ถ้าอยากหาบิวตี้ คลีนิกที่เหมือนเพื่อนสาว น้องสาว พี่สาวสักแห่ง ดูแลเราแบบจริงใจจัดเต็มจริงๆ แนะนำ RAPARIS คลีนิกเลยนะ เพราะหมอแพร คุณหมอและเจ้าของคลีนิก เธอผ่านโลกมาแล้ว สร้างคลีนิกเองคนเดียวทั้งหมดด้วย เธอนี่ล่ะทำให้เราสวย และไม่ต้องจ่ายแพงๆ ได้เลย!
หมอแพร- แพทย์หญิงรัตนนรี ทองนพคุณ คือหญิงสาววัยสามสิบต้นที่ยืนยันว่า อยากดูแลลูกค้าทุกคนให้ดีที่สุด และสวยที่สุด หมอแพรไม่เหมือนหมอคนอื่นๆ คือ เธอไม่เคยขาย ไม่เคยโฆษณาตัวเองใดๆ และทุกบาททุกสตางค์จนมาเป็น Raparis บิวตี้คลินิกของเธอนี้ เธอผ่านการอดทน เก็บเงิน ส่งพี่สาวเรียน ยอมไม่เป็นหมอสูติในฝัน อยู่ไกลบ้านคนเดียว หมอแพรยอมทุกอย่าง และสู้ไม่เคยถอย
เธอถึงเป็นคุณหมอที่ชนะใจลูกค้า ไม่ว่าจะเจอกับโควิดสาหัสแค่ไหน มีลูกค้านี่ล่ะที่ให้กำลังใจและไม่ยอมให้เธอเลิกทำ จนวันนี้หมอแพรฟื้นตัวได้อีกครั้ง ความสุภาพและถ่อมตัวของเธอ ทำให้คลีโอยิ่งอยากเขียนเรื่องของเธอบอกโลก ผู้หญิงที่เห็นความสุขของตัวเองเป็นสิ่งสุดท้ายคนนี้ คือหมอดูแลความสวยที่แสนจะมือเบา อ่อนโยน และเข้าใจความต้องการของผู้หญิงด้วยกันยิ่งกว่าอะไร
“แม่มีภาระเยอะแล้ว เราเลยบอกแม่ว่า จะส่งพี่สาวเรียนเอง”
เธอไม่ได้อยากเรียนหมอมาแต่แรก แต่เพราะทำให้แม่ก็เลยอดทนเรียนไป 6 ปีกับชีวิตที่หมอแพรบอกว่า “เป็นการเรียนที่ทรมานมาก ทุกข์ที่สุด มันดึงเอาความเป็นตัวเราไปหมด ชีวิตไม่มีเรื่องอื่นเลยนอกจากเรื่องเรียน” หมอแพรพยายามเรียนหมอที่มหาวิทยาลัยนเรศวรให้ได้ดีที่สุดถึงจะไม่มีความสุขเลยก็ตาม จนพอมาเรียนปีสุดท้าย เธอถึงเริ่มเจอแล้วว่าความสุขของเธอคืออะไร “พอได้อยู่กับคนไข้จริงๆ ได้รักษาเขา นั่นคือความสุขเราเลย พอรักษาแล้วเขาหายดี เราเลยรู้ว่าเราทำอะไรให้คนอื่นได้จริงๆ”
“ทำงานไปด้วย ใช้ทุนไปด้วย”
เป็นเพราะอยากช่วยเหลือครอบครัว หมอแพรไม่อยู่เฉย เมื่อเรียนหมอจบต้องใช้ทุนต่อ หมอแพทำงานตลอดทั้ง 7 วัน และถ้าใครอยากให้เธอเข้าเวรแทน เธอจะรับไว้หมด เหตุผลก็คืออยากแบ่งเบาภาระของแม่บ้าง “แม่ส่งพี่สาวเรียนที่เมืองนอกจนเป็นหนี้ ก็เลยคิดว่าอยากช่วยแม่ใช้หนี้ เลยบอกแม่ว่าของพี่สาวเรารับเอาไว้เองแล้วกัน” หมอแพรเลือกที่จะทำงานและเก็บเงินส่งให้พี่เรียนตั้งแต่วันนั้น เธอมีเท่าไหร่ให้แม่หมด รวมทั้งทิ้งฝันที่อยากเป็นด้วย
