Youthforia แบรนด์เมคอัพที่จะทำให้วงการบิวตี้ต้องสะเทือน!

Youthforia แบรนด์บิวตี้ที่เกิดจากไอเดียของเธอคนนี้ Fiona Co Chan เธอคือเจ้าของแบรนด์วัย 30 ที่ครีเอทเมคอัพที่อินสไปร์มาจากไลฟ์สไตล์ของเธอเอง คือการทำเมคอัพที่สามารถใช้ได้แม้กระทั่งก่อนนอนโดยไม่เกิดอาการแพ้ แถมยังสวยเข้ากับสีผิวของแต่ละคนที่ต่างกันออกไปด้วย บอกเลยว่าตอนนี้กำลังป็นแบรนด์เมคอัพเจนใหม่ที่น่าโดนมากจริงๆ รวมถึงเราที่กำลังอินขั้นสุด เพราะชอบไอเดียและโปรดักส์ของแบรนด์นี้มาก ทั้งความเก๋ของแพกเกจ และความจึ้งของตัวเมคอัพ จนอยากกดสั่งในเว็บตอนนี้เลย!

Swoop Buddy คอมมูนิตี้เทรดเสื้อผ้าสุดชิคที่สายแฟชั่นห้ามพลาด

เทรนด์เทรดเสื้อผ้ามาแรงไม่ไหวแล้วทุกคน ก็คือการที่เราเอาเสื้อผ้าที่เราไม่ใช้แล้วไปแลกกับคนอื่น เราก็จะได้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ซ้ำจำเจ เปลี่ยนได้ตลอดๆโดยที่ไม่ต้องซื้อใหม่เลย เหมาะสำหรับคนที่ชอบซื้อของมือสองมาก บางทีใส่เสื้อผ้าเดิมๆก็รู้สึกเบื่อๆ อยากเปลี่ยนแต่ก็ไม่อยากไปซื้อใหม่แพงๆ ส่วนตัวเก่าจะทิ้งก็ไม่กล้า คุณภาพมันดีอยู่เลยอะ แต่เก็บไว้ก็รกตู้ เห้อ…ทำยังไงดีน้า ก็เอาไปแลกเลยค่ะ!! เดี๋ยวนี้เขามี Community สำหรับแลกเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยเฉพาะเลยนะ รู้จักกันมั้ย “Swoop Buddy” นี่เอง ใครที่ไม่รู้จักก็อยากจะชวนมารู้จักกันเลยตอนนี้  จุดเริ่มต้นของเพื่อนๆทั้ง 4  คอมมูนิตี้แลกเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่าง Swoop Buddy เขาก่อตั้งขึ้นมาจากเพื่อน 4 คนที่ชอบเรื่องเสื้อผ้ากันอยู่แล้ว จากที่ได้รู้จักกับเจ้าของทั้ง 4 คนทั้ง บอส ทินา กาย และ พิงกี้ มีจุดเชื่อมกัน พอรู้จักกันก็เลยเกิดเป็นไอเดียนี้ขึ้นมา อย่าง “บอส คณิณ” จบมาด้านวิศวะและที่บ้านทำธุรกิจผ้า “ทินา ฐิติพร” เรียนด้านแฟชั่น “กาย สุวิจักขณ์” เรียนวิศวะและได้มาเรียนต่อด้าน technology ได้ศึกษาเพิ่มเติมเรื่อง Fast Fashion จนรู้สึกสนใจเกี่ยวกับอะไรแบบนี้ ส่วน “พิงกี้ […]

ทำไม Selena Gomez ถึงยังคงเชื่อในความรักอยู่ แม้เธอจะเสียใจมาแล้วหลายครั้ง

Selena Gomez คือผู้หญิงอีกคนที่เรารักในหัวใจของเธอ หัวใจที่พร้อมมอบสิ่งดีๆ ให้คนอื่นเสมอ จนเรารู้สึกได้ถึงพลังที่เธอส่งมา ไม่ว่าเธอจะเจอปัญหาหรือดราม่าอะไรก็ตามจนทำให้เธอปิดโซเชียล หรือห่างหายไปเป็นระยะ แต่เธอไม่ลืมที่จะมีหัวใจที่บริสุทธิ์ รวมไปถึงเรื่องความรักของเธอเอง ถึงแม้ว่าเซเลน่าจะอกหักและผิดหวังกับความรักมาแล้วหลายครั้ง แต่เธอก็ยังคงเชื่อในความรัก และมองเห็นความหวังในความรักเสมอ 

Carnivore diet…ได้หรอ??? กินแต่เนื้อสัตว์ ไม่กินผักเลย ??

