ก่อนที่จะออกเดินทางเราหยิบคำแนะนำจากผู้รู้ ผู้เคยไปแคมป์คนเดียวมาก่อน ว่า Camping 101 สิ่งที่ควรรู้ ของที่ควรเลือกไป และสถานที่ๆ น่าสนใจ มีที่ไหนบ้าง ครั้งแรกจะได้ประทับใจและอยากไปอีกหลายๆ รอบ
ได้ยินว่าจะไป Camping เป็นกิจกรรมอะไรที่ทำเอาเราใจเต้นมากๆ นอนในเต้นท์ ฟังเสียงน้ำไหล ตื่นเช้ามองออกไปเจอวิวภูเขาหลักล้าน แต่คนไม่เคยก็คือไม่เคย แคมป์ปิ้งยังมีความลับอะไรซ่อนอยู่ เราเลยจับเข่ากูรูมาถามว่า “หนูต้องรู้อะไรบ้างคะก่อนไปแคมป์ปิ้ง”
10 สิ่งที่พี่ว่าหนูควรรู้ก่อนจะปักหลักกางเต๊นต์
1.อันดับแรกของ camping 101 ทำใจก่อนว่าเราไม่ได้ไปนอนโรงแรมห้าดาว อาจจะรู้สึกนอนไม่สบายเหมือนหนุนหมอนขนเป็ด ขนไก่ อากาศอาจจะไม่หนาวอย่างที่ใจเราคาดหวังเอาไว้ วิวจะสวยไหมก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของสถานที่วันนั้นอีก
2.เตรียมอุปกรณ์แคมป์ที่จำเป็นไปให้พร้อม ซึ่งจะบอกให้หัวข้อต่อไปว่า เบสิคแล้วควรมีอะไรบ้างและซื้อที่ไหนได้บ้าง
3.ไม่มีที่ไหนปลอดภัย 100% แม้แต่ที่ๆ มีคนคอนเฟิร์มว่าปลอดภัยที่สุด แต่ถ้าทริปนี้เราตัดสินใจจะไปเองลำพัง หรือเลือกใครไปเป็นเพื่อนร่วมทริปด้วย ยังไงก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี จดเบอร์ฉุกเฉินให้พร้อม
4.ส่วนใหญ่การไปแคมป์ปิ้งเราจะไปในสถานที่ที่ไม่ได้ส่วนตัวนัก นั่นหมายความว่าอาจจะมีกรุ๊ปอื่นหรือคนอื่นอยู่ด้วย ไปแบ่งพื้นที่กันใช้ ทำอะไรก็ควรจะนึกถึงคนอื่น ไม่เสียงดังจนเกินไป ไม่ทิ้งขยะเรี่ยราด และช่วยกันรักษาความสะอาดด้วย
5.ต้องเช็คสภาพอากาศด้วยว่าไปฤดูไหน สถานที่ไหน น้ำท่วมไหม หนาวไหม ฝนตกไหม ควรเดินทางไปยังไง
6.จะทำอาหารเองหรือเปล่า ส่วนใหญ่คนแคมป์ปิ้งจะทำเอง แล้วเราจะเตรียมของไปยังไง
7.พื้นที่ตรงนั้นมีสัตว์มีพิษอะไรที่ควรระวังบ้าน อ่านรีวิวหนักๆ เลย อาจจะมียาเฉพาะที่ควรซื้อติดตัวไปด้วย
8.ถ้าจะไปคนเดียวควรไปที่ๆ แน่ใจว่ามีคนอื่นกางอยู่ด้วยเยอะๆ ไม่ควรอยู่ตรงนั้นคนเดียวเด็ดขาด
9.เตรียมกิจกรรมที่ตัวเองชอบไปด้วย ไม่อย่างนั้นเบื่อ อย่างเช่นบางคนชอบดูธรรมชาติอาจจะพกกล้องส่องทางไกลไป หรือดริปกาแฟ หรือทำอาหารที่รอมานาน อ่านหนังสือ ถ่ายรูป บางสถานที่มีเส้นทางเดินป่าใกล้ๆ ก็น่าสนใจเหมือนกัน
10.ชาร์จทุกอย่างไปให้เต็มและมีพาวเวอร์แบงค์ด้วย ใครแอดวานซ์หน่อยก็คือมีแผงโซลาร์เซลล์ไปด้วยก็คือจะเลิศมาก
ผู้หญิงตัวคนเดียว เอาอะไรใส่กระเป๋าไปด้วยดี?
