จากผู้หญิงที่ไม่ดื่มคาเฟอีน สู่เจ้าของร้านคาเฟ่มัทฉะ “Chaseki” ที่มีสาขาทั้งกรุงเทพฯ และ เชียงใหม่ นอกจากนี้เธอยังเป็นอาจารย์สอนชงชาที่ได้สอนนักเรียนทั่วประเทศไทยไปเกือบ 500 คน!
เธอกล่าวว่า “Passion คือจุดเริ่มต้นในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และเราจะทำสิ่งนั้นได้นาน เพราะเราชอบและหลงใหลมัน แต่การทำธุรกิจมีเพียง Passion ไม่ได้เลย ธุรกิจจะอยู่ไม่รอด เราต้องมีทุน มีความรู้ด้านการบริหารจัดการ การตลาดและการขายเป็นสิ่งสำคัญมากๆ รวมถึงการเงินและการบัญชีด้วย ถึงจะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ และอยู่ได้ยั่งยืน”
จิณห์จุฑา เกรเซอ หรือ เจเจ ก่อนที่จะเปิดร้านเธอเป็นคนที่ไม่ดื่มคาเฟอีนเลยจนได้พบกับคนรัก คุณทอม เกรเซอ ผู้ที่เริ่มดื่มชาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ จึงทำให้ค้นพบว่ามัทฉะ ชาเขียวญี่ปุ่นไม่เหมือนชาที่ใดในโลก ให้ความสดชื่น ไม่ง่วง รสชาติเฟรช อูมามิ หวานอร่อย และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ จนเกิดเป็นคาเฟ่ “Chasekiขึ้นมา ซึ่ง Cha หมายถึงชา Seki หมายถึง ห้อง ดังนั้น Chasekiจึงหมายถึง ห้องชา หรือ Tea Room นั่นเอง ซึ่งบรรยากาศร้านโคซี่ และได้กลิ่นอายความญี่ปุ่น
ย้อนกลับไปเมื่อ 7 ปีที่แล้วทั้งคุณทอม และ เจเจ ได้พบที่ จ. พังงา เลยทำให้ได้รู้จักกัน “ตอนนั้นคุณทอมก็ยังอยากทานมัทฉะ แต่หามัทฉะดีๆ ทานยากมากในไทยตอนนั้น ไปกรุงเทพเมื่อไหร่ถึงจะได้ทาน คุณทอมเลยต้องสั่งจากญี่ปุ่นมา เพราะอยากทานทุกวัน แรกๆ การส่งชามาไทยก็ไม่มีปัญหา พอสั่งทุกเดือน ก็เริ่มโดนเรียกเก็บภาษี เฉพาะค่าชาก็แพงแล้ว ยังต้องเสียภาษีอีก 4-5 พันบาทต่อครั้ง มันก็เป็นปัญหาใหญ่นะคะ สำหรับคนที่ติดชาแล้วอยากดื่มทุกวัน” เธอเล่า
ต่อมาทั้งคู่จึงตัดสินใจลาออกจากงานและย้ายมาอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ เธอเล่าว่ามัทฉะที่ขายเกรดพิธีดีๆ ยังไม่มีในเชียงใหม่ในตอนนั้น และด้วยความที่อยากให้คนเชียงใหม่และคนไทยได้รู้จักมัทฉะเกรดพิธีที่มีในญี่ปุ่นมากขึ้น จึงหาโลเคชั่นเพื่อเปิดร้าน “พอได้โลเคชั่น เราก็บินไปญี่ปุ่นเลยเพื่อหาซื้อมัทฉะเพื่อมาใช้ที่ร้าน และไปเรียน Work Shop เกี่ยวกับชาเขียวที่เมือง Uji, Kyoto ประเทศญี่ปุ่น” จนเกิดเป็นร้านชาเซกิ ขึ้นมา ซึ่งบอกเลยว่าชาที่ร้านเขาพรีเมียม และมีความละเมียดละไมมาก ทุกตัวมาจากไร่ Shogyokuen ซึ่งเป็นไร่เก่าแก่ดั้งเดิม และเป็นไร่ที่ได้รางวัลไร่นึงที่มีชื่อเสียงของเมือง Uji ผลิตมัทฉะเกรดพิธีคุณภาพสูง ให้กับนักบวชนิกายเซน ราชวงศ์ญี่ปุ่น และชนชั้นสูงของญี่ปุ่น ซึ่งชาจากไร่นี้ มีจุดเด่นคือรสชาติเข้มข้น อูมามิ นุ่มละมุน ขมฝาดน้อย เหมาะสำหรับทานเพียว Usucha, Koicha หรือ ลาเต้แบบที่คนไทยชอบ นอกจากนี้ที่ร้านชาเซกิยังมี เบเกอรี่ที่มีส่วนผสมของมัทฉะ เช่น Matcha Cheesecake, Matcha White Chocolate Cheesecake, Matcha Roll, Matcha Banoffee ซึ่งขนมแต่ละอย่างมีการคิดค้นสูตรขึ้นมาเองอีกด้วย
สำหรับมือใหม่หัดดื่ม matcha แนะนำตัวไหนดี?
