ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Beauty, Skin Care

น้ำหวาน ภัทรมน เธอคือนักชีวเคมีที่คิดค้นสกินแคร์สำหรับแม่ตั้งครรภ์ PregSkin

Pregskin

“เพราะความสวยของคุณแม่เป็นเรื่องสำคัญ” PregSkin เลยถูกคิดค้นขึ้นจากไอเดียของเธอ “น้ำหวาน” ภัทรมน เกิดลาภผล นักชีวเคมีผู้ก่อตั้งแบรนด์ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิวที่คุณแม่หลายคนต้องพบเจอในช่วงตั้งครรภ์ ปัญหาเรื่องผิวแพ้ง่ายเมื่อใช้สกินแคร์และเครื่องสำอางขณะตั้งครรภ์ สิวขึ้นจากฮอร์โมนส์ สภาพจิตใจเมื่อเกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้นมา ที่บางครั้งก็ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่พวกเธอต้องเจอตลอดระยะเวลากว่า 9 เดือน 

จุดเริ่มต้นนั้นเริ่มมาจากความสนใจของเธอล้วนๆ ย้อนกลับไปเมื่อตอนเรียนมัธยม น้ำหวาน สนใจวิทยาศาสตร์และ cosmetic science เป็นทุนเดิม ถ้าพูดให้เห็นภาพง่ายๆ เธอมักจะชอบอ่านฉลากผลิตภัณฑ์ ดูสูตร ส่วนผสม ทำให้เธออยากเรียนต่อด้านชีวเคมี เพื่อเสริมความรู้ที่เธอสนใจและถนัดอยู่แล้ว หลังจากนั้นเธอเลยได้เข้าเรียนด้านชีวเคมีที่ University of California, Los Angeles (UCLA) เมื่อเรียนจบกลับมา เธอก็ได้เข้าไปทำงานด้านเครื่องสำอาง ทำให้เธอมีความรู้เรื่องส่วนผสม และวัตถุดิบต่างๆ ค่อนข้างเยอะ และนั่นก็เป็นเส้นทางสู่จุดเริ่มต้นนี้

จนเมื่อเธอได้เข้าเรียนต่อที่ Massachusetts Institute of Technology (MIT) น้ำหวานก็ได้เข้าร่วมโปรเจ็กต์วิจัยชิ้นหนึ่ง “เราตั้งใจที่จะทำอะไรที่เกี่ยวกับความงาม แต่ตอนนนั้นเรายังจับจุดไม่ถูก เรารู้ว่าเราอินสกินแคร์ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มยังไง จนมีเพื่อนเริ่มพูดถึงกลุ่มคุณแม่ตั้งครรภ์ ทำให้เราปิ๊งไอเดียนี้ขึ้นมา เพราะถ้าเรามองดีๆ มันยังไม่มีสกินแคร์ดูแลผิวหน้าสำหรับคนท้องเลย” นี่เลยเป็นจุดเริ่มต้นของ Pregskin 

ไม่ใช่คนท้องทุกคนจะมี Pregnancy Glow

“เวลาเราพูดว่าครีมคนท้อง ส่วนใหญ่ก็จะนึกถึงแต่หน้าท้อง ซึ่งความจริงแล้วผิวคนท้องมีทั้งผิวหน้า ผิวกาย หลัง ขา มีอีกหลายจุดที่ถูกมองข้ามไป” 

ยิ่งเธอศึกษาลึกลงไปมากเท่าไร เธอก็ยิ่งรู้และค้นพบอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวกับผิวของคุณแม่ตั้งครรภ์ เช่น คนท้องใช้ยาสิวไม่ได้ ทั้งๆ ที่พวกเธอต้องเจอกับปัญหาฮอร์โมนส์อันหนักหน่วง ไม่ว่าจะเป็นสิวต่างๆ หรือบางคนไม่เคยเป็นสิวเลย แต่พอมีลูกก็สิวเห่อ แพ้ง่าย หรือถ้าหนักกว่านี้หน่อย ก็แพ้สกินแคร์ที่เคยใช้ประจำอยู่แล้วจนต้องเลิกใช้เด็ดขาดก็มี ซึ่งปัญหาทั้งหมดที่น้ำหวานเล่ามาก็ยังไม่มีใครออกมาแก้และตอบโจทย์คนท้องจริงจังสักที 