เมื่อพูดถึงการคุมไดเอท ลดความอ้วนหรือดูแลหุ่นด้วยการเลือกกิน ก็ต้องนึกถึงอาหารเบาๆอย่างสลัดใช่มั้ยล่ะ จริงๆมันก็อร่อยดีนะผักสดให้ฟีลเฟรชๆเบาๆแต่อยู่ท้อง ของหวานก็อาจจะเป็นพวกผลไม้ โยเกิร์ตอะไรประมาณนี้ เป็นสาวเฮลตี้สุดๆ แล้วถ้าคนที่ไม่ชอบกินผักล่ะ น่าจะยากเลย…แต่คลีโอได้ไปเจอช่องยูทูปของผู้หญิงคนนึง Steak and Butter Gal เธอกินแต่เนื้อสัตว์กับเนยเป็นก้อนๆเลย แต่ก็ยังมีหุ่นที่สวยมากผิวก็ดี๊ดี เธอบอกว่าสิ่งนี้เรียกว่า “Carnivore Diet” คือการกินของจากเนื้อสัตว์อย่างเดียว โดยที่ไม่ต้องกินผักเลย  Steak and Butter Gal หรือ เบลล่า เธอเป็นนักเปียโนและนักไวโอลินฝึกหัด ผู้หลงใหลในการกินแบบ Carnivore สมัยก่อนเธอกินมังสวิรัติ และมักจะแชร์เรื่องราวการไดเอทของเธอทางช่องทางต่างๆ จนตอนหลังเธอได้มารู้จักกับวิธีการกินเนื้อสัตว์ล้วน ที่มันเปลี่ยนชีวิตเธอไปเลยจริงๆ ทั้งเรื่องผิวและหุ่นที่ดีขึ้น หายจากภูมิแพ้ และสุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้นไปอีกด้วย Carnivore Diet คืออะไร และกินอะไรได้บ้าง? การกินแบบสัตว์กินเนื้อนั่นเอง เป็นแนวทางในการกินอาหารที่เน้นผลิตภัณฑ์จากสัตว์กับผลิตภัณฑ์นม และหยุดอาหารจากพืชทั้งหมด สิ่งที่กินได้ก็จะมี Carnivore Diet ห้ามกินอะไร? Carnivore Diet ดียังไง? หลายคนที่ใช้วิธีนี้ดูแลรูปร่าง ยืนยันว่าสิ่งนี้ช่วยในเรื่องของการปรับปรุงสุขภาพ ได้จริง แถมยังเป็นอาหารที่เตรียมง่ายไม่ยุ่งยากอีกด้วย งานวิจัยบางชิ้นก็ยังพบว่า […]




Health

ผู้หญิงเป็นซึมเศร้ายุคนี้ อาจเพราะเติมไม่เต็ม และหาตัวเองไม่เจอ

โรคซึมเศร้า

ได้คุยกับเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง เธอเป็นคนน่ารัก สนุกสนาน ทำงานเก่ง แต่เธอยอมรับกับเราตั้งแต่ 15 นาทีแรกที่คุยกันว่า “หนูเป็นซึมเศร้ามาตลอดชีวิต” แทบจะไม่เชื่อ และดูไม่ออกเลยว่าเธอมีอะไรในใจกับตัวเองขนาดนั้น แต่ทุกวันนี้เธอใช้ชีวิตด้วยการกินยา ไปหาจิตแพทย์เป็นประจำ ไม่สนใจใคร และไม่กลัวตายเลยสักนิด 

“หนูมีทริกเกอร์ตั้งแต่ตอนเด็กๆ หนูอยู่กับครอบครัวที่แปลกๆ หน่อย เคยทำผมไม่เหมือนเด็กผู้หญิงในโรงเรียนอยู่คนเดียวแต่แม่บอกว่าแม่แม่อยากให้ทำทรงนี้ หนูเลยอยู่กับการที่เราแปลกก็ได้ เราไม่เหมือนคนอื่น และก็เลยมาลงที่เราอยู่ของเราคนเดียวก็ได้นะ”

เวลาผ่านไปหนึ่งปี สองปี ห้าปี สิบปี และยี่สิบปี เธอก็ยังคงมีอาการของโรคซึมเศร้าอยู่เรื่อยๆ เราถามเธอว่าอาการเธอเป็นอย่างไรบ้าง “ก็ตายเลยก็ได้นะ ไม่กลัวเลย แล้วก็หาความหมายไม่เจอ ว่าจะอยู่ไปทำไม ไม่แคร์ใคร ไม่สนใจใคร ไม่รู้ว่าสุดท้ายชีวิตต้องการอะไร” และเพราะเหตุที่เธอหาความหมายของตัวเองไม่เจอ มันเลยทำให้เธอรู้สึก lost จริงๆ “ตัวตนของเรามีนะ แต่มันอยู่ที่ไหน มันคือตัวเราที่บริหารจัดการความรู้สึกไม่เป็น แล้วเราไม่รู้จะยึดอะไรดี?”