“ดราม่าหนักๆ กับตัวเอง เพราะไม่ได้เรียนเป็นหมอสูติต่อ”
“พอมีเรื่องต้องช่วยที่บ้านหาเงิน ตอนนั้นอยากเป็นหมอสูติมาก ก็เรียนอยู่ เราเลยคิดว่าเรียนต่อไม่ได้แล้ว คงหาเงินไม่ทัน ก็เลยลาออก ดราม่ากับตัวเองเลย ร้องไห้หนักมาก ทั้งเพื่อน อาจารย์ก็อยากเห็นเราเป็นหมอสูติ แต่มันเป็นไม่ได้แล้ว” หมอแพรเริ่มคิดทันทีว่าทำงานอะไรจะได้เงินเยอะที่สุด เธอเลยเข้าสู่วงการบิวตี้ตั้งแต่ตอนนั้น ไปทำงานที่คลินิกของนิติพนที่แม่สอด ไปคนเดียว ไกลบ้าน และไปเพื่อตั้งใจเก็บเงินให้พี่สาว “เราเอาชีวิตไปไว้บนแม่สอดเลย ไม่รู้จักใครสักคนที่นั่น มีแต่ชาวพม่าแล้วก็งาน”
“หนึ่งปีกับชีวิตที่ต้องรอซื้ออาหารตอนลดราคา”
เป็นหนึ่งปีที่ไม่เจอใครเลยของหมอแพร เมืองที่เธออยู่มีแต่ชาวพม่า หมอแพรไม่เคยรู้สึกปลอดภัย ไม่กล้าออกไปกินข้าวที่ร้าน ไม่ออกกำลังกาย ไม่มีแรงบันดาลใจ ไม่อยากทำอะไรเลย เธอใช้ชีวิตคนเดียวจนพูดภาษาพม่าได้ และดิ่งกับตัวเองเป็นระยะๆ จนเกือบจะเป็นซึมเศร้า เธอกัดฟันส่งเงินให้พี่สาวหมดเกลี้ยง จนบางทีไม่มีเงินกินข้าว ต้องรอซื้อตอนลดราคา หมอแพรบอกว่า “เคยรอซื้อถั่วเขียวตอนห่อละ 2.50 บาท ถึงจะซื้อ” เธอทำแบบนั้นจริงๆ จนส่งเงินให้พี่สาวเรียนเทอมสุดท้ายสำเร็จ
“กลับมากรุงเทพฯ และตั้งใจว่าต้องเป็นหมอติดอันดับท็อปให้ได้”
หมอแพรทำกับคลินิกของคนอื่นไปก่อน และด้วยความมุ่งมั่นเธอคิดกับตัวเองว่า “ทำแล้วก็ต้องเอาให้รุ่ง” หมอแพรพยายามจะต้องเป็นหมออันดับท็อปๆ ของคลินิกให้ได้ เพื่อเป็นใบเบิกทางและเป็นกำลังใจให้กับตัวเอง ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปีเธอก็ทำได้ เธอได้ย้ายไปสาขาใหญ่ในเมือง และทำงานแบบที่หมอแพรบอกว่า “ฉีดหน้าให้คนวันละ 60 หน้า จนเราคิดว่านี่เราคือหมอหุ่นยนตร์ไปหรือเปล่า”
“งานหนักเกินไปจนเริ่มคิดอยากเปิดคลีนิคของตัวเอง”
หมอแพรบอกว่าเธอเป็นคนทำงานจริงจัง แต่คนที่ต้องรอเธอทุกคืนนี่สิ หมอแพรเพิ่งแต่งงาน เธอทำงานหนักจนกลับมาถึงบ้านดึกๆ สามีก็หลับไปแล้ว บางทีเขาก็ไปนั่งรอเธอ ซื้ออาหารให้เธอกินที่คลินิก “เราก็ไม่ได้กินนะ ก็เลยเสียความรู้สึกกัน ปรับจูนกันไปเป็นปี เลยคิดว่าแบบนี้คงไม่เวิร์ค น่าจะถึงเวลาที่เราออกมาเปิดคลินิกเล็กๆ เองแล้ว”
“โดนตัดออกจากครอบครัว ต้องกู้เงินหลักหลายล้านบาท”
