เรื่องที่เกิดขึ้นแต่ละวันไม่ใช่เรื่องของเราเองก็เป็นเรื่องของคนอื่นทำให้เครียด ปวดไมเกรนจนกลายเป็นโรคกังวล แพนิคใจสั่น ทุกสิ่งลงร่างจนฟ้องออกมาเป็นอาการต่างๆ หลายครั้งไม่รู้จะระบายความคิดฟุ้งๆ หนักๆ พวกนี้ตรงไหนดี น้องแอล(กอฮอล์) เลยต้องเป็นเพื่อนยามยาก เพราะเรากลัวเหตุการณ์ในอดีต คิดไม่ตกกับเรื่องในอนาคต ลืมไปว่าตัวเรายังอยู่ตรงนี้และไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น สิ่งที่ใจพาไปนั่นคือจักรวาลมัลติเวิร์สหรือเปล่าก็ไม่รู้
นักวิทยาศาสตร์ด้านนิวโรหรือทางประสาทพบว่าการฝึกให้ตัวเองมีสติหรือการนั่งสมาธิช่วยกระตุ้นสารสื่อประสาทที่ช่วยคลายความเครียดและกังวลลงได้ เรารู้ว่าฟังแค่นี้บางคนก็รู้สึกเบื่อแล้ว นั่งสมาธิแค่หลับตาจะไปช่วยอะไร แต่การเรียกให้ตัวเองอยู่กับปัจจุบันเนี่ย นักวิทยาศาตร์เรียกว่า “brain break” หรือการหยุดความคิดเอาไว้ เพราะเวลาที่เรานั่งสมาธิสารสื่อประสาทในสมองทั้งโดปามีน เซโรโทนินและเมลาโทนินจะเข้ามาควบคุมความกังวลใจต่างๆ ให้ออกไปก่อน ถึงขนาดที่เขาทำการทดลองแล้วพบว่าการมีสติทำให้เราเข้าใจและหาทางอยู่กับโลกนี้ได้อย่างสงบ
มีวิธีการทำสมาธิเรียกให้สติอยู่กับตัวหลายวิธีเลยใน Youtube แต่วิธีที่นักวิทยาศาสตร์แนะนำให้คุณลองดูตามขั้นตอนนี้
- หาที่เงียบๆ นั่งหลับตา
- รู้สึกว่าตัวเราอยู่ตรงนี้นั่งบนเก้าอี้ตัวนี้
- รับรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น กำลังมีเสียง มีความคิด มีความรู้สึกอะไรเกิดขึ้น
- บอกตัวเองว่าโลกก็ยังหมุนไป ทุกอย่างยังโอเค ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเกิดขึ้น
- หายใจเข้า หายใจออกลึกๆ
- ถ้าความคิดเตลิดอยู่ก็กลับมาที่ลมหายใจ พูดกับตัวเองในใจว่าตัวเราอยู่ตรงนี้ เรายอมรับโมเมนท์นี้ที่เราอยู่
พอใจเริ่มจะนิ่งค่อยๆ ลืมตา ซึ่งขอบอกเลยว่าทำครั้งเดียวอาจจะยังไม่หาย ต้องฝึกไปเรื่อยๆ ให้ตัวเองอยู่กับปัจจุบัน เบรคความคิดแล้วใช้ชีวิตอยู่กับวินาทีนี้ คุณจะเครียดและกังวลในเวลาที่น้อยลงกว่าเดิม