รู้สึกมั้ยว่าตอนเราเด็กกว่านี้ ไปเดททำไมมันง่ายจัง ไม่คิดอะไรมากแล้วก็อาจจะคบบ้าง ไม่คบบ้าง แต่พอเข้าวัย 30s เท่านั้นล่ะ เรื่องเดทยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา คลีโอเลยขอจัดกฎเหล็ก 15 เดทในวัย 35 อัพ สิ่งนี้จากกูรูชื่อดังมาลองให้อ่านกันนะ
จริงมั้ยที่เดทให้วัย 30s มันช่างยากขึ้นๆ?
บางคนอาจจะคิดว่าพอเข้าวัย 30s หรือ 35 อัพ เดทจะยากขึ้นเรื่อยๆ หรือบางคนคิดเลยว่า “เราคงไม่ได้เจอในฝันแล้วมั้ง” คลีโออยากบอกว่าจริงๆ คือไม่ใช่เลยนะ คน เดทในวัย 35 อัพ น่ะ ฮอตกว่าเดิมและแม่นยำกว่าเดิมด้วยซ้ำ!! เพราะนี่คือวัยที่ “เรารู้จักตัวเอง” เป็นวัยที่ “เราผ่านประสบการณ์ความรักมาแล้ว” เรารู้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบอะไร และเรื่องการงาน เรื่องชีวิตอื่นๆ เราก็ผ่านมาแล้วประมาณหนึ่งด้วย ไปเดทอาจจะดูมีแต้มน้อยกว่าวัย 20s ก็จริง แต่รับรองว่ามีคุณภาพกว่าแน่นอน เพราะคุณสามารถใช้วิสดอมเรื่องความรักได้คมขึ้น และจะเข้าใจอีกฝ่ายมากขึ้นด้วย
15 กฎเหล็กไปเดทในวัย 35 อัพนี้จากโค้ชเรื่องความสัมพันธ์ชื่อดัง ชานตา แจ็คสัน และคิงส์เลย์ โมโย
เขาบอกว่า…..

- รู้จักตัวเราเอง
“หนทางที่ลัดที่สุดให้ความสัมพันธ์ประสบความสำเร็จก็คือ การเข้าใจตัวเรานี่ล่ะ” โมโยบอกไว้ และแจ็คสันเองก็แนะนำด้วยว่า “สิ่งเลวร้ายที่สุดที่คุณจะทำก็คือเดทในวัย 35 อัพแต่คุณยังไม่รู้เลยว่าตัวคุณเป็นยังไง” สิ่งนี้จะทำให้การไปเดทเสียเวลาสำหรับคุณมาก คุณจะไม่รู้ความต้องการของตัวเอง และไม่รู้ว่าจะบอกความต้องการนั้นออกมายังไง เพราะคุณไม่รู้จักตัวเอง

2. เลิกคิดเรื่องอายุ
พอเข้าวัย 35 อัพคุณก็เริ่มนับโอกาสในการมีใครแบบถอยหลังลงแล้ว บางทีอาจเพราะเพื่อนๆ รอบตัวเริ่มแต่งงานไปหมด หรือครอบครัวเจอหน้าคุณก็ถามแต่เรื่องนี้ “เราน่ะจะสี่สิบแล้วนะ ยังไม่แต่งงานอีกหรือ” ไหนจะเรื่องมีลูก มีบ้าน ที่ทำให้คุณกลัวว่าฉันจะแก่ไปมั้ย แต่กูรูทั้งสองท่านบอกว่า “อย่าคิดเรื่องอายุเด็ดขาด”
“เอาความคาดหวังของสังคมและครอบครัวออกไปซะ นี่คือชีวิตคุณทั้งชีวิต ความรักเกิดขึ้นในอายุไหนก็ได้ อย่ากดดันตัวเอง และอย่าให้ความโสดมาทำให้คุณรู้สึกว่าตัวคุณมีอะไรผิด”
โมโยบอกด้วยว่า “ไม่ได้สายเกินไปสักหน่อย มันไม่มีกฎอะไรเลยที่คุณจะเริ่มเดทอายุไหนก็ได้”