- คอชามือใหม่ ที่ยังติดรสขมเข้ม แบบร้านทั่วไป จะแนะนำ Yabukita Cold Whisk
- คอชาที่ชอบรสสาหร่าย ทานง่าย แนะนำ Izumi Matcha Latte Signature
- ใครไม่ชอบรสขม แต่ชอบรสนัวอูมามิ ก็ต้องลอง Toyo Mukashi Matcha Latte
พูดถึง เมนู Signature ของทางร้าน “ที่ขายดีก็จะเป็น Toyo Mukashi Matcha Latte ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของร้าน คุณทอมเป็นผู้คิดค้น และเมนู Chaseki Blend Cold Whisk ลาเต้สูตรเข้มข้น เป็นสูตรที่เจเจคิดค้นเองค่ะ และเมนูขนมที่ลูกค้าชื่นชอบคือ Matcha Cheesecake และ Strawberry Daifuku”
นอกจากนี้ในช่วง COVID 19 คนส่วนมากจะ Work from home หรือหลายๆ คนที่ตกงาน และอยากหาอะไรทำ จึงมีหลายคนติดต่อเธอมา “มีลูกค้าติดต่อเข้ามาว่าอยากเรียนเวิร์คช็อปชงชากับเราเยอะมาก เราจึงทำคอร์ส Matcha Workshop คอร์สที่เราสอนจากความรู้และประสบการณ์จากการทำร้านของเราเอง” รวมแล้วเจเจสอนนักเรียนทั่วประเทศไทยไปเกือบ 500 คน สร้างงานสร้างอาชีพ ให้ความรู้กับนักเรียน นำไปต่อยอดและเปิดคาเฟ่เป็นของตัวเองทั่วประเทศไทย ทำให้ร้านเป็นที่รู้จักแพร่หลายในวงการชาเขียว นอกจากนี้ทางร้านยังเป็น Supplier จำหน่ายผงมัทฉะ และชาเขียว อุปกรณ์ชงชาให้กับคาเฟ่ทั่วไทยอีกด้วย
เธอเล่าว่าสิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการเปิดร้านมัทฉะ คือการทำยังไงให้อร่อย เพราะมัทฉะมีหลายไร่ หลายสายพันธุ์มาก ทำยังไงจะสามารถดึงรสมัทฉะออกมาให้ชัดเจน อร่อยถูกปากคนไทยมากที่สุด ซึ่งจากการที่เราได้ลิ้มลองมัทฉะของที่นี่แล้วบอกเลยว่าเริ่ด! ดื่มง่าย ในเมนูจะมี taste note ของมัทฉะแต่ละตัวอยู่ และที่ชอบอีกเมนูคือ Matcha Cheesecake เนื้อเนียน ละมุนลิ้น กินคู่กับเครื่องดื่มมัทฉะคือเข้ากันสุดๆ
ฝากถึงผู้หญิงที่อยากเปิดร้านหรือธุรกิจเป็นของตนเองแต่มีความกังวล
“ผู้หญิงเก่งไม่แพ้ผู้ชายเลย อย่างร้านชาเซกิ การดูแลเรื่องสินค้า การตลาด การขาย มาจากความรู้ของคุณทอม แต่เรื่องการบริหารจัดการภายใน บริหารพนักงาน การบริการลูกค้าของพนักงาน สอนสูตรการชง การดูแลลูกค้า ดูแล สต็อกวัตถุดิบ แอดมิน การขายต่างๆ เจเจเป็นผู้จัดการทั้งหมด”
ดังนั้นหากเรามีความชอบ รักในสิ่งที่เราทำ รักการบริการ การเปิดร้านหรือทำธุรกิจไม่ได้เป็นเรื่องยากสำหรับผู้หญิงเลย ขอเพียงเราศึกษา หาความรู้จากผู้ที่มีประสบการณ์ เจเจแนะนำว่า “หากเราอยากเปิดธุรกิจหรือชอบอะไร ให้เราเอาตัวไปทำงานเป็นพนักงานในธุรกิจนั้น อย่างน้อย 1-2 ปี เพื่อให้ได้ความรู้ว่าเขาทำยังไง ระบบเขาเป็นอย่างไร เมื่อเราเปิดของเราเอง จะลดความเสี่ยงลงเยอะมากๆ และช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วจากประสบการณ์ที่ได้จากการทำงานที่อื่นค่ะ”
ร้าน Chaseki
สาขาเชียงใหม่
- Facebook: Chaseki
- GPS: https://goo.gl/maps/EtFETZQYD8jqKenC6
- เปิด – ปิด: 09.00 – 18.00 ( ปิดพุธ )
- รายละเอียดคอร์ส https://chaseki.com/matchaology
สาขากรุงเทพ อารีย์
- Facebook: Chaseki Tea House – Ari in Bangkok
- GPS: https://goo.gl/maps/Jg6MgxWDaE9MRNVf6
- เปิด – ปิด: ทุกวัน 08.00 – 18.00 น.
อ่านบทความอื่นๆ ได้ที่