หากพูดถึงเหล่าทวยเทพนั้น…พระแม่อุมาถือเป็นเทพองค์หนึ่งที่เรารู้จักกันดี และ มีผู้คนมากมายที่นับถือองค์พระแม่อุมาด้วยความที่ท่านมีความแข็งแกร่ง ทั้งช่วยปราบมาร ปัดเป่าสิ่งไม่ดี และยังนำพามาซึ่งความสำเร็จแก่คนที่บูชา แต่น้อยคนที่จะสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนของท่าน ว่าท่านเป็นคนที่ซื่อสัตย์และจริงจังต่อคนรักอย่างพระศิวะมากแค่ไหน และยังเป็นแม่ที่ให้ความอบอุ่นแก่ลูกๆอย่างพระพิฆเนศ และ พระขันธกุมาร เสมอ ท่านจะนำพาชัยชนะมาให้กับผู้ที่บูชา เหมือนกับว่าเป็นลูก…หากมีความทุกข์ให้นึกถึงแม่
ศิวะปุราณะ ได้กล่าวถึงความรักของพระแม่อุมา กับ พระศิวะ ไว้ว่า…
ก่อนจะมาเป็นพระแม่อุมา อีกนามหนึ่งของพระองค์คือ “พระนางสตี” ผู้เป็นลูกของพระทักษะประชาบดี นางได้พบรักกับพระศิวะตอนที่อยู่ในภาคของมุนีภพ คือตอนที่ท่านเป็นโยคี ติดดิน ไม่ติดความหรูหรา ท่านต้องการอยู่กับธรรมชาติ ต้องการที่จะปฏิบัติตนให้บรรลุถึงความสุขอันสูงสุด โดยการละทิ้งทุกสิ่ง พระทักษะประชาบดีจึงไม่ชอบเพราะมองว่าเป็นคนยากจน เมื่อจัดงานเลี้ยงเลยไม่ได้เชิญพระศิวะมาร่วมงาน พระแม่อุมาคิดว่าสิ่งนี้ไม่ยุติธรรม พ่อลูกจึงถกเถียงกัน พระทักษะประชาบดีได้พูดถึงพระศิวะเสียๆหายๆต่อหน้าทุกคนในงาน ทำให้พระแม่อุมาเกิดความอับอายและเสียใจเป็นอย่างมาก สุดท้ายจึงได้ใช้จิตก่อกองไฟขึ้นมาสุมตัวเองจนตาย และได้ระลึกในขณะนั้นว่า…หากเกิดมาชาติหน้าขอให้ได้รักกับพระศิวะอีกครั้ง
เมื่อพระศิวะรู้ข่าวจึงรีบมาหาพระทักษะประชาบดีด้วยความโกรธและเสียใจมาก จึงสาปทุกคน “ใครทำให้หญิงที่รักสิ้นชีพ จงมีอันวิบัตรเกิดขึ้น” ท่านได้แปลงกายเป็นเทพที่ดูสง่างามที่สุดเพื่อเข้าไปที่งาน บั่นคอพระทักษะประชาบดีแล้วนำหัวแพะมาใส่ เพื่อแสดงให้เหล่าทวยเทพเห็นถึงความโง่เขลา หลังจากนั้นท่านก็ปฏิบัติตนอยู่ในศีลอย่างเคร่งครัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้คนรัก ท่านหายไปจากเหล่าทวยเทพอยู่นาน เหล่าทวยเทพองค์อื่นๆต้องการความช่วยเหลือจากพระศิวะ จึงหาวิธีเรียกพระแม่สตีให้มาเกิดใหม่
เมื่อได้มาพบกันอีกครั้ง…ความรักนั้นยังคงอยู่
อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นที่ได้หัวใจของพระศิวะกลับมา เพราะท่านเองก็เก็บตัวบำเพ็ญเพียรมานานมากๆและไม่คิดจะรักใครอีก พระแม่อุมาจึงต้องใช้ความเพียรพยายามของตัวเองในเพื่อเอาชนะใจพระศิวะ ขณะที่ท่านบำเพ็ญเพียรพระแม่อุมาทำหน้าที่แทนพระศิวะ ในการปราบมารและอสูร ได้อย่างรวดเร็ว และนางยังคอยดูแลอยู่ใกล้ๆเสมอ เป็นระยะเวลานาน มากพอที่พระศิวะจะเห็นถึงความรักที่เธอมีให้อย่างแท้จริง…จึงได้ลงเอยกันในที่สุด ทำให้รู้ว่าความรักนั้นมีค่ามากแค่ไหน และความรักไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน หรือเป็นเพราะความสวยงามภายนอก แต่หากเป็นความเพียรและความมุ่งมั่นที่จะรัก และ มีกันและกันไม่ว่าจะเป็นยังไง เชื่อว่าสุดท้ายแล้วความรักนี่แหละที่เป็นสิ่งที่สวยงามที่สุด
พระแม่อุมา และ พระศิวะไม่เป็นที่นิยมในการขอพรเรื่องของความรัก ด้วยความที่พระแม่อุมาจะมีอำนาจในการคุ้มครอง ส่วนพระศิวะนั้นเป็นเทพที่สมถะ…แต่หารู้ไม่ว่าทั้งสองพระองค์มีพลังแห่งความรักที่แรงกล้าให้กันและกัน เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ มีพลังแห่งความเป็นพ่อและความเป็นแม่ ว่ากันว่าถ้าบูชาองค์เทพทั้งสองควบคู่กันจะทำให้เจอกับคู่ชีวิตที่เป็นรักแท้
อ่านเรื่องอื่น ๆ ได้ที่ CLEO Thailand และ FB > CLEO