Pregskin

“เรามองเห็นปัญหาของคุณแม่ที่หลายคนไม่รู้ และมองข้าม”

“เราเลยอยากทำผลิตภัณฑ์สำหรับคุณแม่ที่ทำให้เขาแฮปปี้มากขึ้นทั้งเรื่องผิวพรรณและเรื่องจิตใจให้ดีขึ้น รู้สึกดีขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะร่างกายและความรู้สึกเป็นอะไรที่เชื่อมโยงกัน เราอยากให้คุณแม่ได้รับประสบการณ์ที่ดีทั้งผลลัพธ์ด้านผิวพรรณและสุขภาพจิตที่ดีขึ้น”

คำถามแรกที่ขึ้นมาในหัวเธอตั้งแต่เริ่มทำโปรเจ็กต์นี้คือ “จะทำยังไงให้คุณแม่สวย ปลอดภัยและรู้สึกดีและไม่ต้องรู้สึกว่ากำลังเสียสละ” เธอค่อยๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำงานในวงการยา สอบถามข้อมูลจากผู้มีความรู้ ศึกษาเพิ่มเติมมาเรื่อยๆ ยิ่งหาคำตอบ ยิ่งศึกษาเรียนรู้ ทำให้น้ำหวานมองเห็นคำตอบในใจชัดเจนมากยิ่งขึ้น และตอบตัวเองได้ว่า นี่แหละ เธอมาถูกทางแล้วจนมั่นใจว่า “สิ่งนี้มันต้องเกิด เราต้องลงมือทำได้แล้ว” เธอจึงลาออกจากบริษัทยาที่ทำอยู่และเริ่มต้นทำแบรนด์นี้ อย่างจริงจัง 

Pregskin ทำให้คนท้องรู้สึกมีคุณค่า

จะเรียกว่าแบรนด์สกินแคร์ของเธอปลุกความมั่นใจและความกล้าที่จะสวยของคุณแม่ตั้งครรภ์ให้กลับมาอีกครั้งก็ว่าได้ น้ำหวานมีความตั้งใจที่เข้าไปเป็นส่วนเล็กๆ ในการให้กำลังใจคุณแม่อย่างเข้าใจว่าพวกเธอต้องเผชิญกับอะไรอยู่บ้าง ผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ อ่อนโยน และเห็นผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ทำให้คุณแม่รู้สึกมั่นใจในจัวเอง และไม่กังวลใจอีกต่อไป 

หนึ่งสิ่งสำคัญที่เธอให้ความสำคัญมากที่สุด นั่นก็คือ ความปลอดภัยของคุณแม่ต้องมาก่อนเสมอ ดังนั้นส่วนประกอบและสารต่างๆ ที่อยู่ในสกินแคร์นั้นมั่นใจได้เลยว่าอ่อนโยน และไม่ส่งอันตรายต่อแม่และลูกในท้องอย่างแน่นอน คุณแม่หลายคนอาจเจอปัญหาอย่างการที่ไม่สามารถรักษาสิวหรือใช้ผลิตภัณฑ์ลดรอยหมองคล้าบนใบหน้าได้อย่างมั่นใจ เพราะกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมลูกอยู่หลายคนไม่มั่นใจว่าส่วนผสมตัวไหนในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ปลอดภัยสาหรับลูกน้อยหนึ่งในสารต้องห้ามที่อันตรายที่สุดสาหรับคุณแม่ก็คือกลุ่มพวกกรด วิตามินเอหรือเรตินอยด์ซึ่งนิยมใช้ในผลิตภัณฑ์รักษาสิว กระ ฝ้า ลดริ้วรอย ซึ่งมาในหลายรูปแบบ เช่น “Retinol” “Retinol Palmitate” หรือ “Retinaldehyde” นอกเหนือจากนี้ สาร Salicylic Acid และ Benzoyl Peroxide ที่เรามักพบในยารักษาสิวทั่วไปก็เป็นส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยงเช่นกันเพราะเป็นอันตรายต่อคุณแม่ที่กาลังท้องหรือให้นมลูกอยู่ แต่ในความเป็นจริงแล้วคุณแม่ไม่จาเป็นที่จะต้อง งดดูแลปรนนิบัติผิวในช่วงเวลานี้เพราะว่ายังมีส่วนผสมอีกมากมาย ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาผิวของ คุณแม่ได้โดยที่ไม่มีความเสี่ยงต่อลูกน้อย

