ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Entertainment, Music

คุยกับ SILVY ศิลปินที่ทำให้เรายอมรับและรักตัวเองมากขึ้นในทุกวัน

นักร้อง Silvy

ถ้าพูดถึงชื่อ SILVY หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาเธอเมื่อหลายปีก่อน ผ่านการประกวดตามเวทีท็อป ๆ ของประเทศ ณ ตอนนั้นเธอคือเด็กวัยรุ่นเสียงดีมากความสามารถคนหนึ่ง แต่มีหนึ่งสิ่งที่ตอนนั้นเธอไม่มีคือ “ความไม่เข้าใจตัวเอง” และ “ความเป็นตัวเอง” วันก่อนมีโอกาสได้คุยกับซิลวี่ถึงชีวิตเธอที่ผ่านมาทั้งเรื่องงานและเรื่องการใช้ชีวิต เราในฐานะคนที่ติดตามเธอมานาน เรารับรู้ได้ว่า ตอนนี้เธอคือซิลวี่ในแบบที่เธออยากเป็น และซิลวี่เวอร์ชั่นนี้ทำให้เราหลงรักมากขึ้นกว่าเดิม

ความชอบในการร้องเพลง คือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง

ซิลวี่ชอบรอบเพลงมาตั้งแต่เด็ก ๆ ไม่รู้ว่าเด็กแค่ไหน แต่เธอเล่าว่าตอนที่เธออายุ 7 ขวบ เธอก็เริ่มร้องเพลงแล้ว ซิลวี่บอกว่าการร้องเพลงเป็นสิ่งเดียวที่เธอทำแล้วรู้สึกเก่ง เธอไม่ใช่เด็กเรียนเก่งอะไรขนาดนั้น และการร้องเพลงเป็นหนึ่งในสิ่งที่เธอทำได้ดี และรู้สึกเก่ง “นี่อาจจะเป็นสิ่งที่เราทำได้ดี ถึงเราจะเรียนไม่เก่งแต่ว่าเราอาจจะเก่งเรื่องนี้ก็ได้” ตั้งแต่นั้นที่เธอเริ่มรู้ว่าตัวเองชอบที่จะทำอะไร ซิลวี่ก็ลงมือทำมันจนสุดความสามารถ เพราะสิ่งนี้ได้กลายมาเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเธอมีค่า

ตั้งแต่สมัยเรียน เธอก็ประกวดร้องเพลงหรือแสดงกิจกรรมต่าง ๆ ที่โรงเรียนมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต จนเมื่อเธออายุ 15 ซิลวี่ก็ได้เริ่มประกวดร้องเพลงที่เวทีเดอะสตาร์ นับเป็นก้าวแรกที่เธอเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เจออะไรใหม่ ๆ และเดินตามฝันของตัวเอง หลังจากนั้นเธอก็ประกวดที่เวที The Voice ซิลวี่บอกกับเราว่า “เราไม่ได้คิดอะไรมากเลย เราแค่อยากเป็นศิลปินที่มีเพลงออกมาแล้วคนชอบ แค่นั้น” เธอเลยลองลงมือทำมันด้วยตัวเอง

ตอนนั้นที่เราอายุ 15 เรารู้ว่าเราอยากร้องเพลง แต่เราไม่รู้ว่าในแง่ของการเป็นศิลปินที่ต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง ต้องมีอะไรมากกว่าการร้องเพลง เราเพิ่งรู้ว่ามันต้องครบ หลากหลาย มันมีอีกหลายเรื่องที่ต้องพัฒนาและหาตัวเองให้เจอ พอหาตัวเองเจอมันก็จะง่าย และก็ค่อย ๆ เรียนรู้มันไปเรื่อย ๆ 