3. ไม่เห็นเป็นไร ถ้าเราจะไม่มีประสบการณ์
แล้วถ้าคุณจะไม่มีประสบการณ์เดท หรือประสบการณ์ความรักเลยก็ไม่เป็นไร ถ้าไปกลัวว่าเราจะทำตัวยังไง เซ็กซ์ก็ไม่เคยมี ไม่รู้จะโดนใครหลอกมั้ย ก็อาจจะไม่ได้เดทไปจริงๆ ตลอดชีวิตก็ได้ อยากบอกว่า “ความจริงแท้ของคุณ” นั่นล่ะคืออาวุธสำคัญสำหรับเดทมากที่สุด ใจที่เปิดกว้างและจริงเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับอะไรเลย

4. รักษาแผลใจในอดีตให้หายสนิทซะ
เดทในวัยนี้มีข้อได้เปรียบคือคุณเคยผ่านความรักมาบ้าง แจ็คสันแนะนำให้ว่าถ้าความรักที่คุณผ่านมา ยังสร้างแผลใจให้คุณอยู่ ต้องไปจัดการล้างใจเลยนะ “ถ้าคุณไม่ล้างออกให้หมด สิ่งเดิมๆ ก็อาจเกิดขึ้นอีกได้” โมโยบอกเพิ่มว่า “ยอมรับความเจ็บปวดนั้น และเอาก้อนปมในใจออกซะ เพื่อที่พอเจอใครใหม่ คุณจะไม่ซ้ำลงที่เดิม และก็ไม่แฟร์สำหรับหัวใจสดใหม่ของเขาที่จะเข้ามารักคุณด้วย”

5. จับแพทเทิร์นเดท อะไรไม่เวิร์คก็เปลี่ยน
อย่ามีข้อแม้กับอะไรในตอนเดท แต่ก็ให้จับแพทเทิร์นของตัวเราไว้ เราเคยไปเดทแบบให้เขาเลือกร้าน แต่ก็ไปนั่งอึดอัดตลอด คราวนี้เราลองมาเป็นคนเลือกเองดูบ้าง เราเลยเล่นเกมให้เขาไปรอก่อนเวลา หรือเราลองไปให้ตรงเวลา หรือเรานั่นล่ะลองชวนเขาไปเดทก่อนเลย อายุนี้ทำอะไรก็ได้แล้วจริงๆ นะ ปรับไปเรื่อยๆ แบบไม่ต้องยึดกับสิ่งที่ใครทำ หรือที่เราเคยทำๆ มาทั้งนั้น

6. เลิกวางแผนใดๆ ทั้งนั้น
สำคัญที่สุดแจ็คสันบอกว่า “อย่าตกหลุมในการวางแผนใดๆ” “อย่าเล่นเกม” “ถ้าคุณอยากโทร.หาเขา โทร. เลย ถ้าอยากชวนใครไปเดท ก็ชวนเลย” อยากบอกว่า “การถูกปฎิเสธน่ะ มันยังไม่เจ็บเทาความรู้สึกว่า ทำไมเราไม่ทำแบบนั้นไปนะ” เราโตแล้ว เราเลือกทางของเราได้แล้ว ไม่ต้องรอลุ้นเพื่อลองใจใครเลย

7. เคลียร์ใจว่าเราต้องการอะไร
เราอาจมักลังเลเสมอว่าจะบอกความต้องการจริงๆ ของตัวเองดีไหม ก็เพราะเรากลัวว่าจะทำเขาจากไปน่ะสิ แต่จริงๆ แจ็คสันบอกว่า “คุณควรบอกไปเลยว่าต้องการอะไรมากกว่า นั่นคือคุณรู้จักตัวเอง และได้เริ่มส่งเสียงอันแท้จริงของตัวเองแล้ว” ยิ่งถ้าคนที่ไปเดทกลายมาเป็นคู่ชีวิตจริงๆ ก็จะได้มีความสุขแทงยาวด้วย ไม่ใช่ใช้ชีวิตอยู่ใต้เงาของใคร

8. ค้นหาสไตล์เรื่องเงินให้ตรงกัน
ไม่นะ! ถ้าเราอุตส่าห์เก็บเงินทำงาน เพราะเราอยากมีชีวิตยิ่งแก่ ยิ่งมีความสุข แล้วคนที่เราเดทกลับเป็นคนใช้เงินเก่ง ไม่มีแผนการเงินของตัวเอง “ให้เรื่องสถานะการเงินเป็นพลังของคุณ เป็นความมั่นใจของคุณดีกว่า ไปเดทกับใครก็เซลฟ์ได้เลยว่า ฉันไม่ต้องขอเงินใคร คุณจะรู้สึกไม่ด้อยกว่าเขา” พลังแบบนี้จะดีกับข้างในคุณเลยล่ะ