ส่วนผสมที่ดีคือคีย์สำคัญ

ส่วนผสมหลักของ PregSkin คือสารสกัดจาก BidensPilosa ซึ่งเป็นพืชที่ถือกำเนิดมาจากทวีปอเมริกาใต้ โดยชาว Amazon นิยมนำพืชชนิดนี้มาทาเป็นยารักษาโรคนานาชนิดมาตั้งแต่อดีต ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว BidensPilosa จึงถือว่ามีความพิเศษกว่าพืชอื่นๆ เพราะทําหน้าที่เหมือนวิตามินเอ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย แถมยังมีคุณสมบัติในการรักษาสิว ปรับสีผิวให้สว่าง ขึ้นและยังทาให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องการมีผิวพรรณเปล่งปลั่งหรือที่เรียกกันว่า “pregnancy glow” นั่นเอง โดยผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง จากสถาบันชั้นนำของ ประเทศสหรัฐอเมริกา (Dermatologist-Tested in USA on Sensitive Skin) ซึ่งใช้เวลาทดสอบนานถึง 2-3 เดือน เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ทุกตัวจาก PregSkin นั้นปลอดภัยแม้ใช้กับผิวแพ้ง่าย เพื่อให้คุณแม่ได้สวยอย่างมั่นใจ 

Blemish Control Skin-Clearing Serum

30ml 1,720 บาท

เซรั่มขายดีของ Pregskin ตอบโจทย์ปัญหาผิวที่คุณแม่ตั้งครรภ์พบเจอ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะพบปัญหาผิวแห้งผิวลอกเมื่อทาสกินแคร์ หรือปัญหาผิวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นผิวบอบบางแพ้ง่าย ผิวอุดตัน รูขุมขนกว้างขึ้น และผิวเป็นสิวง่าย เนื้อเซรั่มบางเบา ซึมง่าย แต่ยังคงให้ความชุ่นชื้นและกักเก็บน้ำเข้าสู่ผิว ช่วยให้ผิวผิวกระจ่างใส ลดสิว เรียบเนียนนุ่มชุ่มชื้น และเปล่งปลั่ง ซึ่งเซรั่มสามารถใช้ได้ทั้งช่วงก่อนตั้งครรภ์ ช่วงตั้งครรภ์ หลังคลอด และช่วงให้นมบุตร รวมถึงผู้หญิงที่ไม่ตั้งครรภ์ก็ใช้ได้เช่นเดียวกัน เพราะปลอดภัยและอ่อนโยนมาก

Brightening Age-Defying Moisturizing Facial Cream

55ml 1,660 บาท

เชื่อว่าคุณแม่หายคนต้องกำลังเจอกับความเหนื่อยล้า ส่งผลทำให้ผิวก็ล้าตามไปด้วย Brightening Age-Defying Moisturizing Facial Cream จะช่วยเพิ่มการบำรุงและให้ความชุ่มชื้นกับผิวของคุณแม่ตั้งครรภ์ด้วยครีมเนื้อนุ่มซึมง่ายไม่เหนอะหนะ อุดมไปด้วยสารสกัดจาก BidensPilosa ที่ปราศจากสารที่มีความเสี่ยงต่อแม่และลูกในท้องเหมาะสำหรับคุณแม่ที่กาลังตั้งครรภ์หรือให้นมลูก ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย ผิวขาดน้ํา มีปัญหาผิวหมองคล้ำ จุดด่างดํา และริ้วรอยแห่งวัย 