1.เต๊นท์ไง ถ้าเราตั้งใจจะไปกางเต๊นท์ด้วยตัวเอง ไม่ใช่สถานที่ๆ เขามีที่นอนให้เสร็จสรรพอะนะ เรากำลังพูดถึงประสบการณ์การแคมป์แบบเต็มรูปแบบ เพราะฉะนั้นเต๊นท์ที่พอดีกับการอยู่ของเรา กางง่าย เก็บง่าย ในกรณีที่เราไม่แน่ใจว่าจะทำเป็นอย่างที่คนขายเขาสอนไหมตอนอยู่หน้างาน เช็คคุณภาพให้สบายใจ
2.ยาสามัญประจำบ้าน เช่น แก้ปวด ทาแผล พลาสเตอร์ แก้ท้องเสีย เป็นต้น อันนี้ขาดไม่ได้ ควรเอาไปด้วยทุกที่แม้ไม่ได้กางเต๊นท์ และยาสำหรับโรคประจำตัว
3.ครีมกันแดด แม้จะไม่รู้ว่าโดนแดดเท่าไหร่ แต่เชื่อเถอะว่าต้องใช้อยู่ดี
4.ไฟฉาย ถ้าจะให้ดี เป็นไฟฉายเฉพาะที่ไม่ได้มาจากโทรศัพท์มือถือ เผื่อฉุกเฉิน มือถือแบตหมดขึ้นมาใช้อะไรไม่ได้อีกเลย
5.รองเท้าที่ใส่สบาย เดินไกลได้ ลุยน้ำได้ แห้งไว ปกป้องเท้า
6.กระบอกน้ำหรือกระติกน้ำ แก้วเก็บความเย็น เพราะเราจะต้องดื่มน้ำแน่ๆ และคงไม่อยากจะสร้างขยะด้วยขวดน้ำพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งหรอกนะ
7.อุปกรณ์ทำอาหาร ส่วนใหญ่จะไม่ได้อลังการอะไรมาก ขึ้นอยู่กับเลเวลของคนแคมป์ปิ้งและคุ๊กกิ้ง บางคนก็ต้มน้ำพอ บางคนต้องสเต็กดิ แต่มักจะไม่มีการมาผัดหมูกะปิกันวุ่นวาย นิยมทำอาหารง่ายๆ อุปกรณ์น้อยที่สุดดีกว่า
8.ถุงนอน จะลืมไปได้ยังไง นอนในเต๊นท์แล้วก็อย่าลืมถุงนอนด้วย ถ้าจะให้สบายควรมีเบาะรองนอนที่นิ่มๆ สักหน่อย ไม่ให้ตัวเราต้องสัมผัสกับเทกซ์เจอร์พื้นของจริง
9.เก้าอี้นั่งชิลส่วนใหญ่ร้านขายเต๊นท์ก็จะมีขายเก้าอี้ด้วย เอาไว้นั่งทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น จิบกาแฟ ทำอาหาร กินอาหาร มองทะเลหมอก อ่านหนังสือ คือแทบจะเอาไว้ใช้นั่งทำทุกอย่างระหว่างแคมป์ปิ้ง ควรมีของตัวเอง
10.เทคโนโลยีต่างๆ โทรศัพท์มือถือ ที่ชาร์จแบตสำรอง กล้อง ไฟฉาย เข็มทิศ ส่วนลำโพงไม่แนะนำเพราะว่าการเปิดอะไรเสียงดังเกิดไปจะรบกวนคนอื่นๆ หรือธรรมชาติได้
11.ทิชชู่และอุปกรณ์ใช้อาบน้ำเข้าห้องน้ำ ขึ้นอยู่กับว่าที่ๆ เราไปนั่งสะดวกสบายแค่ไหน แต่การมีทิชชู่เป็นของตัวเองคืออะไรที่หลายคนชอบมองข้าม หยิบขึ้นมามีแผ่นเดียวจากร้านกาแฟ คือหายนะมากๆ อย่าลืมซื้อไปและเอาถุงทิ้งขยะของตัวเองไปเผื่อด้วย ห้ามทิ้งเรี่ยราดเด็ดขาด
12.เป้ที่จุของใช้ได้กำลังพอดี จะกันน้ำด้วยก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะกันประมาณหนึ่งอยู่แล้ว แต่ไม่ควรใหญ่เกินตัว และควรทำจากวัสดุที่ทนทาน
