ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Love, Self Love

30 วันที่เราจะรักษาหัวใจ ให้หายเจ็บปวดให้ได้!! ด้วยตัวของเราเอง

How to heal a broken heart

หนึ่งในหนังสือเยียวยาอาการอกหักของโลกที่ดังเล่มท้อปๆ ก็คือเรื่องนี้ How to heal a broken heart in 30 days เขียนโดยโฮเวิร์ด บรอนสัน และไมค์ ไรลีย์ เขาบอกมาเป็นรายวันเลยว่าเราต้องทำยังไงบ้าง ใครที่ยังทรมานกับการจบความสัมพันธ์อยู่ นี่คือคู่มือสุดเวิร์คที่ชาวอกหักในโลกยอมรับ คลีโอขอรวบตึงย่อมาให้ มาไล่รายวันกันเลยนะ

How to heal a broken heart

วันที่หนึ่งคุณจะรู้สึกทั้ง ดี! ฉันเป็นอิสระสักที แล้วก็จะเหวี่ยงเป็น “ฉันกลัว ฉันทำผิดอะไร ฉันไม่มีใครแล้ว” ใจเย็นๆ นะ อย่างน้อยเราได้อิสระมาแล้ว เรากำลังจะมาทำงานกับหัวใจตัวเองแล้วล่ะ คุณพร้อมที่จะทำให้หัวใจกลับมาเต็มอีกครั้งแล้วนะ

How to heal a broken heart

วันที่สองความเป็นจริงจะปะทะให้เรารู้ว่า เราเลิกกับเขาแล้ว วันนี้จะเจ็บปวดหน่อยนะ ชื่อของเขา ความหลัง คำถามจะถาโถมมา วันนี้จะเป็นวันที่นั่งร้องไห้หนักๆ ทำอย่างเดียวเลยคือ “ฝึกไม่โทษตัวเอง” ร้องไห้ให้สุด ฟังเพลงเศร้าให้สุด หายใจแบบเอาลมหายใจมาไว้ที่หัวใจ ให้พลังงานกับหัวใจเราเยอะๆ

How to heal a broken heart

เป็นวันที่เพื่อนๆ จะได้ยินเรื่องเศร้านี้ของคุณละ ระบายออกมาเลย มันช่วยให้คุณกำลังล้างใจตัวเอง หาวันที่ให้ตัวเองได้ร้องไห้สุดๆ รู้สึกสุดๆ และฉลองความรักที่เรามอบไป พยายามอย่าหาเหตุผลเข้าข้างใคร ถ้าฉันจะน่าสงสารที่สุดในโลกวันนี้ ก็สุดกันไปเลย

How to heal a broken heart

ถามตัวเองได้นะ แต่ถามว่าเราเองก็พยายามมาเต็มที่ไม่ใช่หรือ ซื่อสัตย์กับตัวเอง และเคารพที่เราเป็นคนแบบนั้นด้วย เราก็มีคุณค่าเหมือนกัน วันนี้จัดของ ทำอะไรยุ่งๆ ไว้ เพื่อนชวนไปไหนก็ไป หามุมมองให้เห็นความเป็นตัวเราที่เราชอบเอาไว้

How to heal a broken heart

คำถามมากมายตีกันในหัว ยิ่งถ้าสงสัยในตัวเองว่าทำไมเราเป็นแบบนั้น หรือเราเหงาไป หรือเราเสียสละมากไป เป็นวันที่อยากจะเอาไฟฉายมาส่องชีวิตรักที่ผ่านมาของเรา จริงๆ ยิ่งเราเห็นความจริงในตัวเองแค่ไหน เราก็จะยิ่งหายดีขึ้นนะ และก็จะรู้เลยว่าเรามีจุดอ่อนอะไร พอมองเห็นเราก็จะรู้แล้วว่าครั้งหน้าฉันจะได้ไม่พลาดอะไรบ้าง

How to heal a broken heart

บางทีถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ต่อให้ยังไงก็ตาม เราก็รู้ดีแก่ใจว่าต้องเลิกกันอยู่ดี แต่มันมีก้อนในใจอะไรบางอย่างที่เราอยากบอกเขา อยากโทร.หาเล่าความในใจให้เขาฟัง ให้คิดซะว่าเราทำใจได้มาตั้งหลายวัน เราทำมาได้ดีแล้ว ให้นึกถึงว่าเราเสียอะไรไปบ้างแล้ว มูฟออนต่อไป อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะดีขึ้นมาๆ แล้ว