Intensive Hydrating Stretch Mark Butter

200ml 1,880 บาท

เนื้อครีมเข้มข้น ซึมง่ายปราศจากสารที่มีความเสี่ยงต่อแม่และลูกเหมาะสาหรับคุณแม่ที่กาลังตั้งครรภ์หรือให้ นมลูก ที่มีผิวกํายแห้งถึงแห้งมาก มีโอกาสเกิดรอยแตกลาย หรือคันจากการระคายเคือง เนื่องจากผิวหนังที่ยืดและขยายตัวในขณะที่ตั้งครรภ์ 

PregSkin Go Green แคมเปญใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม 

นอกจากผลิตภัณฑ์ทั้งสามชิ้นที่วางขายแล้ว ในช่วงหลังสงกรานต์นี้ น้ำหวานก็เตรียมอีกหนึ่งแคมเปญที่น่าสนใจเอาไว้แล้ว นั่นก็คือ PregSkin Go Green โดยการหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยต่อยอดแบรนด์ให้ไปอีกหนึ่งสเต็ป 

“ทุกสิ่งที่เราทำกับโลกใบนี้ จะส่งผลย้อนกลับมาที่ตัวเรา ผ่านอาหารที่เราทาน อากาศที่เราหายใจ น้ำที่เราดื่ม ทุกๆ อย่างที่เราบริโภค และในฐานะแบรนด์สกินแคร์ซึ่งเป็นธุรกิจที่สร้างขยะไม่น้อย เราสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง เราสามารถที่จะลุกขึ้นมาเป็นสิ่งเล็กๆ ที่ช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนสังคม สร้างความเปลียนแปลง สร้างความตระหนักเกี่ยวกับปัญหาขยะ ในโลกของเรา ในบ้านเมืองที่เราอยู่อาศัยให้กับคนทั่วไปได้อย่างไร” 

โดยโปรเจ็กต์แรกก็คือ PregSkin x WISHULADA เป็นการจับมือร่วมกันกับ WISHULADA หรือคุณเอ๋ วิชชุลดา Environmental Artist โดยน้ำหวานและคุณเอ๋มีอุดมการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ไปในทิศทางเดียวกัน นั่นก็คือ “การลดขยะ” โดยออกเป็น Gift Set ประกอบด้วยกระเป๋าจากผ้าโพลีเอสเตอร์ที่ผลิตมาจากขวดน้ำพลาสติก Recycled 100% และดีไซน์ในแบบของเอ๋ วิชชุลดา 

นอกจากนี้แบรนด์ของน้ำหวานก็กำลังจะวางจำหน่ายที่ ECOTOPIA ด้วยเช่นกัน 

ใครที่สนใจ โดยเฉพาะคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร แบรนด์ของน้ำหวานก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการตอบโจทย์และแก้ปัญหาผิวที่เกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ ทำให้รู้สึกดีและสบายใจเมื่อได้ใช้ หรือใครที่ไม่ได้ตั้งครรภ์แต่อยากได้สกินแคร์ที่อ่อนโยนและปลอดภัย ก็สามารถลองใช้ได้เช่นเดียวกัน 

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่

และช่องทางออฟไลน์ที่ ALL ABOUT YOU stores (30+ สาขาในประเทศ รวมถึง Central World, Siam Paragon, Emquartier, Siam Center, IconSiamและ Central Plaza Chonburi), LAZADA, SHOPEE และ JD CENTRAL 

moringa project. แบรนด์สกินแคร์วีแกนที่ใส่ใจทุกขั้นตอน และอยากให้มะรุมได้เป็นที่รู้จักในสายตาคนทั่วโลก

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']