11 ไอเดีย “Solo Date” กับตัวเองสวยๆ สองอาทิตย์สุดท้ายของปี!

อากาศหนาวของปีอันเหมาะกับการออกเดทที่สุดกำลังจะหมดไป คนโสดและสวยอย่างฉัน จึงต้องลงมือจัด “Solo Date” คูลๆ ให้ตัวเอง ถือว่าเป็นที่สุดแห่งช่วงเวลา self-care แห่งปี ที่ฉันจะทำแบบนี้ล่ะ!!! ใครเขาจะไปกับใครเราไม่สน เพราะเรามีเรา และเรามีไอเดียรับอากาศหนาวช่วงสุดท้ายของปีที่เริ่ด! เก็บเงินมาทั้งปีขอเปย์ให้ตัวเองแน่นๆ แบบนี้เลยนะ รับรองว่าจะมีความสุขเลยปีจนลืมไปเลยว่าเราโสด เอ๊ะ! หรือโสดแบบนี้ก็ดีจะตาย อั้นมานานละซาลมอนแพงๆ ในซูเปอร์มาร์เก็ต โรยด้วยเคเปอร์ ท็อปอัพด้วยไวน์ขาวเย็นๆ เอามากริลล์ราดซอสไวน์ขาวกับดิลล์ ของหวานอยากกินมานาน ทำเองซะเลยฟรุ้ตเค้กผลไม้แห้งมากมาย แล้วจัดให้ตัวเองใต้แสงเทียนกับหนังรอมคอมที่เรารัก โอ๊ยยย ฟินมากๆๆๆ ตื่นเช้ามาก็มอบช็อคโกแลตแพงๆ เช่นเดียวกันให้ตัวเอง กินคู่โกโก้ร้อนรับแดดยามเช้า แล้วทุกสิ่งต้องสวยงามเข้ากับคนสวยๆ อย่างฉัน! 2. Staycation แล้วแช่บาธให้สะใจ อย่างแรกคือต้องหาโรงแรมจองห้องพักให้ตัวเอง จะในเมืองหรือจังหวัดใกล้ๆ ขอที่ดูดาวชัดๆ อากาศเย็นๆ มีระเบียงแสงอาทิตย์สอง กับบาธอุ่นๆ ที่โฟม บาธฟูฟ่องฝันๆ ไวน์แดงสักแก้ว นอนมาสก์หน้าไปด้วย ฟังเพลงที่พาใจย้วยๆ จินตนาการความรู้สึกรักตัวเองแน่นๆ เลยนะ อะไรแบบนี้จะทำให้เราผ่อนคลายและรื่นรมย์ที่สุด แนะนำโรงแรมนี้เลย https://grandecentrepointratchadamri.com/ 3. เอาหนังสือไปอ่านในคาเฟ่หรือห้องสมุด […]

8 นิสัยที่ต้องแก้ด่วนของสาวผิวแห้งขาดน้ำไม่ไหว! คลีโอจัดเต็มความชุ่มชื้นที่ได้รางวัลแห่งปี

มีงานวิจัยบอกเอาไว้ว่าพฤติกรรมที่ทำซ้ำๆ เกิน 21 ครั้งจะทำให้กลายเป็นนิสัย และถ้านิสัยเหล่านั้นทำให้ผิวแห้งเกิดเป็นปัญหาริ้วรอย แต่งหน้าไม่ติดทน หน้าโทรมไม่สดใส ยังไงก็ต้องรีบแก้! คลีโอขอรวม 8 เช็คลิสต์ที่เปลี่ยนให้ผิวชุ่มชื่นดูสุขภาพดีขึ้นในเวลาไม่นาน ปรับแล้วเห็นผลแน่นอน

คลีโอเจาะลึกสารสกัด & นวัตกรรมที่ Riviera Suisse คิดค้นเพื่อผิวที่มีปัญหาริ้วรอย หย่อนคล้อยและหมองคล้ำ

บางครั้งปัญหาผิวซับซ้อนกว่าที่คิด การดูแลอาจจะแก้แค่ปัญหาเดียวคงไม่ได้ ทั้งริ้วรอย หน้าไม่กระชับ มีจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ปีนี้คลีโอได้มีโอกาสไปเห็นถึงที่มาส่วนผสมของผลิตภัณฑ์สกินแคร์ Riviera Suisse ว่ามาจากธรรมชาติในป่าลึก และได้ลองใช้ในหลายๆ ไลน์โปรดักท์ รู้สึกว่าเห็นผลกับผิวคนเอเชียได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาผิวที่มีริ้วรอย หน้าหย่อนคล้อย ต้องยอมรับเลยว่าการค้นหาส่วนผสมที่เป็นเอกสิทธิ์กว่า 20 ชนิด บวกกับประสบการณ์ในด้านการผลิตยามากว่า 100 ปี ทำให้เราเห็นถึงความตั้งใจที่จะดูแลผิวให้ผู้หญิงทุกคนจริงๆ