หมอแพรเปิดคลินิกที่คริสตัล ชัยพฤกษ์ใช้ชื่อว่า Raparis คลินิกเล็กๆ ที่เธอต้องกู้เงินมาหลายล้านบาท “ตอนที่เปิดทะเลาะกับที่บ้าน ที่บ้านไม่อยากให้ออกจากคลินิกเก่า จนทุกคนตัดเราออกไป ไม่คุยกับเราเลยหนึ่งปี” ที่บ้านไม่คุยด้วยแล้ว หมอแพรยังต้องต่อสู้เพื่อให้มีลูกคาเข้าร้านด้วย“เราเสียใจนะ รู้สึกว่าไม่เหลือใครเลย มีแต่สามีอยู่ข้างๆ ไม่มีใครให้โทร.หา ไม่มีใครมาคลีนิคเราเลย” หมอแพรใช้เวลาหนึ่งปี ทำทุกอย่างเหมือนเดิมทุกวัน สะสมคนไข้ไปเรื่อยๆ เธอมีคนไข้ที่เข้ามาแค่ฉีดแต่สิวด้วยซ้ำ “เราไม่ทำมาร์เก็ตติ้งอะไรทั้งนั้น ก็ฉีดแต่สิวมาเรื่อยๆ อยู่ไปทุกวันแบบนั้น”
“ความสม่ำเสมอทำให้ลูกค้าที่เคยจ่ายหลักร้อย กลับมาจ่ายเป็นหลักแสน”
หมอแพรบอกว่าเป็นความสม่ำเสมอเหมือนเดิมทุกวันของเธอล้วนๆ “ผ่านไปหนึ่งปี มันไม่ใช่ว่าทำอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วสำเร็จ เราทำอย่างละเล็กละน้อย แต่เราทำสม่ำเสมอทุกวัน จากลูกค้าที่จ่าย 100 บาท ก็กลับมาทำโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ จัดเต็มมาก คนที่เคยฉีดสิวตอนนี้ไม่มีแล้ว มีแต่จ่ายหลักแสนไปเลย”
“เปิดมาได้ปีที่สอง มาเจอโควิด”
คลินิก Raparis ของหมอแพรเปิดมาได้เข้าปีที่ 5 แล้ว ก่อนหน้านี้ช่วงเข้าปีที่สอง หมอแพรก็เจอกับโควิดพอดี “มาเจอโควิดก็ดาวน์มากจนต้องไปหาหมอกินยา เครียดมาก ก็ไม่รู้ว่าผ่านมาได้ยังไงนะ คงอดทนอย่างเดียว เชื่อแค่ว่า ถ้าหลังโควิด เราจะหาคืนได้ทั้งหมดเลย” สถานการณ์โควิดไม่ธรรมดาสำหรับใครทั้งนั้น หมอแพก็เช่นกัน เธอเป็นหนี้เยอะมาก ถึงขั้นมีหมายศาลมาติดที่หน้าบ้าน “ไม่มีใครรู้ว่าเราผ่านมาด้วยความยากลำบากขนาดไหน เพราะเรายังพยายามหาเงินซัพพอร์ตให้พนักงานของเราตามปกติ จ่ายค่าเทอมให้ลูกพนักงาน ผ่อนรถให้เขาด้วย เราบอกพนักงานว่าถ้ามีอะไรรับไม่ไหวให้บอกเรา เพราะเราอดทนมากกว่าเขา”
“ความอดทน ทำให้เธอผ่านมาได้ในที่สุด”
ฟ้าหลังฝนมีจริง ตอนนี้ครอบครัวและหมอแพรเข้าใจกันเป็นอันดีแล้ว และเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ยอดขายที่คลีนิกของหมอแพรเพิ่มขึ้นมา 3 เท่าตัว คนไข้ของเธอกลับมาหาเธอกันด้วยเหตุผลว่า “กลัวเธอเจ๊ง” หมอแพรบอกว่าอยู่ได้ด้วยกำลังใจจากลูกค้านี่ล่ะ “ลูกค้าบางคนจ่ายเงินให้เราไว้ก่อนเลย ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เราก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ลูกค้าเขาไม่อยากให้เราเจ๊ง นี่เลยเป็นกำลังใจมากๆ” เพราะสไตล์การทำงานของหมอแพร ลูกค้าทุกคนจะรู้สึกว่าหมอแพรเหมือนเพื่อน เหมือนน้องสาว เธอไม่เคยขาย และมองที่ปัญหาของลูกค้าเป็นหลัก
