ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Entertainment, Men, Music

Patrickananda เขาบอกเล่าความรู้สึกภายในใจผ่านเสียงเพลง

patrickananda

Patrickananda ศิลปินหนุ่มที่มาพร้อมกับน้ำเสียงทุ้ม ๆ ปนไปกับความนุ่มนวล และเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และอารมณ์ความรู้สึกที่เขาตั้งใจบรรจงลงมาไว้ในแต่ละบทเพลงอย่างตั้งใจและใส่ใจ ได้มีโอกาสพูดคุยกับเขา ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาที เราได้รู้จักตัวของแพทริคมากขึ้น เขาคือผู้ชายที่เต็มไปด้วยความคิดและอารมณ์ความรู้สึก เราได้เห็นมุมมองต่าง ๆ จากเขาทั้งในฐานะศิลปิน คนรัก และผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ทุกอย่าง ๆ คือที่อยู่ในเพลงของเขาคือเรื่องราว และประสบการณ์ของเขาจริง ๆ

วันนี้เราเลยอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเขาคนนี้ให้มากยิ่งขึ้นกัน เขาคนนี้มีเรื่องราวชีวิต มุมมองความสัมพันธ์ และแนวคิดต่าง ๆ ในแบบของเขาเอง เป็น Patrickananda ในหนึ่งมุมที่เราไม่ค่อยได้เห็นจากที่ไหน เขามาแบบนิ่ง ๆ เรียบง่าย ไม่ต้องพูดเยอะ แต่ทุกคำที่เขาพูดมันสะท้อนตัวตนความเป็นเขาไว้ได้หมดจริง ๆ 

เมื่อสิ่งที่ชอบกลายมาเป็นงานที่รัก

เส้นทางในวงการดนตรีของ Patrickananda เกิดจากความชอบและความรักในเสียงเพลงของเขาล้วน ๆ แพทริคเล่าว่าเขาชอบและสนใจเรื่องดนตรีมาตั้งแต่เด็ก เครื่องดนตรีชิ้นแรกที่เขาได้เริ่มเล่นคือกลองชุด การจับไม้กลองของเขาในตอนนั้นไม่ได้มาแบบตั้งใจมากนัก แต่พอได้เล่นไปเล่นไปมา การตีกลองกับกลายเป็นสิ่งที่เขาทำได้ดี จนได้เข้าวงโยธวาทิตของโรงเรียนและได้ไปประกวดเวทีต่าง ๆ จนมาถึงจุดหนึ่งที่เขาเริ่มโตขึ้น การตีกลองอาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของเขา แพทริคเริ่มหันมาสนใจการทำเพลงจริงจัง เขาเริ่มอยากมีเพลงเป็นของตัวเอง นั่นเลยเป็นจุดเริ่มต้นให้เขาเริ่มฝึกร้องเพลง และทำดนตรีจริงจัง

เรื่องการร้องเพลง แพทริคเล่าว่าเขาชอบร้องเพลงตั้งแต่เด็ก เป็นความชอบที่ทำได้เรื่อย ๆ อย่างมีความสุข ไม่กดดัน ไม่จริงจัง เขาชอบร้องเพลงตอนขับรถ ตอนอาบน้ำ การร้องเพลงเป็นเหมือนอีกส่วนหนึ่งที่อยู่ในชีวิตของเขามาตั้งนานแล้ว จนมารู้ตัวอีกทีก็ชอบสิ่งนี้เข้าไปแล้ว

ณ วินาทีที่เขาเริ่มอยากทำเพลงจริงจัง อยากมีเพลงเป็นของตัวเอง เขาไม่รอช้า รีบเดินสายประกวดร้องเพลง ไม่ว่าจะเวทีไหนที่ดัง ๆ แพทริคลองมาหมดแล้ว ตอนที่เราได้ยินเขาเล่า เรานึกว่ามันจะต้องผ่านได้ดีแน่ ๆ เพราะเสียงเขาก็ดีมาก แต่พอได้ยินเรื่องราวที่แพทริคเล่ามาเท่านัั้นแหละ มันคนละเรื่องกับที่เราคิดไว้ตอนแรกเลย ทุกครั้งที่เขาไปประกวด ประโยคที่แพทริคในวัย 18 ได้รับกลับมาทุกครั้งที่ไปร้องเพลงบนเวทีคือ

“น้องไปทำอย่างอื่นมั้ย เสียงน้องพี่ฟังแล้วรำค้าญรำคาญ”

ประโยคพวกนี้ทำเขาหยุดร้องเพลงไปเกือบปี แต่สุดท้าย ความคิดที่ว่า “ยังไงเราก็ต้องมีเพลงเป็นของตัวเอง” มันก็วกกลับมาหาเขาอีกครั้ง แพทริคกดปุ่มรีสตาร์ท เริ่มใหม่ทั้งหมด เขายืมเงินคุณป้ามาเป็นจำนวนก้อนหนึ่ง ลงทุนซื้ออุปกรณ์สำหรับทำเพลง เลิกเรียนก็มุ่งตรงกลับมาที่บ้าน นั่งทำเพลงอยู่อย่างนั้น เขาทำแบบนี้มาเกือบหนึ่งปี ส่ง demo ไปตามค่ายนั้นบ้างค่ายนี้บ้าง ไม่มีที่ไหนรับเขาเลย แต่เขาก็ไม่ล้มเลิกความพยายาม จนในที่สุดก็มีความสามารถของแพทริคก็มีคนเห็นจนทำให้เขาได้กลายมาเป็น Patrickanand จากค่าย DUMBS Recordings ในวันนี้

ทุกเพลงที่แพทริคเขียนขึ้นมานับตั้งแต่เพลงแรกจนถึงเพลงล่าสุด เขาบอกว่าเขาเรียบเรียงมาจากประสบการณ์และเรื่องราวของตัวเอง อาจะมีบางเพลงที่เขาได้หยิบยกเรื่องราวของคนอื่นมาเป็นแรงบันดาลใจ แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะใส่ความเป็นตัวเองลงไปในนั้น “เราก็จะลองจินตนาการดู ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับเรา เราจะเป็นยังไง” ถ้าใครเคยได้ฟังเพลงของแพทริคก็จะรู้ว่าแต่ละเพลงก็จะมีเรื่องราวที่แตกต่างกัน ซาวด์ดนตรีที่ต่างกัน เครื่องดนตรีที่หยิบมาใช้แต่ละเพลงก็ไม่เหมือนกัน แพทริคก็ได้บอกเราว่า ตอนแรกเขาก็แอบรู้สึกหลงทางไปกับแนวเพลงของตัวเองเหมือนกัน เพราะแต่ละเพลงมันไม่ใช่แนวเดียวกันเลย แต่สุดท้ายแล้วเขาก็บอกเรามาอย่างมั่นใจว่า

เราไม่ได้หลงทาง เราแค่อยากลอง  มันเป็นตัวเราทั้งหมด แต่วิธีการเล่ามันอาจจะต่างไป  เพราะสุดท้ายเรื่องที่เล่าออกมาก็เป็นเรื่องของเราเองอยู่ดี 

อยากเจอเธอทุกวัน “จันทร์อังคารพุธพฤหัสศุกร์เสาร์อาทิตย์”

วันจันทร์ ฉันคิดถึงเธออยู่ วันอังคาร ไปหาได้ไหม
หากวันพุธ เธอต้องตื่นเช้า
เดี๋ยวไปเจอตอนกลางคืนก็ได้ เดี๋ยวจะรอ

เราว่าถ้าเปิดเพลงนี้ขึ้นมาก็ต้องมีคนร้องได้ หรือไม่ก็ต้องผ่านหูกันบ้างแหละ เพลงนี้เป็นเพลงรักจากเขาที่เกิดจากเรื่องราวของเขาเอง แพทริคเล่าว่าเขาเคยคุยกับคน ๆ หนึ่ง เธอคนนั้นบอกกับเขาว่า “อยากเจอเธอทุกวันเลย” แต่ด้วยอะไรหลาย ๆ อย่างที่ทำให้เจอกันไม่ได้ แค่ประโยคเดียวสั้น ๆ ทำให้เกิดเป็นเพลง“จันทร์อังคารพุธพฤหัสศุกร์เสาร์อาทิตย์” ที่ถือเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ ของแพทริค และทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น พอเพลงนี้มันเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ เราเลยอยากรู้ความรู้สึกของเขาเมื่อได้เห็นกระแสตอบรับ เขาตอบมาแบบอมยิ้มว่า “เราไม่ได้หวังว่าคนจะชอบเนอะ แค่มีคนชอบเพลงเราก็พอแล้ว”

OASIS เพลงที่กักเก็บความรู้สึกดี ๆ ให้ใครบางคน

วิธีการที่แพทริคใช้ในการแต่งเพลงคือ เขาจะเริ่มต้นจากสิ่งของเล็ก ๆ สักชิ้นหนึ่ง และค่อย ๆ ใส่ความรู้สึก เรื่องราว และอื่น ๆ เขาไปในนั้นจนออกมาเป็นเพลงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกและคำอธิบายผ่านเสียงเพลง ในเพลง OASIS ก็เช่นกัน อย่างที่ทุกคนรู้จักกันดี OASIS คือแหล่งกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้น เป็นเหมือนที่พึงพิงอะไรแบบนั้น เขาเลยลองนำ OASIS มาเปรียบเทียบให้เป็นตัวเขา ถ้าสมมติว่าเราเป็น OASIS มันจะออกมาเป็นยังไง

เราอยากให้กำลังใจทุกคนผ่านเพลงนี้ เลยแทนตัวเองเป็นโอเอซิสที่ให้ความชุ่นชื้น ให้กำลังใจ อยากเป็นที่พักใจ เวลาที่หันมาก็จะเห็นเราอยู่เสมอ

