ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Art, Love

Poemspells งานอาร์ตวาดภาพและบทกวี ที่ทะลวงหัวใจเราให้สั่นไหว ของ เกิร์ล Lafynagirl และ วิน โรแมนติกร้าย

โรแมนติกร้าย

ความล้มเหลวเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเคยเจอ ความเสียใจ น้ำตาที่มาจากการแตกสลายในช่วงหนึ่งของชีวิต นำมาสู่ความเจ็บปวดและความสงสัยในตัวเอง หลายครั้งที่เราพยายามกอบกู้ความเป็นตัวเองและความรักที่หลงเหลืออยู่กลับคืนมา หนึ่งสิ่งที่ช่วยได้คือ “ศิลปะ” บางครั้งการได้อ่านบทกวีที่เข้าไปสะกิดในใจจนน้ำตาไหล หรือการได้ดูภาพวาดที่ให้เราได้ใช้ความคิดกับตัวเอง ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการค้นหาตัวเองได้เหมือนกัน เช่นเดียวกับ วินและเกิร์ล ศิลปินที่ผ่านช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดและแหลกสลายนักครั้งไม่ถ้วน แต่เขาและเธอก็ใช้สิ่งที่รักในการเยียวยาหัวใจ และอยากส่งต่อพลังให้กับใครก็ตามที่กำลังหลงทางหรือแหลกสลาย ในงาน Poemspells “ไม่ต้องสมบูรณ์แบบ เธอก็คู่ควรกับความรัก”

“ทุกคนมีความเป็นนักเล่าเรื่องอยู่ในตัว ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้อะไรในการเล่า”

ถ้าพูดถึง วิน นิมมาน หรือ โรแมนติกร้าย ภาพในหัวของเราคือผู้ชายยิ้มหวานที่มาพร้อมกับพิมพ์ดีดสีชมพูคู่ใจ ที่พร้อมมอบความรักและพลังบวกให้ทุกคน แต่กว่าจะมาเป็น วิน โรแมนติกร้ายในวันนี้ เขาเคยผ่านช่วงเวลาที่หลงทางและแตกสลายมาหลายครั้ง ผ่านความกลัว ความล้มเหลวมากมากมาย แต่สุดท้ายเขาก็มอบความรักให้ตัวเองและคนอื่นได้อย่างมากมายมหาศาลผ่านบทกวีที่เขาเขียนออกมาจากใจ

วินเล่าว่า “เมื่อตอนเด็กๆ เราเป็นเด็กอ้วนขี้อาย พูดไม่เก่ง แถมสมัยที่เรียนชายล้วน เราก็มักจะเห็นเพื่อน LGBT ถูกรังแกมาตลอด มันเลยกลายเป็นแผลใจว่า “เราอยากเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้น” สิ่งนี้เป็นแรงบันใจให้เราเป็นเฟมินิสต์และเชื่อเรื่องความเท่าเทียม จนเริ่มอยากส่งพลังไปให้คนอื่น ผสมกับความเป็นเด็กขี้อายของเราเลยทำให้เราชอบเขียนไดอารี่ พอได้จดบันทึกมากขึ้น มันเลยหลายเป็นสิ่งที่เรารู้สึก เหมือนได้ฮีลตัวเอง ได้คุยกับตัวเอง เลยรู้สึกว่าการเขียนอาจเป็น Magic ของเราก็ได้ โรแมนติกร้ายเลยเป็นกวีที่มองเห็นเรื่องโรแมนติกในวันที่โลกใจร้ายได้ เราอยากสร้างกำลังใจให้ผู้หญิง รวมไปถึงสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ”

“ดูภายนอกคนอาจจะเข้าใจว่าเราเป็นหนุ่มหวาน แต่ถ้าขุดลึกลงไป ความหวานที่มันอยู่ในงานเรามันเกิดจากความขมหมดเลย เราโตมากับซิงเกิลมัม เราได้เห็นการที่ผู้หญิงในสังคมถูกเอาเปรียบ มันมีความไม่แฟร์อยู่เยอะมาก”

“เผยความเป็นตัวเองออกมา และรักตัวเองให้มากขึ้น

ส่วนเกิร์ล ศิลปินสาวเจ้าของภาพวาดที่เป็นเอกลักษณ์ มองจากภายนอก หลายคนอาจมองเกิร์ลเป็นผู้หญิงหวานๆ มีความสดใส แต่เธอก็มีช่วงเวลาที่ดาร์กเหมือนกัน แต่ทุกสิ่งที่เธอเคยเจอนั้นล้วนทำให้เธอได้กลายมาเป็น LafynaGirl ในทุกวันนี้ เกิร์ลเล่าว่า ตอนเด็กๆ เธอมีปัญหาในเรื่องการพูด เธอเลยใช้ภาพในการสื่อสารแทน “ตอนเด็กๆ เราก็จะไม่กล้าพูด แต่ชอบไปเรียนวาดรูปกับคุณยาย ทุกวันหลังเลิกเรียนเราก็จะไปหาคุณยายเพื่อเรียนวาดภาพ เราใช้ภาพวาดในการสื่อสารมาตลอด เหมือนเราบ่มเพาะมันมาเรื่อยๆ