“สไตล์การรักษาที่ไม่เหมือนใครของหมอแพร ทำให้ใครๆ รักเธอกัน”
ทุกคนเลยที่เคยไปรักษากับหมอแพรจะบอกว่า “หมอแพรเต็มที่มาก แล้วไม่เคยขายอะไร” หมอแพรจะใช้เวลานานๆ อธิบายลูกค้าอย่างมีความสุข แววตา นิ้วมือที่อ่อนโยนของเธอ เธอไม่เคยเหนื่อยที่จะมองหน้าลูกค้า และช่วยหาทางแก้ “ปัญหาที่ลูกค้าคิด สำหรับเรานั่นอาจไม่ใช่ปัญหาของเขานะ บางทีเขาคิดว่าอยากฉีดโบ แต่เรากลับคิดว่าเขาไม่ต้องฉีดก็ได้ ทำอย่างอื่นราคาก็ไม่แพงเท่า แล้วเขาก็สวยขึ้นมาได้เหมือนกัน”
“รูปคนไข้ที่สวยขึ้น คือความสุขของหมอแพร”
สามีของหมอแพรเล่าว่า “วันๆ กลับมาเขาจะมาอวดรูปคนไข้ให้ดู เขาบอกเองเลยว่าเขามีความสุขวันละหลายๆ รอบ” ทุกวันนี้ที่คลินิก Raparis ถ้าใครไป จะได้เจอกับหมอแพร เธอทำให้เองกับมือ และสงสัยอะไรถามเธอได้เสมอ หมอแพรจะใจเย็นจนเราเกรงใจ แต่ลองมองเข้าไปในแววตาผู้หญิงคนนี้ดูสิ อายุสามสิบกว่าๆ แต่เหมือนเธอผ่านโลกมาเยอะมาก และเพราะเธอผ่านมาเยอะหรือเปล่านะ เลยทำให้เธอเข้าใจหัวใจคนอื่นได้ดี จนอยู่กับเธอแล้วเหมือนหมอแพรเป็นน้องสาวที่ในหัวมีแต่จะทำยังไงให้เราสวยขึ้น ก็เลยรักเธอได้ไม่ยากเลย
Review from real user
น้องนิวเองเป็นหนึ่งในหญิงสาวที่เชื่อมือหมอแพร เธอไปทำหน้ากับหมอแพรก่อนวันแต่งงานของเธอ และนี่คือสิ่งที่เธอรีวิวมาเล่าให้ฟังว่า…
รีวิวกู้ผิวพังให้ทันวันถ่ายพรีเวดดิ้ง
ขอย้อนไปเล่าถึงตอนที่ทำบิ้วอินบ้านไปด้วย และเตรียมจัดงานแต่งไปด้วย ช่วงนั้นผิวแห้ง หน้ามีสิวผดเยอะมาก แล้วมารู้ตัวอีกทีตอนที่แบบ รับผิวตัวเองไม่ได้แล้ว นี่หรือผิวคนทำงานบิวตี้ (อ่ะคิดแบบนั้นจริงๆ) คือ หน้าพังมาก ทั้งสิวอักเสบ สิวผด ผิวแห้งรอยแดง และความกร้านเต็มไปหมด ซึ่งอีก 2 วันต้องถ่ายพรีเวดดิ้ง ก็เลยถ่ายรูปตัวเองส่งไปให้คุณหมอแพร ราพาริส คลินิก ขอเล่าถึงคุณหมอแพรนิดนึงว่า เราได้มีโอกาสรู้จัก และช่วยงานคุณหมอก่อนหน้านี้ ก็จะเห็นเวลาคุณหมอดูแล แนะนำเคส และฝีมือในการแก้ปัญหาผิว และใบหน้าต่างๆ ที่ไม่โบ๊ะบ๊ะ ดูเป็นธรรมชาติมากๆๆๆๆๆๆ คือ สวยขึ้นแต่จับไม่ได้อ่ะ ว่าไปทำอะไรมา
.
