ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Love, Relationship

Birth order & Relationship คู่ไหนจะเข้ากัน ตามลำดับการเกิด



Birth order

Dr. Kevin Leman ได้เขียนหนังสือเยอะมากจนได้รับรางวัลมากกว่า 50 เล่ม หนึ่งในนั้นคือ“The Birth Order Book: Why You Are the Way You Are” ซึ่งด็อกเตอร์เขาได้เขียนเกี่ยวกับนิสัยของคนที่มีผลมาจากลำดับการเกิดของเรานั่นเอง ทางเรารู้สึกว่ามันว้าวมากเลยอยากจะมาแชร์ ทุกคนจะได้เข้าใจความคิดของตัวเองและคนอื่นมากขึ้น รวมถึงเรื่องรักๆด้วยว่าเวลามีแฟนจะเป็นยังไงกันบ้าง คู่ไหนหมาะกัน หรือคู่ไหนต้องปรับยังไงดี มาลองเชคกันดูสิ้

เคยได้ยินมาว่าคู่รักที่เข้ากันได้ดีมักจะเป็นคู่ที่ คนนึงเป็นพี่โตสุดในครอบครัว และ อีกคนมาจากครอบครัวที่ตนเป็นน้องเล็กสุด

Birth order

นิสัยของลูกคนโต

  • มีความมั่นใจสูง
  • เป็น perfectionist
  • เจ้ากี้เจ้าการ ชอบสั่งสอน
  • มีความรับผิดชอบสูง
  • มีเป้าหมายในชีวิต
  • อยากมีอำนาจ

นิสัยของลูกคนโตเมื่ออยู่ในความสัมพันธ์ : ส่วนมากจะเป็นผู้นำในความสัมพันธ์ เพราะรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร จะทำยังไงให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ ด้วยความที่เคยชินกับการได้เป็นผู้ควบคุมดูแลน้องที่บ้าน สามารถผลักดันคู่รักให้ประสบความสำเร็จได้ แต่ระวังเรื่องการบงการชีวิตคนรักมากจนเกินไป

Birth order

นิสัยของลูกคนกลาง

  • ต้องการเป็นจุดสนใจ
  • กลัวที่จะโดดเดี่ยว
  • เอาใจคนอื่นเก่ง
  • ไม่สนอำนาจ
  • รักเพื่อนฝูง
  • ชอบทำให้คนคืนดีกัน

นิสัยของลูกคนกลางเมื่ออยู่ในความสัมพันธ์ : ลูกคนกลางจะจริงจังในความสัมพันธ์แบบว่านึกไปถึงงานแต่งงานเลย เพราะชอบใครก็จะชอบเลยแล้วก็อยากอยู่ด้วยนานๆ ชอบให้แฟนเป็นเหมือนเพื่อนสนิท และเขาบอกว่าลูกคนกลางมักจะมีความสุขกับเรื่องบนเตียงมากกว่าคนอื่นๆ แต่มีนิสัยชอบปิดบังความรู้สึกของตัวเองมากกว่าที่จะพูดออกมา เลยอาจจะทำให้คู่เกิดความสับสนได้

Birth order

นิสัยของลูกคนเล็ก

  • เข้ากับคนง่าย
  • มีเสน่ห์
  • เจ้าอารมณ์
  • ขาดความรับผิดชอบ
  • ชอบเสี่ยง
  • เอาแต่ใจ ชอบให้คนมาเอาใจ

นิสัยของลูกคนเล็กเมื่ออยู่ในความสัมพันธ์ : มักจะมีรักแบบเปิดเผย แล้วจะชอบคนที่สามารถพึ่งพาอาศัยกันได้ ต้องการคนมาช่วยดูแลในเรื่องต่างๆ เป็นคนที่จะสามารถ entertain คู่รักได้ดี มีความสนุกสนานเบิกบานใจเมื่อได้อยู่ด้วย เพราะลูกคนเล็กส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยคิดมาก แต่ต้องระวังในเรื่องของการเอาแต่ใจกับคนรัก

นิสัยของลูกคนเดียว

  • มีความคิดสร้างสรรค์
  • เป็นตัวของตัวเอง
  • รักในอิสระ
  • เอาแต่ใจ
  • พึ่งพาตัวเองได้
  • ชินกับการอยู่คนเดียว