How to heal a broken heart

อาจจะดูเกินจริงนะ แต่ยังไงพอเข้าวันนี้ ถึงจะยังเจ็บอยู่ แต่ก็ควรคิดไว้เลยว่าเราจะมีคนรักในฝันได้ แล้วมีความรักที่ดีงามได้ คิดแบบนี้จะทำให้เรามีความหวัง มาช่วยเยียวยาหัวใจได้ดีขึ้น

วันนี้อาจจะคิดถึงเขามากๆๆๆ แล้วอยากโทร.ไปง้อสุดๆ นะ ให้นึกไว้ว่าเราเลิกกันเพราะอะไร ต่อให้คิดถึง แต่คุ้มมั้ยกับสิ่งที่เราได้รับ พยายามอย่าเป็นแม่ชีเทเรซ่าที่คิดว่าเขาเปลี่ยนได้ แต่คิดแบบไปต่อเลยดีกว่า ว่าฉันมีความรักที่มีความสุขกว่านี้ได้

เราต้องต่อสู้กับความคิดถึงเขา เอาคำว่า “ไว้ใจ” มาอยู่ในใจเยอะๆ เพราะถ้าเราไม่ไว้ใจเขาอีกแล้ว จะความรู้สึกที่เขามีกับเรา หรือสิ่งที่เขาทำ มันก็ยากจะไปต่ออยู่ดี ถ้าอยากมีรักที่ดี ก็คงต้องทำทุกอย่างเพื่อให้เราสองคนไว้ใจกันได้ นั่นคือสิ่งที่คุณต้องการไม่ใช่หรือ?

คุณรู้ว่าคุณมีอะไรพิเศษในตัว และนั่นคือสิ่งที่เขาเคยรักในตัวคุณ ความรัก ความใส่ใจ ความเข้าใจที่คุณมีก็คือตัวคุณ ช่วงเวลานี้เอาความเป็นคุณที่ชอบมาคิดเยอะๆ ลิสต์ออกมาเลยก็ดีนะ

พอจบความสัมพันธ์ แน่นอนว่าคุณก็จะฝังตัวเองในห้องนอน ร้องไห้ คิดวนไปมา แล้วตีห่างออกจากคนรอบตัว กลับไปหาพวกเขาบ้าง เพื่อนรักที่เราอยากให้เวลาด้วย กินข้าวกับพ่อแม่ ความอบอุ่นของพวเขาช่วยได้มากๆ เลย

ช่วงเวลานี้เราจะรู้สึกว่าไปไหนไม่ได้ ไม่รู้จะต่อสู้กับอะไร รู้สึกเหมือนเราอยู่ในความมืออยู่คนเดียว ถ้าเราไม่คิดให้เป็นเหตุเป็นผล เอามารมณ์มาตั้งจนเกินไป อาจเกิดอาหารแพนิคระยะยาวได้ ลองมองว่าเป็นช่วงเลาที่เราได้ทบทวนทุกสิ่ง ในความมืดมีแสงสว่างให้เราส่องความสงบมาสู่ใจเราอีกครั้งนะ

ดีใจด้วย คุณผ่านความเจ็บปวดมาได้เกือบ 2 อาทิตย์แล้ว คุณได้จัดยารักษาใจให้ตัวเองได้ดีแล้วนะ ให้รางวัลตัวเองเลย วันนี้เป็นวันที่ควรไปสังสรรค์กับเพื่อน ทำสวยแล้วไปเฉิดฉายเลย

พอเราไฮปั๊บ ยังไม่หายดีหรอก ธรรมชาติจิตก็จะพาเราดิ่งกลับมารู้สึกว่าช่างเดียวดาย น่าเบื่อ ไร้ความหวังได้ วันนี้ครบสองอาทิตย์ที่จบความสัมพันธ์มาแล้ว เป็นช่วงเวลาที่ดีที่คุณจะบอกตัวเองเต็มๆ ว่า “มันได้เกิดขึ้นแล้วนะ” “ฉันอยู่คนเดียวแล้วนะ” ยินดีกับตัวเอง แล้วไปต่อกันเลย เชื่อในสัญชาติญาณของเราว่า เราจะดีขึ้นเรื่อยๆ ด้วย