ทำให้เธอบอกเราว่าคนที่เป็นซึมเศร้ายุคนี้ อาจมาจากความตั้งใจอยากเป็น อยากมีอะไรสักอย่าง แล้วพอไม่ได้ ก็จะรู้สึกว่าตัวเขาไม่ดีพอ หรือบางคนอยากได้การยอมรับ แต่ทำเท่าไหร่ก็ไม่ได้สักที หรือบางคนอาจมองตัวเองเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง แต่กลับหาว่าตัวตนจริงๆ คืออะไรไม่เจอ เขาก็ lost ได้เลย 

สำหรับเธอช่วงนี้ก็ยังมีอาการอยู่ เธออยู่ได้ด้วยยาเป็นกำมือทุกวัน “มีเป็นอยู่บ้างครั้ง ก็จะรู้สึกว่าไม่อยากทำอะไร อยากนอนขดตัวกลมๆ แล้วหายไปเลย บางทีก็นอนมองพัดลมไปอย่างนั้น คือมันก็จะรู้สึกว่าไม่อยากมีชีวิตต่อไปแล้ว เราเหนื่อย สำหรับเราคือ เราตายเมื่อวานนี้ เมื่อเดือนก่อน หรือพรุ่งนี้มีค่าเท่ากันนะ มันไม่กลัวอะไรแล้วเลย จะเป็นอะไรก็ช่างมัน”

เธอเริ่มคุยกับนักจิตบำบัดตั้งแต่อายุยี่สิบต้นๆ คุยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ครั้งละหนึ่งชั่วโมง หลังจากที่ปรึกษาหมอไปได้สักพัก เธอก็วิเคราะห์ตัวเองได้ว่า “เราเป็นคนไม่ค่อยเหมือนใครมาแต่เด็ก มีโลกของตัวเองสูง เป็นคนที่ยืนบนเส้นคาบเกี่ยวที่ไม่ไปไหนสักทาง แล้วเราต้องเอาตัวรอดให้ได้ แม่เลี้ยงโดยโยนเข้าตู้หนังสือ พ่อกับแม่เลี้ยงเราแบบเลือกสิ่งที่ดีมาให้ แต่ไม่ได้ลงดีเทลว่ามันกระทบเรามั้ย ตอนนั้นอึดอัดนะ รู้สึกตัวเองเหมือนตัวประหลาด และที่บ้านไม่มีการพูดคุยเหตุผลให้เข้าใจ เราถูกทิ้งบ่อยก็เลยอยู่ได้ด้วยตัวเอง เราก็เลยเป็นแนว go with the flow แล้วกัน แล้วตอนนี้นึกไม่ออกเลยว่าครอบครัวอบอุ่นเป็นยังไงเหรอ” แต่เรื่องเรียนเธอไม่เคยเสีย เอ็นทรานซ์ติดคณะที่คะแนนสูงสุดของสายศิลป์ จบมาได้งานทำที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย 

หลังจากไปหานักจิตบำบัด จิตแพยท์มานานเป็นสิบปี หมอสรุปว่าเธอไม่มีศรัทธาในสิ่งใดอย่างจริงจัง ไม่มีหลักในการโยงสิ่งใด “เราไม่มีจุดมุ่งหมาย ไม่มีความทะเยอทะยาน แต่มันก็ใช้ชีวิตไปได้นะ แต่ข้างในมันกลวง เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเราจะใช้ชีวิตไปทำไม ในใจเราไม่แข็งแรงเลย เราก็เลยเริ่มคิดวางแผนว่าจะทำยังไงให้ตายเร็ว ก็เลยเริ่มศึกษา เริ่มมีกระบวนการการคิดเป็นความอยากตาย แล้วมองหาวิธีว่าจะตายยังไงดี กระโดดน้ำล่ะ ผูกคอตายล่ะ เราเหมือนเป็นคนที่พึ่งตัวเองได้ เหมือนเราอยู่ได้ แต่ข้างในเราไม่ได้เต็มขนาดนั้น เราขาดอะไรไป ก็ไม่รู้ว่าขาดอะไร เราขาดการอยากมีชีวิต เราไม่รู้ว่าเราจะสำเร็จไปทำไม รู้สึกว่าโลกไม่มีเราก็ได้”