นิสัยของลูกคนเดียวเมื่ออยู่ในความสัมพันธ์ : พอเป็นเรื่องของคู่ จะมีภาพในหัวว่าชอบคนแบบนี้ๆซึ่งเปลี่ยนยาก เพราะมักจะยึกมั่นในความคิดของตัวเอง อาจจะชินกับการมีอิสระในเรื่องต่างๆ หรือแม้แต่ของใช้ที่จะชอบซื้อแยกส่วนตัว และเนื่องจากลูกคนเดียวมีแค่พ่อแม่ การทำตามใจพ่อแม่ถือเป็นเรื่องที่เขาอยากที่จะทำอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นคนที่จะเข้ามาคบด้วยอาจต้องผ่านด่านพ่อแม่ก่อน

ความสัมพันธ์ของคู่รักตามลำดับการเกิด

ลูกคนโต – ลูกคนโต

ในความสัมพันธ์อาจมีปัญหาเพราะทั้งคู่อาจแย่งกันเพื่อที่จะเป็นผู้นำ อยากที่จะควบคุมอีกฝ่าย เพราะทั้งคู่เคยชินกับการรับผิดชอบสิ่งต่างๆและการได้มาซึ่งสิ่งที่ตัวเองต้องการ ความสัมพันธ์สามารถไปกันได้ถ้าทั้งสองเคารพในตัวตนของกันและกันด้วยความรัก รับฟังและอ่อนข้อให้กัน ถ้าทั้งคู่มีความมุ่งมั่นที่จะอยู่ด้วยกันก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องเอาชนะกัน

ลูกคนโต – ลูกคนกลาง

เข้ากันได้ในระดับดึงเพราะลูกคนกลางมักจะยินดีให้ลูกคนโตเป็นผู้นำในความสำพันธ์และคอยสนับสนุนสิ่งที่อีกฝ่ายอยากทำ แต่ในความสัมพันธ์ก็อาจเกิดความสับสนได้ เพราะลูกคนกลางมักจะไม่ชอบพูดความรู้สึกตัวเอง ทั้งคู่จึงควรเรียนรู้ที่จะเปิดใจคุยกันและคอยถามไถ่ความรู้สึกของกันและกันว่ากำลังคิดอะไรอยู่ หรือรู้สึกยังไงบ้าง 

ลูกคนโต – ลูกคนเล็ก

เป็นคู่ที่เข้ากันได้ดีที่สุด โดยเฉพาะฝ่ายหญิงที่เป็นลูกคนโต กับ ฝ่ายชายที่เป็นลูกคนเล็ก เพราะผู้หญิงมีความเป็นแม่อยู่แล้ว ยิ่งเป็นพี่ยิ่งมีความอยากดูแลสูง ส่วนผู้ชายที่เป็นน้องยิ่งชอบเวลามีคนมาเอาอกเอาใจ และต้องการความเป็นแม่มาดูแล คอยแนะคอยเตือน และชี้นำทางที่ถูกต้อง เขาถึงบอกกันตลอดว่าผู้ชายมักจะชอบผู้หญิงที่เหมือนแม่ อยู่ด้วยแล้วรู้สึกอบอุ่น

ลูกคนโต – ลูกคนเดียว

อาจเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่เครียดเนื่องจากทั้งคู่มีความเป็นจ่าฝูงอยู่ในตัว มีความอยากชนะ อยากจะเป็นที่หนึ่ง คู่นี้จะไปกันได้หากทั้งคู่เลือกจะนำนิสัยนี้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์เพื่อก่อให้เกิดความสำเร็จ ไม่ควรใช้ในความสัมพันธ์ แต่ก็ยังมีตัวแปรที่ทำให้ทั้งสองมีความต่างกัน เช่น ลูกคนโตเคยเป็นลูกคนเดียวมาก่อน พอมีน้องก็เหมือนถูกปลดจากตำแหน่ง แต่ลูกเดียวไม่เคยได้รับความรู้สึกนั้น ยังคงเป็นศูนย์กลางจักรวาลของพ่อแม่ แต่ก็แลกมากับความเครียดที่เป็นความหวังเดียวของครอบครัว ในขณะที่ลูกคนโตได้รับแรงกดดันที่ต้องเป็นแบบอย่างให้แก่น้อง แต่ก็ไม่ใช่ความหวังเดียว