13.อีกอย่างที่คนมักจะลืมก็คือตะเกียง คนส่วนใหญ่จะใช้สิ่งนี้ในการจุดเอาไว้ที่เต้นท์ ไฟฉายเอาไม่อยู่หรอก และเป็นตะเกียงแบบไม่ใช่ไฟจริง
14.ถ้าเป็นไปได้ก็ควรมีรถเข็น เพื่อทุ่นแรงเวลาขนของ
ใครที่แคมป์ปิ้งครั้งแรกแล้วไม่รู้ว่าจะต้องไปเริ่มที่ไหน Siam Discovery คือที่ๆ มีทุกอย่างตอบโจทย์คนเริ่มจากศูนย์มากๆ มีของให้เลือกเยอะและมีหลายระดับราคา หลายสไตล์ คนไม่สนใจแคมป์ปิ้งไปเดินเพลินยังมีโดนเก้าอี้ โดนกระติกน้ำกลับบ้านมาบ้างเลย
สถานที่แคมป์ปิ้งสวยๆ ทั้งในไทยและในต่างประเทศ
ไทย
อุทยานแห่งชาติหาดวนกร จ.ประจวบคีรีขันธ์ จุดเด่นของที่นี่คือวิวทะเล ได้สองกิจกรรมในครั้งเดียวคือแคมป์ด้วย เล่นทะเลด้วย อะไรจะดีไปกว่านี้อีก
วิวทะเลหมอกที่ ผาคอยเธอ อุทยานแห่งชาติเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ มีคนบอกว่าอาจจะหาภาพที่นี่ได้ไม่ค่อยง่ายเท่าไหร่ เพราะน้อยคนจะรู้จักหรือเจาะจงว่าต้องมาที่ผานี้ แต่วิวอย่างกับอยู่บนสวรรค์แหนะ!
อีกแห่งคือ คลองมะเดื่อ จ.นครนายก ที่มีจุดกางเต๊นท์ให้เลือกเพียบ! แต่ละที่พักก็เรียงรายเลือกได้เลย แต่เราเลือก สวนดารา มาให้เพราะเห็นน้ำใส แล้วสดชื่นมากกก ต้นไม้ก็เขียวชะอุ่ม
ต่างประเทศ
Denali National Park ที่ รัฐ Alaska ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นอะไรที่ว้าวจนไม่รู้จะว้าวยังไง นี่คือวิวหลักสิบล้านที่ควรไต่ระดับไปให้ถึง มีจุดตั้งแคมป์ให้เลือก ห้อมล้อมไปด้วยความธรรมชาติจริงๆ ที่นี่เป็นตัวเลือกที่นี่สนใจถ้าใครได้ลองแล้วติดใจทั้งที่ไทย ในเอเชีย และอยากจะขยับไปให้ไกลถึงอเมริกา
ลองมาใช้ชีวิตแบบ Sisu ที่ อุทยานแห่งชาติ Hossa ที่ฟินแลนด์ดูสิ เห็นแบบนี้แล้วสงบเลยแต่จริงๆ เขามีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก อย่างที่เห็นในรูปคือการตกปลา แต่ถ้าใครไม่อินจริงๆ แค่มานั่งมองออกไปก็ฟินแล้ว ฟินสมชื่อประเทศ จะปีนเขา ปั่นจักรยาน พานเรือก็ได้ถ้ารู้สึกอยากทำอะไรบางอย่าง
นิวซีแลนด์จะมีภูเขาที่เรียกว่า Mount Cook อยู่ ถือว่าเป็นเขาที่สูงที่สุดในประเทศ ที่เราไม่ต้องปีนก็ได้ แต่มานั่งชมไปแคมป์ปิ้งไปได้ ตรงนี้คือ A Must ของนิวซีแลนด์เลย เป็น UNESCO World Heritage Site เบื่อๆ ก็เดินชมธารน้ำแข็งหรือดอกไม้ ใช้ชีวิตกับธรรมชาติน่ะ ไม่มีวันพอหรอก
Credit Cover Photo : Photo by Patrick Hendry on Unsplash
อ่านเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ทาง CleoThailand หรือ FB: @CleoThailand