หนึ่งในสาเหตุต้นๆ ที่ทำให้คนทำงานไม่โดดเด่นก็คือ “ความมั่นใจ” ความรู้สึกเชื่อในตัวเอง เชื่อในสิ่งที่ทำ กล้าคิด กล้าแสดงความเห็น และกล้ายอมรับนี่ล่ะ จะทำให้ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะไม่มีงานทำ
อะไรคือความหมายของคำว่า “ความมั่นใจ” ในที่ทำงาน?
บอกเลยว่ามีสองสิ่งด้วยกันก็คือ 1. ความรู้สึกเชื่อในความสามารถของเรา และ 2. ความมั่นใจในความสามารถของคนอื่น ว่าเราจะไว้ใจเขาได้ อย่างเช่น เรามั่นใจว่าหัวหน้าจะสนับสนุนเราแน่นอน เรามั่นใจว่าบริษัทจะมีมโนธรรมพอที่จะไม่ถือหางคนทำงานผิดๆ
ความหมายทั้งสองความหมายสำคัญเลยก็เพราะ…
ถ้าเราขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง สุดท้ายแล้วเราจะมีแอตติจูดที่ไม่ดี และแอตติจูดจะไปกระทบกับผลงานของเรา ก็ทำให้เราทำงานไปแบบขอไปทีบ้าง อยู่ให้เป็นบ้าง เฉาๆ ไปในที่สุด และไม่มีทางจะได้โปรโมทหรือก้าวหน้าใดๆ ถ้าสังเกตคนทำงานรอบๆ ตัวเราดีๆ ในที่ประชุมหนึ่งอาจมีคนออกความเห็นเพียงสองสามคน หรือในแผนกของเรา เอาจริงๆ มีคนที่เราไว้ใจว่าเขาจะทำงานให้สำเร็จได้ อาจจะมีเพียงคนเดียว คิดแบบนี้ก็จะรู้สึกท้อๆ นะ และหมดพลังทำงานไปซะอย่างนั้น
คนทำงานหมดความมั่นใจ เป็นเรื่องปกติธรรมดานะ
เป็นกันทั่วไปเลย จากผลงานวิจัยในปี 2019 บอกไว้ว่าผู้หญิง 79% และผู้ชาย 62% จะไม่ค่อยมีความมั่นใจในที่ทำงาน สิ่งนี้อาจเป็นแค่ชั่วคราวหรือก็อาจจะกลายเป็นคนที่เป็น “โรครู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า” โรคนี้ล่ะคืออาการหนึ่งของคนที่มีความมั่นใจในตัวเองต่ำ เห็นคุณค่าของตัวเองต่ำอะไรแบบนี้ และอาการนี้ก็ดูจะแพร่ไปในคนอายุยังน้อยมากขึ้นเรื่อยๆ ที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ ไม่มีความมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำ มาดูกันว่าแล้วอะไรคือสิ่งที่บอกได้ว่าคุณกำลังมีความมั่นใจต่ำอยู่
7 พฤติกรรมที่กำลังบอกว่า ขาดความมั่นใจในที่ทำงานอาจรั้งความก้าวหน้าคุณอยู่นะ
กับดักเงียบที่คุณไม่รู้ตัวคือการขาดความมั่นใจที่จะส่งผลทั้งทางอารมณ์ และการแสดงออกของคุณได้เลย มากไปกว่านั้นคุณอาจไม่คิดว่าคุณเป็นนี่ล่ะ เพราะอะไรแบบนี้มักจะมาเล่นงานคุณเงียบๆ อยากให้ลองสังเกตตัวเองไว้ ว่าคุณเป็นแบบ 7 ข้อนี้หรือเปล่า?
1. คุณแอบเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
คุณมักเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นเสมอๆ และพอเป็นแบบนั้นมากๆ เข้ามันทำให้คุณลดคุณค่าของตัวเองไปเลย หรือคุณกลายเป็นคนดีแต่พูด แต่ทำไม่ได้ และทำให้ดูเป็นคนขี้อิจฉา มองโลกแง่ร้าย ไม่เปิดกว้าง ทั้งหมดคือไปขัดขวางศักยภาพที่จะเบ่งบานได้ของคุณนั่นล่ะ
2. คุณมักไม่กล้าที่จะบอกกล่าวอะไรใคร
เคยเป็นมั้ยที่หัวหน้าให้ทำงานนี้ แทนที่จะทำไปตรงๆ คุณกลับต้องอ้อมไปถามคนอื่นก่อน หรือถ้าคนอื่นทำให้ไปเลยก็คงจะดี นั่นคือลึกๆ คุณกำลังกลัว กำลังไม่มั่นใจ และถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ คุณก็จะไม่มีประสบการณ์ ไม่มีการเรียนรู้เกิดขึ้นนั่นเอง
3. คุณมักเอาเรื่องภายนอกมาเป็นตัววัดสิ่งต่างๆ