“การบ่มเพาะก็เหมือนการเดินทางรูปแบบนึงที่ว่าตัวเราคืออะไร แล้วเราชัดเจนกับทางไหน”

งานของเกิร์ลถ้าดูเผินๆ อาจจะมองว่าเป็นภาพที่สีสันสดใส น่ารัก แต่ถ้ามองลึกๆ ลงไป ทุกภาพขอฝเธอมีความหมายที่ซ่อนอยู่ “ความสวยงามในตอนแรกเป็นเพียงแค่แรงดึงดูด แต่ถ้าได้มองลึกๆ ไปข้างใน คุณจะรู้ว่าทุกอย่างในภาพมันคือความน่ากลัวบางอย่างในสังคม แต่เราเคลือบมันไว้ด้วยน้ำตาล”

ชอบที่เกิร์ลบอกว่า “จุดจบจะเป็นยังไงไม่สำคัญ แต่เราอยากให้ความสำคัญกับ “ระหว่างทาง”  เพราะแต่ละช่วงในชีวิตมันไม่มีจุดจบ เราต้องออกเดินทางตลอดเวลา เติมคุณค่าให้ตัวเองในระหว่างทาง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะครองสติ ความรักตัวเองให้มันอยู่รอดได้ยังไงในช่วงเวลาของการเดินทางนี้”

LAFYNAGIRL X ROMANTICRAI

Poemspells “You Are Worth Of Love”

“ไม่ต้องสมบูรณ์แบบ เธอก็คู่ควรกับความรัก”

Poemspells คืองานแสดงภาพวาดและบทกวีจากสองศิลปิน วิน โรแมนติกร้าย เจ้าของบทหวีสีชมพูที่มอบความรักในทุกคนวันที่โลกแสนร้าย และ เกิร์ล LafynaGirl ศิลปินสาวอิลลัสเตรท งานที่จะทำให้คุณมีความรักเต็มเปี่ยมในหัวใจ ผ่านการผสมผสานระหว่างศิลปะและถ้อยคำ เธอและเขาอยากเล่าเรื่องผ่านภาพวาดแฟนตาซีและบทกวีคอลลาจสีชมพู กับความเชื่อว่า “You Are Worth Of Love” “ไม่ต้องสมบูรณ์แบบ เธอก็คู่ควรกับความรัก” เกิดเป็นคอนเซ็ปต์งานดูโอที่ใช้การทำงานกับผู้ชมผ่านอินสตอลเลชั่น อาร์ทในรูปของ “จิ๊กซอว์” เพื่อตั้งคำถามให้กับผู้ชมว่า “ความสมบูรณ์แบบที่ทุกคนไขว่คว้า บางทีความสมบูรณ์แบบนั้นอาจไม่มีอยู่จริง หรือการเว้าแหว่งในแบบของตัวเอง อาจเป็นความสมบูรณ์แบบที่สุดแล้วก็ได้”

 Poemspells “You Are Worth Of Love” ความงามที่เกิดจากความกลัว

เกิร์ลและวินบอกว่า “เราสร้างงานนี้มาจากการที่เราหลงทาง ซึ่งมันคือความงามเหมือนกัน”

“ทุกคนเคยผ่านเรื่องที่แย่มาก่อน เราอยากให้งานนี้เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยให้ทุกคน เส้นทางชีวิตของทุกคนสวยงามในแบบของตัวเอง เช่นเดียวกับจิ๊กซอว์ที่ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบทั้งหมด แต่เราอาจมีรูโหว่ เราจะต่อยังไงก็ได้ เพราะมันคือชีวิตเรา” รูโหว่ในทีนี้อาจเป็นความล้มเหลวหรือความผิดพลาด แต่เราชอบที่วินบอกว่า I did it my way ถ้ามันจะล้มเหลว มันก็ล้มเหลวในแบบของเรา แล้วเราก็ได้ทำเต็มที่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องจริง

แล้วความล้มเหลวมันมีอยู่จริงเหรอ? เกิร์ลบอกเราว่า “เราไม่อยากให้เอามาตรฐานสังคมเป็นที่ตั้ง เพราะถ้าเราไม่เอามาตั้งตั้งแต่แรก เราจะตัดคำว่า “ความล้มเหลวคืออะไร ความก้าวหน้าคืออะไร ความสำเร็จคืออะไร” ออกไปได้เลยเพราะมันจะไม่เกิดการตัดสินตัวเองว่าเราล้มเหลว จริงๆ ความล้มเหลวมันคือปัจจัยนึงของชีวิตที่ต้องเผชิญต่อไปด้วยซ้ำ”