9. รู้ว่าในความสัมพันธ์ เราแคร์ ไม่แคร์อะไร
ลึกๆ เราอาจเป็นผู้หญิงขี้หึง ติดแฟน ต้องการความรัก เรื่องพวกแบบนี้ก็ให้รู้และยอมรับไว้ว่าเราเป็น อย่ากลัวที่จะค้นหาตัวเอง และถึงมันเป็นนิสัยที่เราก็ไม่ชอบ แต่ก็ต้องรู้เอาไว้ เช่น ถ้าเจอคนเจ้าชู้ เราจะได้ไม่ต้องเข้าข้างตัวเองว่า ฉันทนได้ เพราะยังไงเราก็คงทนไม่ได้ จะได้ไม่เสียเวลาด้วย

10. เลิกเดทคนที่ภายนอก
ต้องพอกับการไปเดทกับใครเพราะเขารวย เขามีบ้านหลายหลัง ครอบครัวเขานามสกุลดัง ทั้งหมดนี้จะบดบังให้เราไม่เห็นความจริงในใจเขา และของตัวเราด้วย ยังไงก็ต้องแตกโพละขึ้นสักวัน เราทนไม่ได้หรอกถ้าไปเดทกับคนที่ภายนอกเป๊ะ แต่เนื้อในช่างคนละเรื่องกับเรา

11. ฝึกเรื่องการพูดคุยกับคน
วัยนี้เรามีเรื่องคุยกับใครได้มากขึ้นแล้วนะ เรารอบรู้ขึ้น เจอโลกมามากขึ้น ก็ใช้ชั่วโมงบินนี้ฝึกฝนตัวเองให้เปิดกว้างกับบทสนทนากับคู่เดทของเรา ฝึกใช้ความคิดเชิงลึกเวลาคุยกับเขาด้วย ถามอะไรที่เป็นเรื่องของอารมณ์ ความรู้สึก ที่มาที่ไปของสิ่งต่างๆ จะทำให้ได้รู้จักกันมากขึ้น ลึกขึ้นแน่นอน

12. เปิดใจให้กว้างไว้
แล้วก็อย่าเพิ่งไปตัดสินเขาแค่เพราะภายนอกเขาอาจไม่ถูกใจเรา เราอาจเคยตั้งสเปคว่า “ชอบคนตัวสูง” “ชอบคนคุยเก่ง” แล้วพอมาเจอคนไม่สูง กับเงียบๆ เราก็ตัดสินว่าไม่ใช่แล้ว ลองเปิดใจและให้โอกาสเขาด้วย จะทำให้คุณพลาดน้อยลงได้นะ เปิดใจกับตัวเองด้วยว่าอย่าคิดว่าตัวเรา “ไม่ดีพอ” ด้วยล่ะ

13. อย่าพึ่งแต่แอปเดท
ไม่ติดแอปขนาดนั้นนะ ถึงจะเป็นยุคดิจิตัลก็เถอะ เพราะแอปก็อาจกลายเป็นคอมฟอร์ต โซนของคุณและปิดกั้นอะไรบางอย่างไปได้ ไปเดทกับคนที่เพิ่งเคยเจอ คนที่เพื่อนแนะนำ หรือเพื่อนเก่าที่โรงเรียนบ้างก็ได้นะ

14. เลิกคิดเรื่องบทบาทเรื่องเพศ
หมดยุคแล้วที่จะมานั่งคิดว่าผู้ชายควรเป็นยังไง ผู้หญิงควรทำอะไร ช้างเท้าหน้า ช้างเท้าหลังอะไรนั่นน่ะ จะทำให้เรากดดันตัวเองและเขาไปเปล่าๆ เอาใจล้วนๆ ออกมากองได้แล้ว

15. จำไว้เลยว่า “ไปเดทไม่ใช่จะต้องแต่งงาน”
มันคงดีถ้าเรา “ได้เจอคนที่ใช่ แล้วแต่งงานกัน” แต่มันไม่เป็นแบบนั้นเสมอไปน่ะสิ โมโยบอกว่า “อย่าไปคาดหวังแบบนั้นล่ะ จะทำให้การเจอใครเต็มไปด้วยความหวังในใจ และคุณไม่เป็นตัวเองได้ ให้เดทเป็นเรื่องของความสนุก ได้เรียนรู้จักกัน ให้เป็นธรรมชาติต่อกันดีกว่า”
อ่านเรื่องราวอื่นๆ ได้ที่ CLEO Thailand และ FB > CLEO