ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Health, Well-Being

มะเร็งเต้านม ไม่ต้องเสี่ยง 8 ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมได้ด้วยตัวคุณเอง



ภัยร้ายที่ไม่อยากให้ผู้หญิงมองข้ามกับ “มะเร็งเต้านม” หนึ่งในมะเร็งชนิดหนึ่งที่มีคนป่วยเป็นมากที่สุด ทั้งในผู้หญิงไทยและผู้หญิงทั่วโลก อาจจะเป็นเพราะกว่าจะรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งเต้านมก็อยู่ในระยะลุกลามแล้ว อันที่จริงการมีประกันมะเร็งไว้ด้วยเป็นเรื่องที่ดีมาก ไม่ต้องรอให้เป็นมะเร็งหรือมีความเสี่ยงแล้วค่อยนึกอยากทำประกันมะเร็ง

สำหรับมะเร็งเต้านม ประกันมะเร็ง ก็ครอบคลุมด้วย และเพื่อความไม่ประมาทเราแนะนำให้ตรวจหามะเร็งเต้านมทุกปี เบื้องต้นสามารถทำได้ด้วยตัวคุณเอง หรือถ้าใครไม่สะดวกไม่รู้วิธีตรวจที่แน่ชัด สามารถไปหาหมอที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจหามะเร็งเต้านมได้ แต่การตรวจนั้นไม่สามารถเคลมค่าใช้จ่าย ประกันมะเร็ง ได้

มะเร็งเต้านมนั้นเกิดจากความผิดปกติของเซลล์ด้านในท่อน้ำนม หรือต่อมน้ำนม และมักแพร่ขยายไปยังอวัยวะข้างเคียงได้ ดังนั้นการตรวจหามะเร็งเต้านมเป็นสิ่งที่สำคัญ ผู้หญิงทุกคนไม่ควรมองข้ามเรื่องนี้

การซื้อ ประกันมะเร็ง เอาไว้ เป็นเรื่องที่เตรียมพร้อมไว้ เพราะโรคภัยไข้เจ็บไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ซึ่ง ประกันมะเร็ง TQM ช่วยลดค่าใช้จ่ายในอนาคตได้ดี เนื่องจากประกันมะเร็งนี้ครอบคลุมทุกโรคมะเร็ง แต่ประกันมะเร็ง จะยกเว้นมะเร็งผิวหนัง ซึ่งหมายถึงประกันมะเร็งครอบคลุมมะเร็งเต้านมด้วย ความน่าสนใจประกันมะเร็งคือราคาเบี้ยไม่แรง เบี้ยเริ่มต้นที่ 490 บาทเท่านั้น หลังจากที่ทำประกันมะเร็งกันเรียบร้อยแล้ว มาดูกันดีกว่าว่า 8 วิธีลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมได้ด้วยตัวคุณเองนั้นมีอะไรบ้าง

8 วิธีลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม

1.    ตรวจเช็คมะเร็งเต้านมอยู่เป็นประจำ

อันที่จริงแล้วการตรวจเช็คมะเร็งเต้านมนั้น คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ โดยการใช้มือตรวจคลำเต้านมของตนเองทีละข้าง และให้คลำไปรอบๆ ทั้งส่วนนอกสุด ส่วนบนสุด และคลื่นมือมาบริเวณเต้านมจากนั้นให้คลำไปรอบๆ เพื่อตรวจหาว่ามีก้อนแปลกปลอมที่อาจจะอยู่ข้างในเต้านม รวมถึงการบีบที่หัวนม เพื่อเช็คว่ามีน้ำที่ผิดปกติอะไรไหลออกมาหรือเปล่า ซึ่งวิธีตรวจเช็คให้นอนราบ หรือสามารถคลำในท่ายืนได้เช่นกัน

2.   ตรวจเช็คด้วยแมมโมแกรม (mammogram)

ถ้าเช็คมะเร็งเต้านมด้วยตัวเองแต่ไม่มั่นใจ แนะนำให้ไปโรงพยาบาลแล้วตรวจเช็คด้วยแมมโมแกรม โดยจุดเด่นของการใช้แมมโมแกรมคือเหมาะกับการตรวจมะเร็งเต้านมในระยะเริ่มต้น ตั้งแต่ที่ยังไม่มีอาการ หรือยังคลำไม่เจอก้อนเนื้อ ดังนั้นถ้าหากใครเพิ่งตรวจเจอในระยะเริ่มแรก ก็จะทำให้รักษาได้เร็ว และอาจจะรักษามะเร็งเต้านมให้หายขาดได้ ดังนั้นการไปตรวจเช็คอย่างเป็นประจำ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่ถ้าใครตรวจเจอมะเร็งเต้านมได้ระยะเริ่มแรก แล้วทำประกันมะเร็งเอาไว้ ตรวจเจอแล้วจ่ายจบทันที