และเธอยอมรับว่าไม่มีเพื่อนสนิทเลย “เราไม่มีเพื่อนสนิทนะ ทำหายไประหว่างทางบ่อยมาก คุยกันทุกวันแล้วอยู่ๆ วันหนึ่งก็ลืมไม่โทรไปหาเขาแล้ว หรือถ้าทำธุรกิจด้วยกัน แล้วไม่โอเค เราก็พร้อมจะไฝว้” สิ่งเดียวที่ทำให้เธอได้ปล่อยพลังออกไปที่สุดก็คือการทำงาน และสิ่งที่เยียวยาเธอได้คือการเดินทาง และเธอเลือกที่จะไปที่ซ้ำๆ กันทุกปี

เธอเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหายดี แต่ที่แน่ๆ เธอไม่อยากให้ใครเป็นแบบเธอเลย “ไม่เชื่อว่าโรคนี้มันหายได้ แต่แค่อยู่กับมันเป็น ซัฟเฟอร์น้อยลง แล้วเวลาดาวน์น้อยลงก็เก่งแล้ว ไม่อยากให้ใครเป็นเลยนะ ถ้าเป็นก็ต้องหาทางซ่อมตัวเองด้วยตัวเขาเองเลยล่ะ” เธอแนะนำคนที่อยู่ใกล้ชิดคนที่เป็นแบบเธอเอาไว้ด้วยว่า “คุณไปซ่อมใจใครไม่ได้หรอก ถ้าเจอใครที่เป็นแบบนี้อย่าพยายามบอกเขาให้หาย เชียร์อัพเขายังไงก็ไม่หายหรอก สิ่งที่ทำได้คืออยู่ใกล้ๆ เขา ถ้าเขาลงไปในหลุมดำ ก็ยืนรอเขาที่ปากหลุม เพราะถ้าไปพยายามช่วยเขา คุณจะเหนื่อย แล้วคุณจะทิ้งเขาไป” 

และสิ่งที่เธออยากฝากไว้สำหรับคนที่เป็นโรคซึมเศร้าก็คือ  “อย่ากลัวที่จะไปหาหมอ อย่าคิดว่าโรคนี้จะหายได้เอง ยาช่วยได้ส่วนหนึ่ง ถ้าหมอบอกกินเท่าไหร่ ก็ให้กินเท่านั้น อย่าเลิกกินยาโดยที่หมอไม่ได้สั่ง ถ้ากินแรกๆ แล้วรู้สึกว่าดีขึ้นมาก แล้วหยุดนั่นคือผิด ต้องกินต่อไป เพราะมันรักษาระดับในระยะยาว แล้วมันต้องปรับยาไปตลอด” เรื่องสำคัญอีกเรื่องที่เธออยากให้ทำก็คือ “พยายามหาอะไรที่เป็นรูทีนให้ตัวเองทำ เอาแบบไม่ต้องใช้สมองนะ แล้วก็ให้หาต้นแบบในการใช้ชีวิต แล้วศึกษาวิธีใช้ชีวิต วิธีคิดของเขา ตอนอยู่ในหลุมกับตัวเอง ก็ต้องพยายามตัดอารมณ์ขึ้นมานะ” 

เธอรักษาตัวเองโดยไปหาจิตแพทย์ กินยา ทำงาน ว่ายน้ำ วิ่ง หาอะไรโฟกัสให้ตัวเองตลอด และไม่ต้องคิดอะไรมาก “หนูว่ายน้ำรวดเดียวสองพันเมตร ว่าแบบเราจะได้ไม่ต้องคิดอะไรเลย มันเลยกลายเป็นสิ่งยึดเหนื่ยวเรา ว่าเราต้องทำทุกวัน” เคล็ดลับของคนเป็นซึมเศร้าของเธอก็คือ “ให้ตั้งเป้าหมายสั้นๆ ไม่ต้องคิดยาว  แล้วเราจะมีกำลังใจว่าเราทำได้นี่นา” และอีกหนึ่งประโยคที่เธอบอกว่า 

“ยอมรับด้วยว่าเรากำลังเป็นโรคนี้ และเรากำลังพยายามจะให้ตัวเราหายด้วยนะ”

คลีโอขอขอบคุณเรื่องราวจริงจากเพื่อนคนนี้ และขอให้เรื่องราวของเธอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะ

More