ตอนนี้กลับมาทำงานในออฟฟิศกันแล้ว แต่การกลับมาครั้งนี้มีหลายบริษัทที่ปรับตัวอะไรใหม่ๆ เหมือนกับบริษัทดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งนี้ในนิวยอร์คที่ชื่อว่า Tinuiti ซึ่งมีลูกค้าดังๆ ระดับโลก มากมาย กลับมีแนวคิดสวนทางด้วยการให้วันลาถึง 70 วัน ในขณะที่ 1 ใน 3 บริษัทของอเมริกาให้วันลาอยู่ที่ 10-14 วัน ก็พอๆ กับวันลาที่เราเห็นในหลายบริษัทของไทย
ไม่ต้องแปลกใจ เพราะเราก็สงสัยว่าบริษัทนี้บริหารเวลาทำงานยังไง ลูกค้าด่ามั้ย งานเสร็จทันเหรอ 70 วันที่ให้ลานี้ได้รับการจ่ายค่าจ้างเป็นวันลาพักหยุด วันลาฟื้นสุขภาพทางใจ และบางวันศุกร์ที่ทำถึงแค่บ่ายโมง ไม่รวมวันลาป่วย แต่พนักงานอาจจะไม่สามารถลาติดต่อกันมากกว่า 3 สัปดาห์ ซึ่งบอกตามตรงได้ขนาดนี้ก็ดีใจเนื้อเต้นแล้วนะ
สื่ออย่าง Digiday ได้สัมภาษณ์หัวหน้าฝ่ายบุคคล เจฟฟ์ บาทูฮัน Chief People Officer ของ Tinuiti ว่าหลายเอเจนซี่ตอนนี้ให้พนักงานเข้าออฟฟิศ แต่ทำไมเขาถึงยิ่งให้วันลาหยุด เจฟฟ์อธิบายว่า “เราอยากเพิ่มพลังให้กับพนักงานทำงานให้เสร็จ ไม่ใช่เวลาแค่ที่โต๊ะทำงานหรือมาล็อกอินเข้าคอมพิวเตอร์เฉยๆ เรามีคัลเจอร์ที่อยากให้ทุกคนรู้สึกประสบความสำเร็จ ถ้าเขาอยากทำงานนานขึ้น ก็เพราะเขาอยากให้งานเสร็จ คุณอาจจะทำ 8 ชม. 10 ชม. หรือน้อยกว่านั้น เป็นวัฒนธรรมที่ให้พนักงานได้เป็นเจ้าของเวลาในการทำงานในการจัดการงานต่างๆ ด้วยตัวเอง แล้วเวลาที่งานเสร็จ คนอื่นหยุด คุณก็ได้หยุดตาม ไม่ต้องมานั่งตามงานหรือเป็นห่วงงานกัน”
คุณเจฟฟ์ยังบอกอีกว่ากลยุทธ์นี้เป็นการดึงดูดให้คนมาทำงานและลดการลาออก เพราะบริษัทให้ความสำคัญกับคนในออฟฟิศ พนักงานมาก่อนลูกค้า มาก่อนกำไร มาก่อนสิ่งต่างๆ ในช่วงเวลาที่ยากลำบากและในช่วงเวลาที่ดี บางคนเป็นห่วงว่าลาเยอะขนาดนี้ มีการดีลกับลูกค้ายังไง คุณเจฟฟ์บอกว่า “ผลลัพธ์ของการทำงานให้ลูกค้าวัดจากความสุขของพนักงานที่จะกลายเป็นเชื้อไฟที่ดีในการเพิ่มการเติบโตให้บริษัท ลูกค้าเชื่อมั่นว่าพวกเราทุกคนตั้งใจทำงานด้วยความตั้งใจ โฟกัสที่เนื้องานและพวกเราทำงานหนัก เราไม่ได้วัดผลจากผลงานหรือชั่วโมงการทำงาน ถึงทีมจะไม่อยู่ในออฟฟิศ ถ้างานต้องเสร็จก็จะหาวิธีทำให้เสร็จได้เอง”
การเริ่มต้นใหม่ๆ ของบริษัทดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งแห่งนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นวัฒนธรรมที่กล้าให้ความสำคัญกับพนักงานด้วยการลงมือทำจริง คุณเจฟฟ์บอกว่าแค่ฟังสิ่งที่คนในองค์กรพูดและให้ความยืดหยุ่นกับพวกเขา เพราะนั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด