จากเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ไม่เลวร้าย แต่เหมือนโลกทั้งใบถูกปิดไฟสนิท เมื่อสอง Social Media อินสตาแกรมและเฟสบุ๊คใช้งานไม่ได้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ เมื่อคืนวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมาลากยาวนานกว่า 6 ชั่วโมง ทำให้ผู้ที่กำลังใช้งานทั้งสองแอปฯ ด้วยหลากหลายประโยชน์ในตอนนั้นเกิดความวุ่นวายใจ จะนอนก็นอนไม่ได้ เพราะในใจยังติดค้าง
ที่จริงแล้วเป็นความเข้าใจได้ในความร้อนใจ เพราะทุกคนมีสิทธิ์เต็มที่ ที่จะใช้งาน Social Media เวลาไหนนานแค่ไหนก็ได้ และควรได้ detox เมื่อเต็มใจเท่านั้น หรือจะไม่ทำก็ยังได้ แต่ในทางตรงข้ามบางเวลาที่ แอปล่ม! เราก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่รอสลับกับความร้อนใจ ลากยาวไปจนบางคนผลอยหลับไปทั้งที่ยังเปิดสลับแอปไปมาจนไม่รู้ว่าสุดท้ายน่ะค้างที่ไว้ที่แอปไหนด้วยซ้ำ
“เรากับโซเชียลมีเดียแยกออกจากกันไม่ได้อีกแล้ว”
โลกมันหมุนไปไวและไกลจนตอนนี้ยอมรับเลยว่า นอกจากติดต่อกันเร็วขึ้นกว่าเดิมระหว่างเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันเลย แต่โลกอินเตอร์เนตและโลกโซเชียลยังมีประโยชน์มากกว่านั้น ทั้งเรื่องงาน สุขภาพ ชีวิตความเป็นอยู่ คิดดูสิว่าถ้าระหว่างที่โรคโควิดระบาดอยู่นี้แต่เราออกไปไหนไม่ได้ และเวิร์คฟอร์มโฮมไม่ได้ คนจะตกงานมากขนาดไหน
แต่ทุกอย่างที่มากเกินไปมันก็ให้ผลอีกด้านของมันเหมือนกัน โฟกัสตรงที่อยู่ดีๆ เราพบว่าติดมันเข้าแล้วจริงๆ ติดโซเชียลมันเป็นยังไง ลองเช็คดูว่าเราเป็นอย่างนี้ไหม
1.ลืมตาตื่นมา ยังงัวเงีย แต่มือคว้ามือถือมาเช็คโนติฟิเคชั่นแล้ว
2.กำลังคิดเรื่องอื่นอยู่ ทำอย่างอื่นอยู่ คุยกับคนอื่นอยู่ แต่ก็เปิดเช็คโซเชียลอัตโนมัติ
3.รู้สึกเครียด ไม่เป็นอันทำอะไร เวลาที่ไม่ได้เปิดโซเชียลมีเดียตามใจต้องการ
4.เช็คเรตติ้งสิ่งที่โพสต์ไปถี่มาก
5.คิดมาก แพลนมากว่าจะโพสต์อะไร แคปชั่นอะไรดี
6.คิดไปเองว่าโทรศัพท์สั่นหรือขึ้นแจ้งเตือน แต่จริงๆ ไม่มีอะไร
7.มีงานอดิเรกนะ แต่ไม่มีสมาธิกับมันเลยอ่ะ ไถไอจีเล่นตลอด
ความจริงสิ่งเหล่านี้ถ้าจะมองว่ามันไม่ได้เดือดร้อนอะไร ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนนะ บางคนโซเชียลมีเดียคืองานเลยล่ะ ส่วนบางคนก็รู้สึกว่านี่คือพฤติกรรมปกติ แต่เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าเฮ้ย! อยากลด อยากโฟกัสคนและสิ่งรอบตัวได้จริงๆ บ้าง มาลองดูกันว่าเราทำอะไรได้
ตั้งกฎอย่างคนที่กล้าท้าทายตัวเอง
ลองสังเกตตัวเองดูว่า รู้สึกว่ามีปัญหาที่ตรงไหน การนอน ตื่นแล้วไม่เฟรช หรือว่าไม่โฟกัสกับงาน ชีวิตประจำวันน่าเบื่อหน่าย ใช้โซเชียลมีเดียหนักๆ ช่วงไหน ลองค่อยๆ ลดช่วงนั้นดู เช่น
- ตื่นตอนเช้าจะยังไม่เช็คอะไรจนกว่าจะได้อาบน้ำ กินอาหารเช้า หรือจะเพิ่มออกกำลังเข้าไปด้วยก็ได้
- เช็คก่อนทำงาน ระหว่างนั้นจะพักไว้ก่อน ยกเว้นว่าใครต้องใช้โซเชียลมีเดียทำงานนะ
- คนที่ใช้โซเชียลมีเดียทำงาน ลดการเผลอเล่นทั้งที่ไม่จำเป็นดู รู้ตัวปุ๊บ หันไปคุยกับคนข้างๆ แทน
- ก่อนนอนหนึ่งชั่วโมง เคลียร์ทุกอย่างให้จบ แล้วหันไปทำอย่างอื่นแทน เช่นอ่านหนังสือ หรือจดบันทึก
- ถ้าทำได้ มีหนึ่งวันต่อเดือน หรือต่ออาทิตย์ที่จะไม่ใช้โทรศัพท์เลย ปิดให้หมด ยกเว้นกล้องไว้สักแอปหนึ่ง และสายด่วน
ลองลดดูยังไม่ถึงกับต้องเลิก เพราะยุคนี้แล้วเรายังเห็นประโยชน์จากโซเชียลมีเดียมากมายหลายอย่างเกินกว่าที่จะบรรยายได้หมด แต่ทุกอย่างมีความพอดี และความพอดีของทุกคนไม่เหมือนกัน
อ่านเรื่องราวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ทาง CleoThailand หรือ FB: @CleoThailand