เมื่อคำว่า “กตัญญู” คือเครื่องหมายของคนดี แต่ไม่เคยมีใครออกมาบอกว่าถ้าเราโดนคำนี้มาค้ำคอจนไม่มีความสุขจะต้องหาทางออกยังไง ยิ่งถ้าการตอบแทนพ่อแม่นับมูลค่าเป็นตัวเงินที่ให้แบบไม่มีวันหมด ใครไม่เจอก็จะไม่รู้ว่าเจ็บและทุกข์จนเป็นซึมเศร้าได้เลย บางคนบอกว่าอยากฆ่าตัวตายหนีภาระกับการเป็นตู้เอทีเอ็มที่มีลมหายใจ บทเรียนนี้แม้แต่นักแสดงสาวอย่าง “ฮันโซฮี” ยังต้องตัดแม่ออกจากชีวิต
อย่างที่ทุกคนรู้ข่าวว่าแม่ของโซฮี เอาชื่อลูกสาวไปยืมเงินชาวบ้านโดยที่เธอไม่รู้เรื่องเลย และแม่ก็กลับมาเมื่อตอนที่โซฮีโตและเริ่มทำงานในวงการ เพราะตั้งแต่เด็กหลังจากพ่อแม่หย่ากันตั้งแต่ 5 ขวบ คนที่ดูแลเธอมาตลอดก็คือคุณยายที่โซฮีรักมาก และการต้องโตมากับคุณยายทำให้เธอต้องเข้มแข็ง โซฮีเคยทำงานติดต่อกัน 12 ชั่วโมง 6 วันต่อสัปดาห์เพื่อหาเงินเอาไปจ่ายหนี้ให้แม่ แต่แม่หาได้แคร์ไม่ ยังคงเอาชื่อของโซฮีไปใช้จนถึงวันที่โซฮีต้องรวบรวมความกล้าในการออกมาพูดว่าเธอจะไม่รับผิดชอบหนี้ใดๆ ที่แม่ก่อไว้ ในหัวใจของคนเป็นลูก การต้องออกมาป่าวประกาศแบบนี้เรียกว่าความรู้สึกที่ถึงขีดสุด เธอพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ถ้าแม่ไม่หยุด เธอต้องลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิ์ของตัวเองเหมือนกัน
และผลที่ออกมาชาวเน็ตที่เห็นข่าวต่างออกมาเห็นด้วยกับสิ่งที่เธอทำ ความกตัญญูมีขอบเขตที่ควรจะเป็นซึ่งบอกตามตรงว่าการเลี้ยงดูพ่อแม่ เมื่อยามแก่เฒ่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ยิ่งคนที่วัยเด็กพ่อแม่ไม่เคยเลี้ยงดูมา กลับมาทวงสิทธิ์ความเป็นพ่อแม่ และลูกคนนั้นก้าวข้ามผ่านเรื่องในอดีต ยอมเปิดใจช่วยเหลือดูแลตามกำลัง คุณพ่อคุณแม่ควรซาบซึ้งกับความเป็นอภิชาตบุตรของลูกมากๆ ในจุดนี้
ปัญหาความสับสนว่าเราควรเปย์พ่อแม่จนเหนื่อย ไม่มีเงินเก็บต่อไป หรือตัดขาดพวกเขาออกไปเลยดี ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับวัฒนธรรมคนเอเชียที่ให้คุณค่ากับความกตัญญูกตเวทิตามาอันดับแรกๆ แต่วันนี้เราต้องยืดหยัดเพื่อตัดสินใจด้วยตัวเองแล้วว่าวิธีไหนที่เราจะหาทางออกได้ดีที่สุด มีกรณีคนที่เรารู้จัก เธอบอกว่าโอนเงินให้บุพการีจนไม่มีเงินเหลือใช้ส่วนตัว แต่พ่อก็ยังโทรมาขอเงินๆๆๆ วันนั้นเธอรู้สึกอยากเดินออกไปให้รถชน จะได้จบทุกอย่าง เธอตัดสินใจบล็อกเบอร์พ่อ แต่ยังโอนเงินให้ทุกเดือนในจำนวนที่เธอสะดวกใจที่จะให้ เพื่อนคนนี้บอกว่าวิธีนี้สบายใจกว่า มีข่าวทางบ้านอะไรก็อัพเดทผ่านพี่น้องคนอื่นเอา เธอทำดีที่สุดได้เท่านี้จริงๆ ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องเป็นบ้าเอา
นี่ยังไม่นับปมในใจของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่โตมาต้องขาดโรลโมเดลของการเป็นผู้ใหญ่ในบทบาทของพ่อแม่ แล้วเติมเต็มความรักจากปู่ย่าตายาย ความมั่นคงในใจที่เหมือนกับการขาดรากฐานของบ้านที่ไม่ได้ลงเสาเข็ม ดังนั้นเราจะเห็นว่าถ้าไม่ประชดชีวิตไปเลยก็ต้องเก่งและเลี้ยงตัวเองให้ได้อย่างที่โซฮีทำ เธอทำงาน ทำงาน ทำงานจนวันนี้ประสบความสำเร็จในวงการบันเทิงของเกาหลีและดังในต่างประเทศ เธอเป็นตัวอย่างของการมูฟออนที่ทำเพื่อตัวเอง ทั้งๆ ที่เราก็รู้อยู่แก่ใจว่าข้างในต้องอ่อนไหวแค่ไหน
หลายครั้งที่โซฮีเจอดราม่าอย่างมีคนออกมาแฉเธอสูบบุหรี่และสัก แต่เธอก็เอาชนะหลายๆ เรื่องด้วยการนึกถึงความรักที่คุณยายมีต่อเธอ โซฮีโพสต์ถึงคุณยายในรูปที่แคปแชตมาว่าอย่าลืมกินอาหารดีๆ นะ และสิ่งนี้ทำให้เธอกลับมามีพลังอีกครั้งหลังจากเจอวันที่เข้าไปร้องไห้ในห้องน้ำพร้อมกับบอกตัวเองว่าอยากตาย และรอยสักของเธอที่เป็นรูปดอกไม้ประจำวันเกิดของคุณยาย เพราะคุณยายเป็นทุกอย่างในชีวิตของเธอ เธอสักเพราะอยากให้รู้สึกว่าคุณยายอยู่ข้างๆ เสมอ
ในความขาดของชีวิต ก็ยังมีแง่มุมที่สวยงามอีกมากมายซึ่งคนที่จะค้นพบคือตัวเราเอง การทดแทนพระคุณคนก็มีหลายรูปแบบและเรายังเชื่อเสมอว่าความกตัญญูเป็นเรื่องที่ดี แต่ทำแล้วต้องรู้สึกเป็นสุขของคนที่เราให้ อะไรที่มากเกินเบอร์ ขอให้ใช้สติพิจารณาเอาตามที่เหมาะสมดีกว่า