แทนที่จะวัดคนที่ผลงาน วัดคนที่แก่น คุณกลับเอาเหตุผลภายนอกมาเป็นตัวให้คำตอบ เช่น ที่เพื่อนคนนั้นทำผลงานชิ้นนั้นได้ดี ก็เป็นเพราะหัวหน้ารักเขา หรือ คุณคิดว่าตัวเองคงทำไม่ได้หรอก เพราะโชคไม่ดีเหมือนคนอื่นอะไรแบบนี้
4. คุณลังเลที่จะรับความรับผิดชอบใหม่ๆ
สิ่งแรกที่คุณรู้สึกเมื่อมีความรับผิดชอบใหม่ๆ เข้ามาก็คือ แอบบ่นในใจ แอบสงสัยในตัวเอง และแทนที่จะมองว่าเป็นโอกาสใหม่ๆ ให้ชีวิต คุณกลับมองว่าเป็นเรื่องที่หนักเกินไปแทน จะบอกว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่ขัดกับโอกาสที่จะก้าวหน้าของคุณมากๆ ไม่มีใครได้ดีจริง ถ้าไม่ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ และต้องสู้กันสักตั้งเท่านั้น ถึงจะเห็นผลว่าทุกสิ่งคุณสร้างได้จากศักยภาพของตัวคุณเอง
5. คุณกลัวที่จะตัดสินใจ
คุณเป็นคนยังไม่อยากคิด ไม่อยากตัดสินใจเรื่องยากๆ ในตอนนั้น ก็มักผัดวันประกันพรุ่งไปก่อน หรือบ่นไปก่อน กังวลถึงอุปสรรคไปก่อน ลองดูนะว่าคุณเป็นคนที่คิดแต่ความยาก ก่อนคิดถึงความเป็นไปได้ก่อนลงมือทำอะไรมั้ย ถ้าใช่นั่นก็คืออาการขาดความมั่นใจที่เป็นภัยกับคุณแล้วล่ะ
6. คุณมักจะมีปัญหาเวลามีอะไรเข้ามา ว่าจะทำทันมั้ย?
เพราะความไม่มั่นใจมันเอ่อให้คุณลังเลสงสัยในตัวเองตลอดเวลา เวลามีอะไรรุมเข้ามา คุณเลยมักจะรู้สึกทรมานตลอด จะต้องพยายามคิดวิเคราะห์ก่อนทำตลอด และนั่นก็ทำให้ยิ่งลน จนกลัวว่าจะเสร็จไม่ทันด้วยน่ะสิ
7. คุณรู้สึกว่ามันช่างยากจัง ที่จะประเมินคนอื่นและงานของเขา
คุณไม่ถนัดเรื่องให้ฟีดแบ็คกับคนอื่นๆ เลย ถ้าบริษัทมีแบบประเมินผลมาให้คุณประเมินทีมงาน ประเมินเพื่อนร่วมงาน หรือประเมินงานที่ทำไป คุณจะรู้สึกลังเล ตัดสินใจไม่ถูกมากๆ นั่นก็อาจเป็นเพราะคุณกลัวจะทำให้เขาดูไม่ดี หรือไม่มั่นใจในการตัดสินใจของตัวเองเลยก็ได้
ทั้ง 7 ข้อนี้ก็อาจเป็นเหตุผลให้คุณไม่โดดเด่นในที่ทำงานสักที เหนือกว่านั้นคือมันจะไปลดไฟในตัวคุณ และความกระตือรือร้นในการทำงาน เรียกว่าทำงานไม่สนุกเอาเลยได้ ลองมาดูกันว่าเป็นเพราะอะไรที่คุณถึงขาดความมั่นใจได้แบบนั้น
เหตุผลมีมากมายเลย อาจเป็นเพราะตั้งแต่เด็กคุณอาจถูกใครเบรกเวลาออกความเห็น หรือได้รับการทรีทที่ไม่เท่าเทียมกันทั้งตั้งแต่ตอนเรียน จนมาถึงตอนทำงาน หรือมักจะไม่ค่อยมีใครสนใจจะฟังสิ่งที่คุณพูดเอาเลย
อาจเป็นไปได้ที่คุณเป็นคนเครียดง่ายด้วย อะไรมากระทบก็จะเซนซิทีฟ หรือระบบการจัดการในความคิดของคุณยังไม่ดีพอ ยังลำดับความสำคัญต่างๆ ไม่ค่อยได้ หรือหัวหน้าไม่เป็นธรรมกับคุณ หรือถูกว่ากล่าวในที่ประชุมต่อหน้าคนอื่นๆ หรือไม่ว่าจะทำอะไร ก็ไม่เคยมีใครเห็นคุณค่าคุณสักที เลยท้อและวันหนึ่งอาจหมดความมั่นใจ
ถ้าเป็นแบบนี้ก็อาจต้องหาทางจัดการตัวเองเลยนะ เพราะผ่านไปสองปี สามปี สิบปี จะมีผลกับคุณระยะยาวได้มากๆ ที่ยิ่งอายุมากก็ไม่ก้าวหน้าไปไหน และมีคำถามสงสัยในตัวเองและสิ่งรอบตัวตลอด อย่าให้หัวใจอันสดๆ และไฟในตัวมอดเพราะความสงสัยในตัวเองเลย ลองดูนะว่าจะค่อยๆ แก้ยังไง และฮึบเอาให้เราต้องมั่นใจในตัวเองขึ้นให้ได้ ทั้งหมดก็เพื่อความสุขในระยะยาวของเรานี่เลย
อ่านเรื่องราวอื่นๆ ต่อได้ที่ ทำงานที่ชอบและมีความสุข