วางแผนไปเที่ยวไหนได้แล้ว ไปช่วงเวลานี้ดีงาม เพราะเราไม่ได้หนีความรู้สึก เราเข้าใจ ประคับประคอง ปะทะ จนวันนี้ล่ะเราไปเที่ยวให้ใจพักจริงๆ ได้แล้ว

วันนี้คุณอาจจะรู้สึกอยากสร้างกำแพงเหล็กมาป้องกันทุกอย่างให้ใจ เหมือนกับแบบว่าไม่อยากพังลงไปอีก สำคัญเลยว่าอย่าเพิ่ง ไม่ต้องพยายามสตรองขนาดนั้น ผ่อนคลายไปก่อน ไม่ต้องรีบลุก ไปตามใจที่รู้สึกไปก่อนนะ

ไม่ต้องตกใจนะว่าเรื่องของเขาจะมาวนๆ ในหัวอีก อาจจะมีเรื่องเขาแว่บเข้ามา ได้ยินเรื่องเขาจากคนอื่น เหมือนเขายังวนอยู่ ก็ให้คิดอะไรที่ให้ความหวังเอาไว้ คิดไว้ว่าเดี๋ยวเราจะดีขึ้น มองไปที่อนาคตว่าต้องดีสิ! เอาไว้นะ

ถ้าก่อนหน้านี้เรามีแต่มองหน้าตัวเองแล้วหารอยตีนกา หาแววตาเศร้าๆ วันแบบนี้ลองเปลี่ยนมาเป็นชมตัวเองดีกว่า สปิริตเรา ยิ้มของเรา ใจอันเต็มไปด้วยความศรัทธาในความรักของเรา เอาสิ่งเหล่านี้เข้ามาไว้นะ

วันแบบนี้เราอาจมีได้ยินคนรอบตัวพูดกับเราว่า “เสียดายเขา” หรืออะไรก็ตามที่ทำให้เราต้องกลับไปคิดว่า “หรือเราผิดเอง” ไม่นะ อย่าให้ความคิดแง่ลบเกี่ยวกับตัวเรามาตอกย้ำ มันจบไปแล้วไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เราต้องเดินหน้าอย่างเดียวเท่านั้น!!

เป็นช่วงเวลาที่เราต้องยืนหยัดขึ้นมากับตัวเอง ประกาศศักดาว่า ต่อไปนี้เขาจะมาตัดสินอะไรเราไม่ได้อีกต่อไป ถ้าเรายังมีความรู้สึกเนกาทีฟกับตัวเอง ที่มาจากสิ่งที่เขาตัดสินเราอยู่ ลบออกไปนะ หรือถ้ากลัวอะไรก็ลิสต์ออกมา ตั้งใจว่าเราต้องเอาสิ่งลบๆ เกี่ยวกับตัวเราออกไปให้หมด เขาไม่สามารถอยู่เหนือชีวิตเราได้อีกต่อไปแล้วนะ

คนที่ต้องเลิกกับคนรักส่วนใหญ่ บางทีจะมีบอกกับตัวเองว่า ฉันคงรักใครไม่ได้อีกแล้วล่ะ  เอาเป็นว่าไม่ต้องกลัวความรักนะ ทำใจให้เบาๆ ไม่ต้องคิดกะเกณฑ์อะไรให้ตัวเองทั้งนั้น ขอแค่ไม่ล็อคใจเอาไว้ก็พอ

มีนะวันแบบนี้ที่อยู่ดีๆ เราก็อยากโทษโน่นนี่ที่ให้เราต้องมาเป็นคนผิดหวังในความรักแบบนี้ เป็นวันแห่งความงอแงเหมือนเด็กๆ ถามตัวเองเลยว่า เราจะให้อภัยผู้หญิงคนนี้มั้ย ถ้าเธอเป็นเด็กสาวที่กำลังร้องไห้อยู่ เราอยากดึงเธอออกมาจากมุมมืดนั้นมั้ย? ให้ความอ่อนโยนของใจ ช่วยเธอปาดน้ำตา แล้วดึงเธอขึ้นมากันมั้ย?