จิ๊กซอว์เปรียบเสมือนเวทมนตร์ที่สะท้อนมุมมองความรัก และตัวตนของสองศิลปินที่แตกต่างกันแต่ลงตัว มู้ดแอนด์โทนที่ต่างกันของ LafynaGirl และ Romanticrai ได้มาผสานกันในความไม่สมบูรณ์แบบ เป็นิจ๊กซอว์ที่เว้าแหว่งและบอบช้ำ งานแสดงครั้งนี้จะชวนให้ผู้ชมตั้งคำถามกับตัวเองว่า “จิ๊กซอว์ที่สวยที่สุดอาจไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบที่สุด และเราต่อจิ๊กซอว์ในแบบของตัวเองได้”

“เราเชื่อว่าทุกคนคู่ควรกับความรัก แม้จะไม่สมบูรณ์แบบ นำมาสู่การร่วมสร้างพื้นที่ว่างแห่งความไม่สมบูรณ์แบบร่วมกัน เสมือนจิ๊กซอว์ที่กระจัดกระจายแล้วต้องประกอบร่างขึ้นใหม่ ทั้งบทกวีที่ไม่สมบูรณ์แบบและชิ้นงานศิลปะที่เว้าแหว่ง จะยังคงงดงามและมีคุณค่าอยู่ไหม”

งานแสดงครั้งนี้ยังเป็นผลงานที่ต่อยอดมาจากงาน “PoemSpells” ของทั้งสองศิลปิน ที่เล่าเรื่องผู้คนออกมาเป็นไพ่ทาโรต์ ถึงช่วงเวลาที่ชีวิตอ่อนแอและเต็มไปด้วยบาดแผล เช่นกันกับในงานแสดงครั้งนี้ LafynaGirlและ Romanticrai จะมาแสดงการวาดภาพสดผสานไปกับบทกวี เป็น Poem Spells Life Performance

“เมื่อมางานนี้ อย่างแรกคุณจะได้เจอบรรยากาศ สิ่งแวดล้อมเดียวกัน ให้คุณรู้สึก ไม่โดดเดี่ยว คุณมาที่นี่คุณจะเจอเพื่อนที่เข้าใจคุณ และอยู่ในความรู้สึกเดียวกับคุณ มันคือจุดเริ่มต้นของการฮีลลิ่ง”

รูปวาดหลักของเกิร์ลในงานนี้คือ “ไข่” ที่มีความสวยงามแต่ก็ซ่อนอะไรบางอย่างอยู่ข้างใน

“เราเปรียบไข่นี้เหมือนตัวเรา เราไม่มีวันรู้เลยว่าอนาคตข้างหน้าจะเปืนยังไง ไข่ใบนี้ก็้เหมือนกัน เราไม่รู้ลเยว่ามันจะออกมาเป็นตัวอะไร มันก็เหมือนเรากำลังอยู่ในไข่ แต่เป็นไข่ที่ยังเอนจอยกับชีวิตเราได้โดยที่เราไม่ต้องคิดถึงว่าเราจะเป็นอะไรในอนาคต เราเชื่อว่าทุกคนเคยอยู่ในภาวะที่เราไม่รู้ว่าตัวเองคืออะไร ฉันจะไปทางไหนดี ถ้าทำสิ่งนี้มันถูกต้องหรือยัง งานชิ้นนี้เลยมาจากความกลัวของเราหมดเลย มันเป็นงานที่ออกจากกรอบตัวเองเหมือนกัน เพราะเป็นชิ้นแรกที่วาดด้วยความกลัว “กล้าที่จะใช้ความอ่อนแอของตัวเอง” 

“Your worth is not defined by your pain, but your ability to love again”

“อยากพูดกับทุกคนที่เคยแตกสลาย ผ่านความเจ็บปวด หรือรู้สึกว่าชีวิตมันไม่ได้ดั่งใจเลย ทุกอย่างผิดพลาดไปหมด แต่เราอยากบอกว่า คุณค่าของเรามันไม่ได้ถูกกำหนดด้วยความเจ็บปวดในอดีต แจ่มันขึ้นอยู่กับความกล้าที่จะรักอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการรักตัวเอง หรือรักคนอื่นก็ตาม” – วิน นิมมาน

มาร่วมสัมผัสงานแสดงภาพวาดและบทกวี “ไม่ต้องสมบูรณ์แบบ เธอก็คู่ควรกับความรัก” และค้นหาคำตอบปริศนานี้ด้วยกัน เพราะแน่นอนว่าพื้นที่แห่งนี้คือความไม่สมบูรณ์ที่งดงามและเป็นของทุกคน

ที่ ODS ชั้น 3 สยามดิสคัฟเวอรี่ ตั้งแต่วันที่ 6 – 28 กุมภาพันธ์ 2566


อ่านเรื่องอื่น ๆ ได้ที่ CLEO Thailand และ FB > CLEO

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']