ลูกคนกลาง – ลูกคนกลาง

เป็นคู่ที่เข้ากันได้ค่อนข้างยาก เพราะเมื่อมีปัญหา ด้วยนิสัยของทั้งคู่ก็จะเลือกที่จะหนีโดยการเงียบใส่กันมากกว่าการเข้าหากันตรงๆเพื่อปรับความเข้าใจ แต่หากมีความรักให้กัน ทั้งคู่ควรจะก้าวออกมาจาก Comfort zone ของตัวเองแล้วกล้าที่จะพูดหรือถามเกี่ยวกับความรู้สึกของกันให้มากขึ้น เพื่อที่จะเข้าถึงจิตใจของกันและกัน

ลูกคนกลาง – ลูกคนเล็ก

เป็นคู่ที่เข้ากันได้ดีอีกคู่นึง ลูกคนกลางมีแนวโน้มที่จะเป็นคู่ครองที่ดีสำหรับลูกคนเล็กที่มักจะเข้าสังคม พวกเขายังมีการสื่อสารที่ดีเมื่ออยู่ร่วมกัน เข้าใจกันง่าย เพราะลูกคนกลางไม่ได้โดนลูกคนเล็กข่ม พวกเขาเป็นคู่ที่ดีเพราะคนที่เป็นลูกคนกลางจะชอบเอาใจ และคอยจะสนับสนุนคู่ ที่พอเป็นลูกคนเล็กก็มีความใฝ่ฝันมากมายที่อยากทำให้สำเร็จ ซึ่งนิสัยของคนที่เป็นลูกคนกลางก็คือเป็นSupporterที่ดีนี่เอง

ลูกคนกลาง – ลูกคนเดียว

ความเป็นลูกคนเดียวคือจะต้องได้ทุกอย่างที่ต้องการ และการเป็นลูกคนกลางคือเป็นฝ่ายยินดีที่จะยอมเสมอ เป็คู่ที่ไปกันได้ในระดับนึง อย่างไรก็ตามฝ่ายที่เป็นลูกคนเดียว พอโดนตามใจอาจจะเกิดความเคยชิน ไม่ควรคิดเองเออเอง ทั้งคู่ควรถามไถ่ความรู้สึกและความพึงพอใจกันอยู่เสมอ 

ลูกคนเล็ก – ลูกคนเล็ก

ค่อนข้างเป็นคู่ที่อันตรายเวลาอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่ไม่รักกัน…แต่ไม่ห้ามกันเลย!! เวลารักก็คือรักกันมากแต่ด้วยความเป็นน้องเล็กก็จะต้องอยากให้ทุกอย่างเป็นในแบบที่ฉันต้องการ เวลามีปัญหาจะต้องคอยหาคนผิด โดยไม่ได้คิดถึงวิธีแก้ปัญหา เป็นคู่ที่มักจะใช้อารมณ์นำ ควรจะมีคนนึงที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่กว่าอีกคนเพื่อค่อยๆทำเป็นตัวอย่าง แนะนำให้ตั้งสติเวลามีปากเสียงกันแล้วใช้คำพูดที่น่าฟังเพื่อปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน

ลูกคนเล็ก – ลูกคนเดียว

เป็นอีกคู่ที่เข้ากันได้ดีมาก เพราะลูกคนเล็กมักจะมีจินตนาการสูงและชอบสร้างแรงบันดาลใจให้กับฝ่ายที่เป็นลูกคนเดียว ที่รักในอิสระและอยากทำในสิ่งที่อยากทำ พอมีคนมาร่วมเป็นคู่คิดแล้วคอยซัพพอร์ตก็กลายเป็นเรื่องดีของชีวิตคู่ คอยผลักดันกันไปในทางที่ดีและมีความสุขด้วยกันได้

ลูกคนเดียว – ลูกคนเดียว

อาจไม่ใช่คู่ที่เข้ากันได้ดี เหมือนคู่ของลูกคนโตกับลูกคนโตแต่คู่นี้จะมีความรุนแรงกว่านั้น เพราะถูกปลูกฝังมาให้เป็นที่1 อยู่เสมอตั้งแต่เด็กจนโต ทำให้ต่างฝ่ายต่างคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นถูกเสมอ อาจจะเข้กันได้ด้วยความมีอีโก้เหมือนกัน แต่หากจะไปกันรอดต้องรู้จักลดหย่อนให้กันบ้าง ยอมกันบ้างการยอมไมได้แปลว่าแพ้เสมอไป แต่แปลว่าเรายังรักกันอยู่ อย่าปล่อยให้ความรู้สึกแย่ๆนั้นอยู่นาน

อ่านเรื่องอื่น ๆ ได้ที่ CLEO Thailand และ FB > CLEO

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']