คนเราเกิดมาพร้อมกับเห็นชีวิตคนอื่นดีกว่าตัวเองเสมอ ทำไมรู้สึกว่าเราเก่งไม่พอ ไม่มีโอกาสเหมือนคนอื่น ความอิจฉามันเกาะแน่นในใจเหลือเกิน คลีโอจะบอกให้ว่าทุกคนต้องเกิดการเปรียบเทียบในใจอยู่แล้ว โดยเฉพาะเวลาที่เราไปทำงาน เป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะมีการสำรวจของ Skynova บอกว่าคนทำงานมากกว่า 40% รู้สึกอิจฉาเพื่อนร่วมงานอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ เรื่องที่อิจกันมากๆ 3 อันดับแรกเลยคือ เงินเดือน การได้เลื่อนตำแหน่งและความสำเร็จในหน้าที่การงาน
ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นหมด แม้กระทั่งซีอีโอคนระดับสูงเขาก็อิจฉาคนอื่น เพราะกลัวรู้สึกไม่สำเร็จมากพอ แต่ปัญหาคือไม่มีใครกล้าออกมายอมรับว่าเรากำลังอิจฉา เพราะเราจะกึ่งๆ โทษคนอื่น โทษโลกไปว่าทำไมไม่มีความยุติธรรม หัวหน้าลำเอียงหรือเปล่า แล้วการเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่นตลอดเวลาเป็นความเสียเวลาและเสียพลังงานมากมาย เผลอๆ มัวแต่อิจฉาเลยทำให้เราเองนั่นแหละไม่ได้โฟกัสไปที่ความสำเร็จของตัวเอง ยิ่งเราไปดูคนอื่น เราจะเอาเวลาที่ไหนกลับมาพัฒนาที่ต้องทำ ดังนั้นเปลี่ยนแอตติจูดใหม่เพื่อความสุขของชีวิตเราเองดีกว่า
1.สนใจตัวเองแล้วหาว่าเราเก่งด้านไหนไปเลย
หยุดถามว่าทำไมเขาได้ดี ทั้งที่เราทำงานหนักกว่า ถ้าเรายินดีกับคนอื่นไม่ค่อยเป็น ดึงความรู้สึกกลับมาที่ตัวเรา ถึงวันนี้รู้หรือยังว่าเรามีความสามารถด้านไหนกันแน่ กลับมารู้สึกมั่นใจในสิ่งที่เป็น ไม่ต้องคิดว่าเราหรือเพื่อนร่วมงานใครเด่นกว่า ด้อยกว่า ทำข้างในให้แข็งแกร่งก่อนที่เราจะลืมในสิ่งที่เรามี
2.เอาความอิจฉาเป็นแรงบันดาลใจ
มองเลยว่าทำไมเพื่อนร่วมงานถึงได้อะไรดีๆ มากกว่าเรา เพราะเขาพูดเก่ง เขาเข้ากับคนง่าย เขาเป็นผู้นำ เขาทุ่มเทเวลามากกว่า เขาขยันทำพรีเซ้นท์ วิเคราะห์ออกมาเลยแล้วเราก็เพิ่มสิ่งนั้นให้เป็นสกิลล์เสริมขึ้นมา เอาความเจ๋งของเขามาเป็นแบบอย่าง เลือกแต่เรื่องดีๆ แล้วครูพักลักจำไปเลย
3.ฝึกรักตัวเองแล้วความอิจฉาจะน้อยลง
อย่างที่หลายๆ คนเคยกล่าวไว้ เมื่อไหร่ที่เรามีความสุขกับตัวเอง เราจะอิจฉาคนอื่นน้อยลง รู้ตัวว่าเรากำลังอิจฉาอยู่นะเนี่ย แล้วก็ค่อยๆ หยุดความรุ่มร้อนในใจลงได้เอง ทำไปบ่อยๆ เราเริ่มไม่ค่อยเปรียบเทียบกับใครแล้ว อาจจะมีคิดนิดๆ แต่ก็หันมาทำงานของตัวเองต่อได้แบบไม่รู้สึกเคืองอะไร ทุกคนมีวาระของตัวเอง จะดีไม่ดีก็อยู่ที่เราเองทั้งนั้น