นี่แหละ SILVY ที่เธออยากจะเป็น

การทำงานก็คือการค้นหาตัวเองอย่างหนึ่ง ซิลวี่เล่าว่าก่อนหน้านี้เธอก็ยังไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเธอชอบอะไรกันแน่ในแง่ของการทำงาน จนเมื่อเธอได้ลองประกวดที่ The Voice เธอก็รู้เลยว่าเธอชอบเสียงตัวเอง เสียงที่เธอร้องเพลงออกมาในแบบที่เธออยากร้อง ไม่จำเป็นต้องโชว์พลังเสียงตลอดเวลา แต่เป็นเสียงที่เธอร้องมันออกมาผ่านอารมณ์และความรู้สึกที่เธออยากถ่ายทอด

The voice ฟังแต่เสียงเราจริง ๆ เค้าไม่รู้ว่าเราคือใคร เสียงเราเป็นจุดวัดที่เขาอยากจะฟังเราต่อไหม การที่เราได้ค้นหาเสียงของตัวเองว่าเราอยากใช้เสียงแบบไหน พอเราค่อย ๆ เจอตัวเองว่าชอบแนวอารมณ์เยอะ ๆ เราก็เริ่มค้นพบตัวเองไปเรื่อย ๆ

โอกาส คือความยากในการเป็นศิลปิน

“โอกาส คือสิ่งที่ยากในการเป็นศิลปิน เพราะต่อให้เราเก่งแค่ไหน เราทำเยอะขาดไหน ถ้าเราไม่ได้รับโอกาสจากคนที่ใหญ่กว่าเรามาช่วยผลักดันก้จะมีคนเห็นได้น้อยลง ที่ผ่านมาเราหาโอกาสให้ตัวเอง รายการที่เไปประกวดมันใหญ่ ๆ ทั้งนั้นเลย ทำให้คนได้เห็นเราเยอะ ทุกสิ่งที่เราทำคือโอกาสหมด แล้วเราก็ได้รู้ว่า ยังมีคนอีกเยอะมากที่พร้อมจะสนับสนุนเรา พร้อมที่จะเดินไปกับเรา เราก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่เข้าใจ แต่เราก็ได้พลังงานดี ๆ ที่เขาผลักดันเรา”

XL คือเพลงที่เป็น SILVY ที่สุด

เราว่าหลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินเพลงนี้มาก่อนหน้านี้กันบ้างแล้วล่ะ XL คือเพลงที่ทำให้เราอยากจะลุกขึ้นมายืนหน้ากระจกแล้วเป็นตัวเองให่สุดไปเลย อินเนอร์ตอนที่เปิดฟังมันคือแบบนี้จริง ๆ ซิลวี่เล่าว่าเพลงนี้คือเรื่องราวที่เธอต้องการจะสรา้ง Movement ให้กับทุกคน เธออยากให้สังคมในไทยรับรู้ถึงความแตกต่างตรงนี้ และต้องได้รับรู้ว่า Social Media สมัยนี้มันมีผลต่อเรามาก การบูลลี่มันก็มีผลต่อใจของคน ๆ หนึ่งมากเช่นกัน

“เราก็เคยโดยบีบให้เป็นใครก็ไม่รู้ที่ไม่ใช่ตัวเรา เพลง XL เลยเป็นเพลงที่ส่วนตัวมาก และอยากถ่ายทอดเพื่อที่จะบอกว่า เราไม่แคร์ นี่คือซิลวี่ ซิลวี่เป็นแบบนี้ เราไม่มีกฎ ถ้าใครอยากที่จะเข้าใจแนวคิดนี้ว่าถึงจะไม่ได้เกิดมาเหมือนคนอื่น ไม่ได้ผอม ขาว สูง เกิดมาไม่ตรงกับ Beauty Standard แต่ฉันเลือกที่จะเป็นและมีความสุขได้ในแบบของฉันเอง ถ้าอยากเข้าใจความคิดนี้ คุณก็จะชอบ XL”

กว่าจะมาเป็น SILVY ที่มั่นใจ

“เราลองมาหมดแล้ว ลองผอมก็แล้ว ก็ไม่ได้รับโอกาสอยู่ดี หลัก ๆ คือไม่แฮปปี้ ไม่มีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองเป็น เราก็เลยเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง เราจะทำยังไงดี เราจะกลับไปอยู่ในจุดที่ตกต่ำที่สุดของชีวิตไหมล่ะ จะกลับไปอยู่กับความสุขจอมปลอมไหมล่ะ จะกลับไปเข้าฟิตเนสวันละ 5 ชั่วโมง นับแคลอรี่ไหมล่ะ คำตอบก็คือไม่เอา เราลองทำมาแล้ว มันยาก มันกดดัน มันเจ็บหัวใจไปหมด ตั้งแต่นั้นมาพอคิดได้เราก็คิดได้เลย” 