ว่าแล้วก็ เซลฟี่หน้าสดส่งไปให้หมอแพรดู
นิว : คุณหมอแพร ทำอย่างไรดีคะ พังไม่ไหว
หมอแพร : คุณนิวมาหาแพรเลย แพรจัดการได้
.
ตอนแรกก็คิดว่า อีก 2 วัน ผิวไม่น่าจะฟื้นทัน แต่อย่างน้อยได้จัดการสิวที่ยุบ และไปใช้เมคอัพกลบเอาและกัน ว่าแล้วก็สตาร์รถ ออกจากบ้านทันทีแบบไม่มีเมคอัพใดๆ เรียกว่าพร้อมให้คุณหมอช่วยจัดการ
.
พอเปิดประตูเข้าคลินิกปุ๊บ พนักงานทุกคนเหมือนถูกใส่ชิพทักทายแบบอัตโนมัติ ทุกคนยืน และสวัสดีค่ะ คุณนิวว่านี้มาดูแลผิว ทำทรีทเม้นต์ เลเซอร์ และ Glow Drops นะคะ (เหมือนคุณหมอวิเคราะห์ผิวและแจ้งน้องๆ ไว้แล้ว) แบบเราก็รีบรับไหว้แทบไม่ทัน ซึ่งต้องบอกก่อนว่าเราไปเป็นคิวเสริม ก็ได้นั่งรอคุณหมอ และสังเกตอยู่หลายครั้งว่าไม่ใช่แค่กับเรา แต่กับลูกค้าทุกคน พนักงานที่ราพาริสคลินิก ทักทาย พูดคุย ดูแล และให้เกียรติทุกคนเหมือนเป็นคนพิเศษเท่าเทียมกัน ไม่มีห้อง VIP เพราะทุกคนได้รับการดูแลอย่างดีจริงๆ เราประทับใจตรงเรียกชื่อลูกค้าทุกคนได้ถูกต้อง และจัดคิวเข้าไปพบคุณหมอแบบส่วนตัว ไม่มีเดินสวนให้เอ๊ะอ๊ะ ฉันรู้จักเธอนะ มาทำสวยที่นี่เหมือนกันหรอ คือ ส่วนตัวมากๆ
.
มาถึงเวลาทำสวย คุณหมอก็ให้น้องพลอย พนักงานทรีทเม้นท์มาดูแล ผลักวิตามิน และเติมอาหารผิวให้ผิวชุ่มชื่น ซึ่งขั้นตอนนี้จะได้ผลัดเซลล์ผิวที่ตาย และบำรุงอย่างล้ำลึก หลังทำลูบที่ผิวเหมือนคนมีความหวัง ผิวนุ่มขึ้นมาก รู้สึกมีน้ำใต้ผิว ไม่แห้งเหมือนก่อนเดินเข้ามา เสร็จแล้วก็มาที่น้องเฟิร์น มือ 1 แห่งการกดสิว ได้ช่วยเคลียร์สิวอุดตันทั่วหน้า น้องกดได้แม่น และไม่มีรอยเลย ในส่วนสิวอักเสบ คุณหมอก็ใช้การฉีดเข้าช่วย
.
ยังค่ะ! ยังไม่จบตอนนี้เป็นขั้นตอนที่คุณหมอเข้ามาดูแลด้วยเลเซอร์ IPL และ โปรแกรม Glow Drops ใจตอนนั้นก็กล้าๆ กลัวว่า ว่าจะบวม เป็นรอยไหม เพราะจริงๆ แล้วเราไม่เคยฉีด Glow Drops เลย แต่พอคุณหมออธิบายถึงกระบวนการของยา และวิธีทำงานกับผิว ซึ่งจะเข้าไปช่วยลดเม็ดสีแดง สีดำ หรือรอยต่างๆ พร้อมกับเติมความชึ่มชื่นให้ผิวแล้ว ก็รู้สึกว่าเชื่อใจแบบเอาหน้าไปเลยค่ะ ซึ่งจริงๆ แล้วเราเป็นคนเข้าคลินิกมาหลายที่มากๆ ขอบอกว่าน้อยครั้งที่เห็นคุณหมออธิบายกับเคส ให้ความรู้ได้เยอะขนาดนี้ คือ ให้ข้อมูลจนมั่นใจ เชื่อใจ และเต็มใจที่จะลองในสิ่งที่ไม่เคยทำ
.