3.    ควบคุมน้ำหนัก

การควบคุมน้ำหนักที่ว่านี้ เป็นการควบคุมน้ำหนักในอยู่ในเกณฑ์ ไม่ใช่ว่าจะต้องคุมน้ำหนักให้ผอมจนเกินไป เพราะว่าผลจากการวิจัยคือน้ำหนักส่งผล และมีความสัมพันธ์กับมะเร็งเต้านม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่วัยหมดประจำเดือนแล้ว ในส่วนของเซลล์ไขมันยังคงมีการผลิตและหลั่งฮอร์โมนเข้าไปในกระแสเลือดอยู่ ดังนั้นจึงเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดมะเร็งเต้านมได้ ที่สำคัญคือความอ้วนนั้นช่วยเพิ่มความเสี่ยง และทำให้อาการของมะเร็งเต้านมนั้นรุนแรงมากขึ้น ดังนั้นคุณควรที่จะควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่พอดี ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป

4.    เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

ในส่วนของอาหารที่รับประทานเข้าไปนั้นมีผลอย่างมาก ทั้งกับการกระตุ้นเซลล์มะเร็ง และป้องกันเซลล์มะเร็ง ดังนั้นถ้าใครไม่อยากเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม ควรที่จะรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ ปลา ถั่วเหลือง ธัญพืชแบบไม่ขัดสี ผัก และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถั่วเหลือง และเมล็ดแฟล็กซ์ นั้นช่วยรักษาระดับเอสโตรเจนให้อยู่ในระดับที่ดี แต่ไม่ใช่ว่าการกระหน่ำกินอาหารเหล่านี้เข้าไปจะดีต่อร่างกาย ควรบริโภคสิ่งเหล่านี้ให้พอดี

5.    ออกกำลังกาย

การควบคุมอาหาร ควบคุมน้ำหนัก นั้นควรมาควบคู่กับการออกกำลังกาย เพราะผลจากการวิจัยมาว่าการออกกำลังกาย 29% จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมได้ ซึ่งการออกกำลังกายนี้ต้องเป็นการออกกำลังที่สม่ำเสมอ ไม่หักโหม อาทิเช่น การเดินเร็ว โยคะ ปั่นจักรยาน หรือว่าการเต้นแอโรบิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือนแล้ว ควรหากิจกรรมทำ หรือออกกำลังกายอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมไปได้

6.    จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์

การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไปนั้น นอกจากจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมแล้วนั้น ยังไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย สำหรับการดื่มแอลกฮอล์นั้นส่งผลต่อการเพิ่มระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนโดยตรง ซึ่งส่วนนี้จะเป็นผลโดยตรงกับการเร่งให้เกิดมะเร็งเต้านม นอกจากนั้นแอลกอฮอล์ยังยับยั้งความสามารถของร่างกายให้ต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง สาวๆ ที่ยังปาร์ตี้หนัก ดื่มบ่อย แล้วกังวลเรื่องโรคมะเร็งเต้านม แนะนำให้งด หรือจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ให้หน่อยลง และถ้าไม่ดื่มได้เลยก็ยิ่งดี

7.    รับประทานอาหารเสริม

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างเดียวอาจจะยังไม่พอ ให้เพิ่มอาหารเสริมที่มีส่วนของสารต้านอนุมูลอิสระ เห็ด กระเทียม ชาเขียว หรือว่าขิงเข้าไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินดี มีผลจากงานวิจัยว่าช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมได้มากถึง 50% นอกจากนั้นวิตามินอี และเซลีเนียม มีส่วนสำคัญในการช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ในระหว่างทำเคมีบำบัด ซึ่งในปัจจุบันนี้สามารถหาซื้ออาหารเสริมได้ทั่วไป และมีให้เลือกหลากหลายสูตร ทั้งนี้การกินวิตามินมากเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี ดังนั้นควรรับประทานให้พอประมาณ

8.    เลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง

อย่างที่กล่าวไปว่าการรับประทานอาหารมีส่วนสำคัญมาก ดังนั้นคุณควรจะหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง ซึ่งเป็นไขมันที่ไม่ดี อย่างเช่น ของทอดทั้งหลาย เฟรนซ์ฟรายทอด ไส้กรอกทอด หรือหมูสามชั้น เบค่อน รวมไปถึงอาหารที่มีไขมันทรานส์ เนื้อสัตว์แปรรูป หรือลดการบริโภคเนื้อแดงให้น้อยลง ก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมได้ นอกจากนั้นอาหารเหล่านี้ยังทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งชนิดอื่นๆ ด้วย ซึ่งให้เลือกรับประทานเป็นไขมันดีแทน เช่น น้ำมันมะกอก อัลมอนด์ อะโวคาโด แอปเปิ้ล และแซลมอน

อย่างไรก็ตามการลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมนั้นไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าจะสามารถลดได้แน่นอน เพราะการเกิดมะเร็งเต้านมนั้นมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย อย่างเช่น ผู้หญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือนจะมีความเสี่ยงมากกว่า ยังรวมถึงพันธุกรรม และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้ถ้าจะให้ดีควรไปโรงพยาล แล้วไปตรวจเบื้องต้นก่อน หรือถ้าอยากอุ่นใจไว้ก็เลือกซื้อประกันมะเร็ง เพราะคุ้มครองทุกระยะ ตรวจเจอระยะไหนก็จ่ายเต็ม 100% ซึ่งผู้เอาประกันนั้นมีอายุระหว่าง 20-60 ปี และต่ออายุได้ถึง 65 ปีเลยทีเดียว สนใจดูประกันมะเร็ง กับ TQM เพิ่มเติม คลิกเลย

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']