มันจะมีโมเมนต์ที่ตื่นมาแล้วงงกับชีวิตตัวเอง อยู่ๆ ก็สงสัยในตัวเองขึ้นมาแบบดื้อๆ “นี่ฉันทำอะไรอยู่” “ฉันดีพอรึยัง” “ฉันใช้ชีวิตไปเพื่อใคร” มีหลายคนที่เวลาเจอกับโมดมนต์แบบนี้กับตัวเองแล้วพยายามหนีมัน หรือไม่ก็คิดอยู่แบบนั้นไม่จบไม่สิ้น จนบางทีก็คิดมากไปเลยก็มี และมองว่า Self-doubt เป็นอะไรที่แย่ ถ้าคิดเยอะแล้วจะอ่อนแอ จริงอยู่ว่ามันคือ weakness ของเรา แต่บางทีการที่เราตั้งคำถามหรือสงสัยกับตัวเองที่เรามองว่าอ่อนแอนี่แหละ ที่จะกลายมาเป็นจุดอ่อนของเรา และมันจะไม่ใช่ความอ่อนแออีกต่อไป
เลิกมอง Self-Doubt ว่าคือความอ่อนแอ แล้วมองมันให้เป็นจุดแข็งที่จะทำให้เราได้รู้จักและรักตัวเองมากขึ้น
มีนักเขียนบล็อกคนหนึ่งชื่อว่า Theodora Goss เธอพูดถึงเรื่องนี้ไว้ได้ดีมากๆ เลย เธอเล่าว่าเธอก็เป็นนักเขียนคนหนึ่งที่ตั้งคำถามและสงสัยกับตัวเองบ่อยมาก จนกระทบกับงานเขียนของเธอ เธอเคยมองว่าการที่เราต้องมานั่งสงสัยในตัวเองนั้นเป็นปัญหาที่เราจัดการไม่ได้ จนกระทั่งเธอพบวิธีการอยู่ร่วมกับความสงสัยของตัวเองและเปลี่ยนให้กลายเป็น Strength ที่อยู่ในตัวเรา และเลิกมองว่าสิ่งนี้คือความอ่อนแอ เธอแชร์วิธีคิดที่ simple สุดๆ แต่ก็กินใจมากๆ มันคือวิธีการมองมุมกลับและปรับมุมมอง
Self-doubt ทำให้เราฮึดกว่าเดิม
เธอมองว่า การสงสัยในตนเองอาจทำให้ยอมแพ้ได้ อาจไม่เป็นความจริงเสมอไป แต่ความสงสัยในความสามารถและความสามารถของตัวเองให้เธอทำงานหนักขึ้นในทุกสิ่งที่ฉันทำ เรียนหนักขึ้นเพื่อสอบ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับชั้นเรียน ฝึกฝนมากขึ้น มีอีกหลายคนมากๆ ที่สงสัยในตัวเอง และความสงสัยนั้นกระตุ้นและอินสไปร์พวกเขาแทนที่จะหยุดพวกเขา พวกเขาไม่รู้ว่ามันดีหรือเปล่า ดังนั้นพวกเขาจึงพยายามทำให้ดีขึ้น โดยที่ไม่รู้ว่าผลลัพธ์นั้นจะออกมาเป็นอย่างไร ดังนั้นพวกเขาจึงคิดเรื่องนี้ให้มากขึ้น และทำมันให้ดีขึ้น
แน่นอนว่าการที่เราทุ่มเทมากเกินไปในบางครั้งมันก็ทำให้เราอ่อนล้างได้ เพราะฉะนั้น เราเลยต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรจะพัก แต่บางคนก็หยุดเร็วเกินไป Theodora บอกว่า “บางทีก็มีคนที่ต้องการบางสิ่งบางอย่าง แต่ไม่ทำงานหนักเพื่อสิ่งนั้น เพราะพวกเขาคิดว่า ทำมาเพียงพอแล้ว บางครั้งพวกเขามีความมั่นใจในตัวเองและพรสวรรค์มากเกินไปจนรู้สึกราวกับว่าไม่ต้องทุ่มเทกับงานนั้น และสุดท้ายพวกเขาก็ไม่ได้ทำมัน”
ดังนั้นการสงสัยในตัวเองอาจเป็นสิ่งที่ดีนะ เพราะมันสามารถทำให้เราทำงานหนักขึ้นเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ
การสงสัยในตัวเองจะทำให้เรามีมาตรฐานสูงกว่าเดิม
การที่เราสงสัยในตนเองหมายความว่าเรานั้นตัดสินตัวเองอย่างรุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ไม่ดี และนำไปสู่ความสิ้นหวังและภาวะซึมเศร้าก็ได้ แต่อีกทางหนึ่งสิ่งนี้ก็สามารถทำให้เรามีมาตรฐานที่สูงขึ้น เธอบอกไว้ว่า
“ในฐานะศิลปิน บ่อยครั้งที่เราต้องสร้างมาตรฐานของตัวเอง จากสิ่งที่เราเชื่อว่าดีที่สุด แม้ว่าฉันจะทำได้ก็จะไม่ต่อเนื่องกัน ฉันต้องหาทางของฉันเอง เสียงของฉันเอง”
แต่ก็มีหลายครั้งที่เธอสงสัยในตัวเอง เธอจึงพยายามทำให้ดีที่สุด สิ่งที่เธอตั้งเป้าไว้อาจอยู่ไกลเกินเอื้อมเสมอ แต่อย่างน้อยเธอก็จะได้รู้ระยะห่างระหว่างสิ่งที่เธอทำกับที่ที่เธอต้องการจะไป อันนี้เราชอบมากๆ เธอจะไม่พูดว่า “พอแล้ว นี่ดีพอ” แต่เธอจะพูดว่า “นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ฉันสามารถทำได้ในตอนนี้” “ฉันจะพยายามให้ดีขึ้น ฉันจะทำสิ่งต่อไป เพราะใครจะรู้ สิ่งต่อไปอาจเป็นสิ่งนั้น หรือสิ่งหลังจากนั้น”
ที่จะบอกก็คือการที่เราสงสัยในตัวเองมันอาจไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายเสมอไป จริงอยู่ที่มันอาจเป็นจุดอ่อนที่ไม่ให้เราเชื่อและทำในสิ่งที่ต้องการหรือทำให้ชีวิตเราไปได้ไกลกว่าเดิม แต่เรายังสามารถกำหนดมันใหม่ให้เป็นจุดแข็งได้นะ