พอได้พูดคุยเสร็จ ก็เริ่มเลเซอร์ IPL ซึ่งเรายอมรับว่าไม่ได้คาดหวังกับเครื่องตัวนี้เท่าไหร่ แต่เหมือนเราวิเคราะห์ผิดแหละทุกคน เครื่องขึ้นอยู่กับคนทำ หรือใครเป็นคนยิง ผิวมันฟูขึ้นมากจากเครื่องเบสิคตัวนี้ รู้สึกข้างแก้มผิวใสขึ้น และรอยแดงก็เริ่มจากลง จากนั้นมาย้ำความผิวใสกันต่อด้วย Glow Drops ตัวนี้เด่นเรื่องการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน ตอนฉีดเจ็บนิดๆ ตามจุดที่เข็มลง แต่พอถอนเข็มออกก็แบบหายเจ็บ แต่เป็นระดับความเจ็บที่ทนได้นะ ซึ่งแน่นอนว่าหลังฉีดจะพอเห็นผิวแดงๆ เล็กน้อย ก็เพราะวันนี้ฟื้นฟูผิวครั้งใหญ่
.
สรุปโปรแกรมที่ได้ทำไป เป็นเรื่องของการฟื้นฟูผิวให้ทันวันสำคัญทั้งนั้น ไม่ว่าจะ ทรีทเม้นต์ กดสิว ฉีดสิว เลเซอร์ IPL และ Glow Drops ซึ่งหลังทำกลับบ้านไปตอนเย็น ก็รู้สึกแล้วว่าผิวคนกลับมาแล้ว (คิดแบบนั้นจริงๆ) ยิ่งพอวันรุ่งขึ้น คือ กรี๊ดเลยอ่ะ ผิวดีอะไรดี จากที่ไม่คาดหวัง ตอนนี้กลายเป็นฝากความหวังไว้ที่หมอแพรเรียบร้อย เราไม่ได้รู้สึกว่าการดูแลผิวครั้งนี้จะทำให้ผิวอิ่มฟู แต่งหน้าติด และใช้หน้าได้ทันวันสำคัญเท่านั้น แต่คุณหมอเหมือนฮิลใจเราไปด้วย ช่วยเติมความมั่นใจให้เรารู้สึกว่าวันถ่ายรูปวันนั้นเราสวยมาก
.
มาถึงตรงนี้เราอยากให้ทุกคนลองเปิดใจเรียนรู้วิธีการดูแลผิวแบบเฉพาะบุคคลดู ไม่เอาโปรแกรมของคนอื่นมาเป็นความตั้งใจในการเข้าคลินิก ไม่ว่าจะไปคลินิกไหน คุยกับคุณหมอเยอะ บอกความต้องการของเราให้ชัดเจน และครีเอตโปรแกรมที่เหมาะกับผิว เพื่อแก้ปัญหานั้นๆ จะช่วยให้ผิวสวยตรงตามความต้องการของเรา และการรักษามีประสิทธิภาพมาก หรือลองแวะมาทำทรีทเม้นต์ ดริปวิตามิน ขอคำปรึกษากับคุณหมอแพร ที่ราพาริสคลินิกก่อนก็ได้ค่ะ แล้วเพื่อนๆ จะรู้ว่ามีหมอเป็นเพื่อน ดีกว่าเป็นคนไข้ของหมออย่างไร
Services ของ Laparis
มีตั้งแต่ Acne Clear Treatment ทรีทเมนท์ 5 โปรแกรมสุดฮอตเริ่มจาก Skin Brightening & Whitening Treatment, Dry & Sensitive Treatment, Vitamin Rejuvenation Treatment, Intense Hydrating Facial Treatment, Meso Brightening Treatment, Ulthera และ Ultraformer III, Botox, Filler
ติดต่อ Laparis คลินิกได้ที่:
Tel: 061-748-4422
IG: raparisclinic
อ่านเรื่องราวอื่นๆ ได้ที่ ผิวสวยแบบสาวเกา