ถึงเวลาที่เราผ่านช่วงเวลาเลวร้ายมาแล้วล่ะ เราได้เรียนรู้ความเจ็บปวดมาแล้ว เป็นบทเรียนให้เราแล้ว ถ้าคุณพร้อม เริ่มสร้างภาพความรักครั้งใหม่ คนรักใหม่ได้เลยนะ เอาเป็นว่าฝันได้เลยนะ

มาถึงตอนนี้คุณอาจจะนึกถามตัวเองว่า แล้วถ้าเราไม่ต้องมีความรักเลยล่ะ เราจะมีความสุขกว่าไหม? ถ้าใจลึกๆ เรามีภาพฝันของชีวิตครอบครัว เรายังอยากมีใครไปเที่ยวรอบโลกด้วย บางทีการที่มีความรัก แล้วเจ็บบ้าง ก็อาจจะดีกว่าไม่มีความรักเลยก็ได้นะ ชีวิตต้องมีสุขบ้าง ทุกข์บ้างอยู่แล้วด้วยไม่ใช่หรือ?

ก่อนหน้านี้ตอนเลิกกันใหม่ๆ คุณอาจคิดว่าอยู่ไม่ได้แน่ๆ ถ้าไม่มีเขา ยังจำความรู้สึกเจ็บปวดแบบนั้นได้มั้ย ข่าวดีคือ คุณแทบจะจำไม่ได้เลยว่าเราเคยเจ็บขนาดไหนมา เพื่อผ่านการรักษาใจมาถึงวันนี้แล้ว ทุกอย่างจะคลี่คลายลงอย่างเป็นธรรมชาติ ความรู้สึกใหม่ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ได้เข้ามาหาคุณแล้วล่ะ

ความเจ็บปวดจะค่อยๆ หายไปจากใจคุณแล้ว ถึงเวลานี้คุณจะไม่อยากรับรู้เรื่องราวของเขาเท่าไหร่ หรือถ้าใจยังมีคิดๆ ถึงเขาอยู่ ก็จะมีความรู้สึกเข้ามาแทนที่แล้วล่ะว่า “ดีแล้วที่เราเลิกกัน” คุณพร้อมจะให้อภัยเขาแล้วล่ะ

เป็นช่วงเวลาที่เราต้องเปิดใจอีกครั้งแล้ว เป็นความกล้าที่เราจะเอาชนะความกลัว และอยากมีความสุขจริงๆ เอาล่ะเราได้เรียนรู้มาแล้ว เราหยุดโทษตัวเอง โทษเขาได้ เราจะเริ่มเปิดใจไปสู่สิ่งที่ดีกว่า แล้วเราก็ค้นพบว่าต่อไปนี้เราจะเต็มกับความสัมพันธ์อีกครั้งแล้วนะ

และทุกสิ่งก็ได้กลายเป็นบทเรียนให้เราเข้าใจขึ้น สตรองขึ้น ช่วงเวลาแบบนี้เหมาะกับการขอบคุณอยางจริงใจ ขอบคุณชีวิตที่สอนอะไรเรา ขอบคุณเขาที่ทำให้เรานิ่ง และเข้าใจความรักขึ้น ทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมดีเสมอแน่นอน

เอาล่ะ คุณได้ผ่านความกลัว การยอมรับความจริง น้ำตา และคำถามมากมายกับตัวเองมาแล้ว เวลานี้คือคุณพร้อมจะก้าวสู่โลกก้าวเผชิญหน้ากับคนใหม่ๆ แล้วนะ อาจจะดีกว่าถ้านิ่งๆ อีกสักนิดก่อนที่จะเดทกับใคร ให้ใจเต็ม ไม่ตัดสิน ไม่หวาดกลัวจริงๆ อีกสักหน่อย จะทำให้ความรักครั้งใหม่เฟิร์มขึ้นได้นะ

ยินดีด้วยนะกับ How to heal a broken heart in 30 days ช่วงเวลา 30 วันแห่งการรักษาหัวใจของคุณ เป็นยังไงบ้าง รู้สึกดีกับตัวเองไหม? โล่งไหม? ขอให้คุณได้เรียนรู้จากความผิดพลาดนะ หวังว่าใจคุณจะเบา และไม่มองโลกแง่ร้าย และหวังว่าประตูบานใหม่จะเปิดออก พร้อมให้คุณรอรับความสุขได้แล้วนะ

เทคแคร์หัวใจ ตัวเองให้หายดียังไง หลังจากอกหักที่แสนเจ็บปวดรวดร้าว

รักษาหัวใจ

เลิกกันมาก็นานแล้ว ทำไมเรายัง ลืมเขาไม่ได้สักที ??

มูฟออน

อ่านเรื่องราวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ทาง CleoThailand หรือ FB: @CleoThailand

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']