เรื่องราวชีวิตรักของน้องแนท สาวไทยผู้ข้ามน้ำข้ามทะเลแบบไม่คิดชีวิต ไปเรียนต่อที่อังกฤษ เธอไปแบบโสดๆ แต่เธอไม่ได้กลับมามือเปล่า แนทได้แฟนเป็นฝอหน้าตาดี นิสัยดี รักเธอมาก จำได้เลยว่าตอนโสดแนทดูไม่ได้หวังอะไรเรื่องความรัก แต่แล้วไง? ความเอ็กโซติคของเธอก็เข้าตาพี่เขาเข้า เลยให้แนทช่วยเล่าเรื่องของตัวเอง มาอินสไปร์สาวๆ หน่อย อะไร ยังไง แนทแชร์มาให้ฟัง ไฮๆ เลยนะว่า……
“สามปีที่แล้ว ถ้าใครถามว่าอยากมีแฟนฝรั่งมั้ย? ตอบเต็มปากว่าไม่อ่ะ สเป็คชั้นคือผู้ไทยผิวแทน ตัดภาพมาสามปีให้หลัง หันไปข้างๆเจอฝรั่งผมส้มประหนึ่งออกมาจากบ้านวีสลีย์เฉ๊ยย แต่พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า คนนี้แหละ!
เรื่องของเรื่องก็คือ สามปีก่อน เราก็เป็นผู้หญิงวัยเลขสามต้นที่หมดใจจะรัก เบื่อกับความสัมพันธ์พอสมควร เพราะที่ผ่านมาลองอยู่ในความสัมพันธ์มาหลายรูปแบบแต่ไม่เจอที่ใช่ จนได้ทุนมาเรียนโทที่อังกฤษ มาแบบหอบใจบอบช้ำมาเลย เดือนแรกผ่านไปเริ่มหงอย น้องที่มาด้วยกันก็เริ่มไปเดทกับหนุ่มอังกฤษแล้วกลับมากิ๊วก๊าวกับเรา ก็เลยเกิดไฟฮึกเหิมอยากเดทคนจากภูมิหลัง เชื้อชาติ วัฒนธรรมที่ต่างกับตัวเองบ้าง แล้วก็ได้มาเจอทอมจากการ swipe right ในทินเดอร์ ฮ่าๆๆ ใครจะคิดว่าสไวป์เดียว ยาวมาจนถึงตอนนี้
ในวันนั้น ทอมเป็นหนุ่มวัยใกล้สามสิบที่เพิ่งกลับมาจากอเมริกา และเป็นวิศวกรธรณีวิทยา เค้าจบจากลีดส์เมื่อหลายปีก่อน โพรไฟล์ในทินเดอร์ไม่เห็นหน้าอะไรทั้งนั้น แต่เราชอบที่รูปถ่ายเค้ามีแต่ภูเขาในประเทศต่างๆที่เค้าไปก็เลยสไวป์ และช่วงเมสเสจคุยกัน มีแต่เรื่องงานกับเรื่องคอนเสิร์ต ช่วงแรกที่เดทกัน เราไม่มีความคาดหวังอะไรเลย เป็นตัวเองมากๆ คิดแค่ว่าทำความรู้จักคนๆหนึ่ง สุดท้ายใช่ไม่ใช่ก็ได้ฝึกภาษา เรียนรู้วัฒนธรรมอังกฤษ แต่ช่วงนั้นดันเป็นช่วงใกล้คริสมาสต์ มีปาร์ตี้เยอะ ทอมก็ชวนเราไปเจอเพื่อนที่ทำงาน เจอเพื่อนสมัยมหาลัย อยู่ๆเรากลายเป็นส่วนหนึ่งในสังคมเค้า มันทำให้เรารู้สึกว่า เฮ้ย คนๆนี้น่ารักจัง เค้าไม่ได้คบเราแอบๆ ไม่เคยอายที่จะพาเราไปเจอคนรอบตัวเค้า ทั้งที่เพิ่งเดทกันได้แค่สองเดือน
หลังจากนั้นทุกอย่างก็ผ่านมาเรื่อยๆสบายๆ โชคดีที่ความชอบเราตรงกัน เลยมีเรื่องคุยกันตลอด มีกิจกรรมที่ชอบทำเหมือนกัน และหลายอย่างที่ได้ลองทำใหม่ๆ อย่างการที่เค้าเริ่มวาดรูปเพราะเรา และเราเริ่มกลับมาวิ่งเพราะเค้า แต่สิ่งที่เราชอบมากในตัวทอม และจริงๆเป็นสิ่งที่เราเคยคุยกับน้องอีกคนที่เดทฝรั่งที่นี่เหมือนกันก็คือ ผู้ชายฝรั่งเค้าทำให้เรารู้สึกสวยเสมอ ด้วยความที่นิยามความสวยที่นี่มันหลากหลายมากๆ ไม่มีมาตรฐานที่ว่า เธอต้องผอม ต้องขาว ต้องขายาว ถ้าเค้ารักเรา เราสวยที่สุดสำหรับเค้าแล้ว และมันจริง อย่างตอนที่เดทคนไทย เราเจอมาหมด นอกใจ มีกิ๊ก