Health

ง่วงนอนตอนบ่าย ไม่ใช่แค่ความง่วง แต่อาการนี้น่ากลัวกว่าที่คิด

ง่วงตอนบ่าย

มีใครเป็นบ้าง พอพักกลางวันปุ๊บ กินข้าวเสร็จก็เริ่มหนังท้องตึงหนังตาหย่อน ผงกหัวจนตัวเริ่มจะค่อยๆ ไหลไปกับโต๊ะคอม หรือบางทีพิมพ์งานอยู่แต่มือเริ่มพิมพ์ง่วง ตาปรืกจนกาแฟต้องเข้า อาการง่วงตอนกลางวันแบบนี้ดูเหมือนเป็นแค่ความง่วงที่บางครั้งก็มาพร้อมความขี้เกียจ ตอนกลางวันที่ช่างง่วงแสนจะง่วงจนเราแทบจะขอยอมแพ้ ลองมาทุกอย่างแล้ว กินกาแฟ ลุกไปล้างหน้า แต่ก็ยังง่วงอยู่ดี สรุปแล้วอาการ ง่วงนอนตอนบ่าย สาเหตุมันเกิดจากอะไรกันแน่ จริงๆ แล้วอาการง่วงตอนกลางวันมีอะไรที่น่ากลัวและควรระมัดระวังมากกว่านั้นนะ

ง่วงนอนตอนบ่าย

สาเหตุของการ ง่วงนอนตอนบ่าย

ที่จริงมันมีหลายสาเหตุมากๆ ที่ทำให้เรารู้สึกหมดพลังในช่วงบ่าย แถมยังง่วงแบบขึ้นตรงสู่สวรรค์ไปเฝ้าพระอินทร์ สาเหตุแรกคือกลไกของร่างกายและจังหวะการเต้นของหัวใจ โดยปกติร่างกายของคนเราจะมมีนาฬิกาชีวิตหรือ circadian rhythm ที่ทำให้เรารู้สึกตื่นตัวและเหนื่อยล้าตลอด 24 ชั่วโมง รวมไปถึงความตื่นตัวที่ลดลงในช่วงบ่าย โดยเฉพาะระหว่างเวลบ่ายโมงถึงบ่ายสี่ ทำให้เราง่วงนอนง่ายมากขึ้น แต่จริงๆ แล้วมันมีสาเหตุมากกว่านั้นนะ 

  1. นอนหลับไม่เพียงพอ: หากนอนน้อยเป็นประจำ ก็อาจจะทำให้ในช่วงบ่ายของเรานั้นตื่นตัวน้อยลง ไม่แอคทีฟเท่าที่ควร 
  2. ความเครียดที่มากเกินไป: เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเครียด ฮอร์โมนที่เรียกว่าคอร์ติซอลจะทำงานล่วงเวลา ทำให้คุณรู้สึกหมดแรง 
  3. การรับประทานอาหารที่ไม่ดี: อาหารเช้าหรืออาหารกลางวันที่อุดมไปด้วยอาหารแปรรูปที่มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลสูงอาจทำให้ระดับพลังงานพุ่งสูงขึ้นและลดลงอย่างรวดเร็ว การลดลงนี้ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยหลังจากทานอาหารเสร็จไม่นาน
  4. ร่างกายขาดน้ำ: งานวิจัยบอกว่า แม้ภาวะขาดน้ำเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เซลล์ในร่างกายหดตัว รวมทั้งเซลล์สมองด้วย ซึ่งอาจส่งผลให้เหนื่อยล้า ความจำระยะสั้นลดลง ปวดหัว และมีสมาธิไม่ดี ทำให้ง่วงนอนระหว่างวันได้