Patrickananda และมุมมองเรื่องความรักในแบบของเขา

เขาเป็นอีกหนึ่งคนที่ใช้แง่มุมในความสัมพันธ์ เรื่องราวจากความรัก และความรู้สึกทั้งทุกข์และสุขมาเรียงร้อยเป็นบทเพลงผ่านเสียงดนตรีที่ให้อารมณ์ส่งต่อมาถึงคนฟังได้เป็นอย่างดี เลยอยากจะรู้เหมือนกันว่า ถ้าพูดถึงเรื่องรักและความสัมพันธ์ ผู้ชายคนนี้มองโลกของความรักเป็นอย่างไรบ้าง

“จริง ๆ แล้วความรักมันเป็นยังไง” ประโยคนี้จากแพทริคเป็นได้ทั้งคำตอบและคำถาม แล้วสุดท้ายความรักมันต้องออกมาเป็นแบบไหนกันแน่ เขาเคยเจอกับความสัมพันธ์มาหลายรูปแบบ ผ่านช่วงเวลาแห่งความสุข และความทุกข์ใจจากความเศร้า สุดท้ายแล้วทุกอย่างที่เขาพบเจอ ได้หล่อหลอมให้เขามีมุมมองความรักในแบบของเขาทุกวันนี้

เขาค่อย ๆ เล่าให้เราฟังว่า “พอเราอยู่กับคน ๆ นึงมานานมาก  ๆ แล้วเรารู้สึกว่าความรักมันน่าจะเป็นแบบนี้แหละ แล้วเราก็เชื่อแบบนั้นมาตลอด จนพอมาถึงวันที่ความรักมันไม่ได้เหมือนเดิมแล้ว เราเลยกลับไปคิดว่าแบบ  หรือเราคิดผิดมาตลอด หรือจริง ๆ ความรักมันไม่ใช่แบบนี้ พอตอนนี้เราอยู่คนเดียวก็แทบไม่ได้จะคุยกับใครเลย เพราะว่าเราต้องการพัก โฟกัสไปที่งานมากกว่า เราผิดหวังมาเราก็สร้างกำแพงไว้ละ พอคุยกับใครก็ไม่ได้คุยได้นานขนาดนั้น เหมือนเราต้องการลองใช้ชีวิตคนเดียว ในตอนนี้ เรากลัวเสียใจ เลยไม่กล้าลงใจกับมันอีก”

ตอนนี้ไม่รู้เลยว่าความรักเป็นยังไง แล้วจริง ๆ ความรักคืออะไร 

เขาพูดไม่ค่อยเก่ง แต่ทุกคำที่พูดออกมาจากใจจริง ๆ

แพทริคไม่ใช่คนที่เข้าสังคมเก่ง ไม่ใช่สายปาร์ตี้พบปะคนเยอะ ๆ เขาเลือกมีความสุขกับการอยู่เงียบ ๆ ในห้องคนเดียว ไม่ต้องพบเจอคนมากมายให้วุ่นวาย ทำสิ่งที่อยากทำ ถ้าไม่อยากทำก็แค่อยู่เฉย ๆ คิดเรื่อยเปื่อยอยู่ในห้อง บางครั้งเขาก็เข้าสู่โหมดโลกส่วนตัวจนไม่ได้แตะโทรศัพท์เลยก็มี

จนวันนี้ Patrickananda ได้เดินทางมาในเส้นทางสายดนตรีแบบที่เขาต้องการ ผ่านเรื่องราวและอุปสรรคมากมายกว่าจะมีคนเห็นความสามารถและความมุ่งมั่นตั้งใจของเขา จนทำให้เขาได้มีวันนี้ ถึงเขาจะไม่ใช่คนพูดเก่ง หรือชอบออกหน้ากล้องมากขนาดนั้น แต่เขาแอบกระซิบกับเรามาว่า เขาดีใจมาก ๆ ที่มีคนรักและชื่นชอบในตัวเขาจริง ๆ เขาไม่ได้หวังอะไรมากมาย ไม่ได้อยากดังอะไรขนาดนั้ เพียงแค่มีคนชอบในสิ่งที่เขาทำ ไม่ต้องเยอะมากก็ได้ เขาก็แฮปปี้แล้ว

เขาเล่าเรื่องความรักของตัวเองตั้งแต่เริ่มจนถึงวันสุดท้าย ผ่านเสียงเพลงของเขาเอง ถ้าอยากรู้จักตัวตนของเขาให้มากขึ้นกว่านี้ ให้ลองเอาทุกเพลงมาต่อกันแล้วค่อย ๆ หลับตาฟัง แล้วก็จะได้พบกับเรื่องราวของเขา 

แพทริคเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่มีแพชชั่น มีความพยายาม และมีความรักกับสิ่งที่ทำจริง ๆ เราขอให้เขาประสบความสำเร็จในเส้นทางที่เขาเลือก ทุกเพลงของเขา เราจะตั้งใจฟังอย่างดี เพราะเรารู้ว่าเขาตั้งใจทำมัน

ใครที่อยากติดตามและให้กำลังใจเขา ก็เข้าไปได้เลยที่

YouTube > DUMB Recordings

Facebook > Patrickananda

Instagram > @patrickananda

อ่านเรื่องอื่น ๆ ได้ที่ CLEO Thailand และ FB > CLEO

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']