มองผู้หญิงคนนั้นคนนี้ตลอด ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกตัวเองไม่ดีพอสำหรับเค้าหรือใคร แต่ตั้งแต่คบกับทอม เรามีช่วงที่ดีและแย่ ไปถึงแย่ที่สุด เยิน พัง สภาพดูไม่ได้ แต่ในเวลาเหล่านั้น เค้าจะบอกเราเสมอว่า ‘you’re beautiful’ ‘you look gorgeous’ เวลาเราบ่นข้อด้อยตัวเองตรงไหน เค้าจะจุ้บเราแล้วย้ำเสมอว่า เค้ารักทั้งหมดที่เป็นเรา มันทำให้เรารู้สึกมั่นใจและรักในสิ่งที่ตัวเองเป็นมากขึ้น อีกอย่างคือ การที่เค้าทำให้ความสัมพันธ์มันเติบโต เรามีแผนร่วมกัน มีกันและกันในชีวิต มองเห็นว่าความสัมพันธ์นี้จะไปในทางไหน โดยไม่ต้องมีความกังวลว่า เฮ้ย เราจะเลิกกันมั้ย เค้าแอบคุยกับใครมั้ย หรือเค้าจะนอกใจเรามั้ย ไม่เคยมีความรู้สึกนั้นเกิดขึ้นเลย และเรารู้สึกว่า สิ่งนี้คือสิ่งที่เราต้องการและตามหามาตลอด! แต่ไม่เคยเจอ จนได้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาอังกฤษนี่แหละ
จริงๆตลอดสามปีก็มีช่วงไม่แน่ใจอยู่บ้าง อย่างตอนที่เรียนจบโทและต้องกลับไทย คือเรารับราชการ การจะมองอนาคต ลาออก ย้ายประเทศ มันดูไกลตัวมากในตอนนั้น แต่ในช่วงที่เดทกันปีกว่าๆ มันมีบทพิสูจน์เยอะมากที่ทำให้รู้สึกว่า เราจะไปหาคนแบบนี้ได้จากไหนอีก(วะ) ทอมอยู่กับเราตลอดเวลาทั้งที่ตัวอยู่อังกฤษ จำได้ว่าเคยนั่งร้องไห้ในรถ โทรหาเค้าแล้วบอกว่า เลิกกันมั้ย? เราไม่อยากให้เค้าต้องมาแชร์ปัญหากับเรา และเค้าตอบกลับมาว่า ‘ปัญหาเราคือปัญหาเค้า เราเป็นทีมเดียวกัน’ อะไรแบบนี้แหละทำให้เรารู้สึกว่า เออ คุ้มค่าที่จะไฟต์หน่อย ประจวบเหมาะกับเราได้ทุนมาเรียนต่อเอกที่มหาลัยเดิม ก็เลยตัดสินใจลาออกแล้วมาเลย ส่วนหนึ่งก็มาเพื่อตัวเองแต่เราเชื่อว่า ความสำเร็จมันจะมีความหมายที่สุดเมื่อได้แชร์กับคนที่เรารักและรักเรา แล้วเรามองเห็นภาพนั้นร่วมกับทอม
เวลาใครมาปรึกษาเรื่องความรัก หรือใครมาบ่นเรื่องแฟนนอกใจ ผู้ชายทำตัวอ้อล้อกับผู้หญิงไปทั่ว เราจะแบบ เฮ้ย ออกมามั้ย ลองเดทฝรั่งมั้ย ฮ่าๆๆ แต่เอาจริงๆ ฝรั่งก็มีทั้งดีและไม่ดี แล้วเส้นทางทินเดอร์ก็ไม่ได้หรูหราหมาเห่าเสมอไป เคสประหลาดก็มีให้เห็นเพียบ แต่เราคิดว่าความรักที่ดีมันเป็นเรื่องของจังหวะและเวลา บวกจักรวาลจัดสรรเส้นทางให้มากกว่า เพราะถ้าเราเจอทอมเมื่อห้าปีก่อนก็คงไม่ใช่ และถ้าเจออีกห้าปีข้างหน้าก็คงไม่ใช่อีกเหมือนกัน มันต้องเป็นเวลานี้ ตอนนี้ กับคนนี้ ถึงจะเวิร์ค”
รวมๆ แนทบอกว่าเทคนิคพิชิตฝอ ไม่มีอะไรมากนอกจาก “เป็นตัวเอง เป็นคนแบบไหนโชว์ไปเลย อย่ากระมิดกระเมี้ยน จริงใจที่สุดด้วย” ฝอจะไม่เหมือนชายเอเชียตรงที่ เขาไม่เก็ทถ้าเรามีอะไรในใจแล้วไม่บอก หรือถ้าเราชอบอะไรต้องบอกไปเลย ฝอจะเลิฟที่สุดเลย :))
คลีโอขอขอบคุณแนทมาก แชร์เรื่องราวเลิฟๆ ของเธอให้เราอินสไปร์ตามเธอไปด้วย