อาการที่มากกว่าความง่วง

  1. เหนื่อยล้า: เรียกว่าเป็นอาการอันดับ 1 ของความง่วงในตอนกลางวัน ยิ่งง่วงก็ยิ่งเหนื่อย และอาจทำให้โฟกัสได้ยาก ซึ่งอาการนี้ก็มักจะมาพร้อมกับความต้องการการนอนหลับแบบสุดๆ พร้อมวิ่งเข้าหาเตียงตลอดเวลา
  2. อารมณ์แปรปรวน: การรู้สึกเหนื่อยจากการทำงานสามารถบั่นทอนอารมณ์ของใครก็ได้ มีความเกี่ยวพันกันระหว่างการอดนอนกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ดังนั้นเมื่อคุณพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็อาจทำให้ความง่วงในยามบ่ายของคุณแย่ลงด้วยการเพิ่มความโกรธและความก้าวร้าวแบบไม่รู้ตัว
  3. ความอยากอาหารแบบไม่มีสาเหตุ: จากการศึกษาพบว่าการอดนอนทำให้คนอยากอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง และมีแคลอรีสูง โดยเฉพาะของขบเคี้ยว และน้ำหวาน ชานมไข่มุก ช็อกโกแลต ทำให้คุณประสบกับภาวะน้ำตาลตกอย่างรวดเร็วซึ่งอาจทำให้คุณรู้สึกหมดแรงมากกว่าเดิม
  4. มีอาการเครียด: การเครียดจากการทำงานอาจส่งผลต่อความสามารถของร่างกายในการตื่นตัวและสดชื่น สิ่งนี้อาจส่งผลเสียต่อการนอนหลับตอนกลางคืนของคุณ
  5. อาการปวดหัว: ความเหนื่อยล้าอาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะและไมเกรนได้ในบางคน ในการศึกษาผู้ป่วยไมเกรนจำนวนมาก ครึ่งหนึ่งกล่าวว่าการนอนไม่หลับมีส่วนทำให้เกิดไมเกรน
  6. ปวดท้อง: การนอนหลับไม่เพียงพออาจทำให้เกิดการรบกวนระบบทางเดินอาหาร เช่น ปวดท้อง ท้องผูก อาหารไม่ย่อย และท้องร่วง
  7. หาวบ่อยๆ: หากคุณรู้สึกว่าตัวเองหาวทุกๆ ห้านาที คุณอาจกำลังประสบกับความง่วงในตอนบ่ายอยู่ก็ได้
  8. มองเห็นอะไรไม่ค่อยชัด: เมื่อคุณรู้สึกเหนื่อย ตาของคุณอาจกระตุกหรือกระตุก ความไวต่อแสงและการมองเห็นที่ไม่ชัดที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้เกิดปัญหาสายตาได้เมื่อคุณนอนหลับไม่เพียงพอ

ต่อสู้กับความง่วง

ยากหน่อยแต่ใจต้องสู้นะ

  1. นอนหลับให้เพียงพอ: เป็นอะไรที่ซิมเปิ้ลและตรงจุดที่สุด แต่ทำยากที่สุด เมื่อคุณนอนหลับได้ดีขึ้นในเวลากลางคืน คุณมีแนวโน้มที่จะตื่นตัวมากขึ้นในระหว่างวันแบบอัตโนมัติ
  2. ออกไปข้างนอกบ่อยขึ้น: ลองออกไปข้างนอก อยู่กับธรรมชาติ สัมผัสกับแสงแดดอย่างน้อย 10 นาทีจะช่วยเพิ่มการผลิตวิตามินดี เพราะจริงๆ แล้วการที่พลังงานในร่างกายเราต่ำนั้นก็เป็นอาการทั่วไปของการขาดวิตามินดี รวมไปถึงแสงไฟที่สว่างจ้า เช่น แสงจากดวงอาทิตย์ ก็สามารถเพิ่มความตื่นตัวได้ 
  3. กินอาหารที่ดีมีประโยชน์: ยิ่งเรากินมื้อเที่ยงที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงก็ยิ่งทำให้เกิดความง่วง เพราะฉะนั้นควรเลือกรับประทานอาหารกลางวันที่สมดุลด้วยผลไม้ ผัก ธัญพืชไม่ขัดสี และไฟเบอร์เพื่อเพิ่มพลังงาน
  4. งีบหลับ 15-30 นาที: การงีบหลับสั้นๆ เป็นเวลา 15 ถึง 30 นาที สามารถช่วยลดอาการง่วงนอน เพิ่มการจดจำ และทำให้คุณตื่นตัวและตอบสนองมากขึ้น แต่ห้ามเผลอหลับนานเป็นชั่วโมงนะ เพราะการงีบหลับนานอาจทำให้คุณเหนื่อยมากขึ้น
  5. ออกกำลังกาย: เป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการเพิ่มพลังงาน การได้รับเลือดและการสูบฉีดออกซิเจนทำให้เรามีแรงฮึดในการทำงานต่อไป แต่ถ้าหากเราไม่มีเวลาออกกำลังกายให้เต็มที่  ให้ลองเดินไปรอบๆ หรือยืดกล้ามเนื้อเพื่อให้เลือดไหลเวียนมากขึ้น
  6. เคี้ยวหมากฝรั่ง: เป็นวิธีที่แปลกหน่อยแต่ได้ผลจริง เพราะการเคี้ยวหมากฝรั่งเพียงเล็กน้อยอาจเพิ่มความตื่นตัวได้จริงๆ

อ่านเรื่องราวอื่นๆ ได้ที่ CLEO Thailand และ FB > CLEO

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']