เราก็มองตัวเองกระจกทุกวัน แล้วก็ดูร่างกายของตัวเองที่มันอ้วนขึ้น ที่มันเริ่มมีพุง ที่มันเริ่มขาใหญ่ เราก็รู้สึกว่ามันโอเค 

การยอมรับตัวเอง คือการรักตัวเอง

โยนคำถามกลับไปที่เธอว่า แล้วคำว่ารักตัวเองคืออะไร? สิ่งที่เธอตอบเรามาก็คือ “การยอมรับตัวเอง”

เธอบอกว่า “รักตัวเองคือการที่เรายอมรับในตัวตนของตัวเองได้แบบ 100% ยอมรับในที่นี้ไม่ได้มองว่าทุกอย่างดีไปหมด อันไหนที่เราไม่ชอบก็ยอมรับได้ ตอนนี้เรากำลังรู้สึกไม่ชอบอยู่นะ แล้วทำยังไงกับความรู้สึกที่ไม่ชอบตรงนั้นดี ยอมรับความคิดที่มีกับตัวเอง ยอมรับให้ได้ว่าชอบตัวเองแบบนี้ ไม่ชอบตัวเองแบบนี้ มันคือการสำรวจและเรียนรู้ตัวเอง คุยกับตัวเองจริง ๆ” ลองเริ่มรักตัวเองง่าย ๆ แค่เริ่มจากการให้เวลาตัวเองเยอะ ๆ “แก้ผ้าหน้ากระจก ดูเพื่อสำรวจตัวเอง เข้าใจมัน และยอมรับมัน” 

มันคือการให้เวลากับตัวเอง เรียนรู้ที่จะรักตัวเอง เรียนรู้ที่จะเป็นเพื่อนกับตัวเอง ให้กำลังใจตัวเอง ถ้าเราไม่เห็น ต่อให้คนอื่นมาพูดกับเราแค่ไหน พลังงานดี ๆ มาจากคนอื่นแค่ไหน ถ้าเราไม่เห็นเราก็ทำไม่ได้ 

SILVY ถึงชาวคลีโอ

“มองตัวเองในกระจกเยอะ ๆ ชอบตัวเองไหนแบบไหน ให้ลองทำมันให้หมด ลองใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ของตัวเอง เพราะทุกอย่างที่ทำมันคือ Self Love พอเราทำไปเรื่อย ๆ มันก็จะสร้าง Self Love ขึ้นมาได้เองโดยที่มันเกิดขึ้นจากธรรมชาติของเรา เพราะฉะนั้น ให้เวลากับตัวเองเยอะ ๆ เสริมสร้างความสุขและพลังงานดี ๆ ให้กับตัวเองเยอะ ๆ เพราะว่า ถ้าเราไม่เห็น ก็ไม่มีใครเห็น”

อยากให้ได้ลองฟังเพลงของเธอกัน ไม่ใช่แค่เราจะได้ทำความรู้จักเธอผ่านบทเพลง แต่ในขณะที่เราฟัง เราก็จะได้สำรวจตัวเราเองไปด้วย ให้เสียงเพลงเป็นแรงขับเคลื่อน และหันมารักตัวเองไปพร้อม ๆ กับซิลวี่นะ 🙂

แอบกระซิบว่าตอนนี้เธอเพิ่งออกเพลงใหม่แบบสด ๆ ร้อน ๆ ชื่อเพลงว่า TROUBLE MAKER แค่ชื่อเพลงก็แซบแล้ว เข้าไปลองฟังกันนะ

อ่านเรื่องราวอื่น ๆ ได้ที่ CLEO Thailand และ FB > CLEO

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']