่าคุณแคร์หรือไม่แคร์ลูกน้อง ไม่มีรู้สึกกลางๆ นะ เพราะถ้าคุณแคร์ คุณจะให้ทั้งเวลาและพลังกับคนในทีม ฝึกพวกเขาเก่งขึ้นในแบบที่เป็นตัวเอง และอีกครึ่งหนึ่งคุณต้องแก้ปัญหาเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายให้น้องในทีม แต่ไม่ใช่ลงไปทำให้ทั้งหมด
2. เพิ่มความฮึกเหิม อย่าจับผิดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
ไม่มีคนชอบหัวหน้าที่ทำตัวสไตล์ micromanage เป็นถึงคนในระดับบริหาร แต่บ้าบอกับดีเทลที่เล็กน้อยจนอยากบอกว่าพี่ไปดูภาพใหญ่กับให้แนวทางเถอะ บางคนเข้าใจผิดคิดว่านั่นแปลว่าความใส่ใจ แต่ไม่ใช่เลยค่ะ เอาเวลาจับผิดไปหาวิธีสร้างกำลังใจให้คนในทีมสาดแรงสร้างงานดีๆ เหอะพี่
3. สร้างบรรยากาศให้ทุกคนอยากสำเร็จไปด้วยกัน
ยากมากเลยนะที่จะทำให้ทุกคนสนุกไปกับการทำงานและต้องทำให้ได้ตามที่ตั้งเป้าไว้ เพราะพนักงานส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ค่าคอมมิชชั่นก็คิดว่าทำไปเป็นร้อยล้าน เงินเดือนฉันก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น เหนื่อยทำไม เพราะเขาไม่รู้ว่าเบื้องหลังความสำเร็จเหล่านั้นมีค่ามากกว่าเงิน หัวหน้าที่สามารถทำให้ทุกคนคิดว่าทีมที่โดดเด่น น่าจับตามอง เป็นการปูทางไปสู่การซื้อใจผู้บริหารระดับสูง ต่อไปคุณจะขอคนเพิ่ม ขึ้นเงินเดือน ได้โบนัส แค่เอ่ยปากนิดเดียวก็ได้ไปทันที
4. จริงจังกับผลงาน
หัวหน้าต้องหาวิธีที่ทำให้แต่ละคนครีเอทผลงานออกมาในจำนวนมาพอที่จะสร้างมูลค่าให้บริษัทอย่างเต็มที่ ความฉลาดที่หัวหน้าแต่ละคนมีไม่เหมือนกันคือการช่วยคนในทีมให้ทำน้อยแต่ได้มาก ผลงานเริ่ดแต่ไม่เหนื่อยเกินไป
5. ฟังและเป็นที่ปรึกษาที่ดี
สังเกตดูว่าช่วงไหนที่หัวหน้าเอาใจออกห่างจากทีม คนในทีมก็จะเหลวกแหลกอยู่กันเองแบบไร้ที่พึ่ง แค่โมเมนท์ง่ายๆ เมื่อพี่เมเนเจอร์นัดเลี้ยงตำปูปลาร้า นั่งฟังน้องๆ ว่าเจอปัญหาอะไรบ้าง มันรู้สึกสบายใจเหมือนมีคนที่คอยปกป้องและเข้าข้างเราจริงๆ
6. มีกลยุทธ์และวิชั่นที่ชัดเจน
ลูกน้องจำได้นะว่าพี่พูดอะไรเมื่อ 3 เดือนก่อน พวกเราก็กำลังทำงานในแบบนั้นอยู่ แต่อีกสักพักเปลี่ยนไม่เอาแบบเดิมแล้ว งงค่ะ พี่ต้องมั่นคงนะคะ เปลี่ยนเป้าหมายได้ แต่มีเหตุผลให้คนในทีมเข้าใจบ้าง
7. อยากเห็นทุกคนเติบโต
หัวหน้าที่ใจร้ายคือหัวหน้าที่ให้ลูกน้องตัวเองอยู่กับที่เป็นสิบๆ ปีก็อย่าหวังได้ผุดได้เกิด เราสัมผัสได้นะว่าหัวหน้าคนไหนหวังดีอยากดันให้เราไปอยู่แถวหน้า เขาจะมีสายตาที่วาง career path ให้แต่ละคนเดินไปได้อย่างสวยงาม
8. เชี่ยวชาญในงานที่ทำจนแนะนำคนอื่นได้
ในกูเกิ้ลอยากให้เมเนเจอร์ของพวกเขามีทักษะเฉพาะทาง เช่น การเขียนโปรแกรม ฯลฯ ผ่านร้อนผ่านหนาวมากพอ เวลาน้องมาปรึกษาก็บอกได้เลยว่าอ๋ออออ พี่เคยเจอมาแล้ว ทำอย่างนี้สิ เป็นคนที่อยู่ในเทรนด์ หัวหน้าเลยต้องอ่านอะไรอัพเดทมากกว่าคนอื่นหน่อย
9. ร่วมมือไปด้วยกัน
ทีมที่ดีไม่ใช่มีคนเก่งคนเดียวหรือหัวหน้าเจ๋งอยู่บนหอคอย แต่ทุกคนต้องเอาประสบการณ์และความสามารถมาแบตเทิลกัน ความรู้สึกไว้วางใจต่อกันของคนในทีมสำคัญมาก ต้องทำงานให้ขาดใครคนใดคนหนึ่งไปไม่ได้ นั่นเป็นความหมายของทีมเวิร์คเลย
10. ตัดสินใจแม่นยำ
บอกตามตรงว่าหัวหน้าที่พอถามหรือขอความเห็นอะไร เอาแต่บอกว่าไม่รู้สิ ไม่แน่ใจ ทำได้มั้ยไม่รู้ เราก็เดินออกมาแบบมึนๆ สู้บอกไปเลยว่าเอาหรือไม่เอา ดีหรือไม่ดีจะได้ทำตัวถูกค่ะพี่
ทั้งสิบนิสัยนี้อาจไม่ใช่แค่ที่บริษัท Google ที่ต้องการหัวหน้าลักษณะนี้ แต่พนักงานทั่วโลกรวมทั้งเราเองก็ตามหามานาน
#CleoCareer
