ความรักระยะไกล ที่ไม่มีคำว่ากลัว ของลิตเติ้ล

“ความรักครั้งนี้ทำให้เราเติบโต” นี่คือประโยคที่ลิตเติ้ล กฤศพัฒ หนุ่มนักการเงินวัย 23 พูดถึง ความรักระยะไกล ของเขากับแฟนนักศึกษาแพทย์ที่เชียงใหม่ ทั้งคู่คบกันมา 4 ปี โดยตลอดสี่ปีที่ผ่านมา เขาและเธอไม่ได้อยู่จังหวัดเดียวกันเลย ถึงแม้ว่าจะเป็นคนจังหวัดเดียวกัน อย่างไรก็ตามทั้งคู่เจอกันนับครั้งได้ แต่ความรักของพวกเขาก็ยังราบรื่นและหวานตลอด เราเลยอยากรู้ว่า อะไรที่ทำให้ลิตเติ้ลอยู่ในความสัมพันธ์ระยะไกลได้อย่างไร้ความกังวลใด ๆ และมีความสุขในทุก ๆ วัน มาอ่านเรื่องราวของเขากันนะ

ตอนนี้ลิตเติ้ลทำงานเป็น Financial Advisor อยู่บริษัทแห่งหนึ่งที่จังหวัดกรุงเทพฯ เรียกว่าทำงานแบบไม่หยุดหย่อน เพราะเวลาเกือบทั้งหมดอยู่กับงานที่ทำหมดแล้ว ส่วนแฟนของลิตเติ้ลเป็นนักศึกษาแพทย์ปีที่ 5 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ไกลกันคนละภาค ทั้งสองคนรู้จักกันเพราะเป็นคนจังหวัดพิษณุโลกเหมือนกัน เคยเรียนคุมองด้วยกันตอนเด็กๆ และก็แยกย้ายกันไป ลิตเติ้ลกับแฟนได้คุยกันช่วงหลังจบม.6 รอเข้ามหาวิทยาลัย ทั้งคู่คุยกันอยู่ประมาณ 3 เดือน จากนั้นก็คบกันซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับทั้งที่คู่ต้องแยกย้ายไปเรียนที่กรุงเทพและเชียงใหม่ ทำให้ความรักของพวกเขาไกลกันตั้งแต่เริ่ม

“ถึงเราจะไกลกัน แต่มันคือการแยกย้ายไปรับผิดชอบชีวิตตัวเอง เพื่อวันหนึ่งเราจะได้กลับมาซัพพอร์ทซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่”

จากที่เจอกันแทบทุกวัน เห็นหน้ากันมาตลอด 3 เดือน แล้วต้องแยกกันอยู่คนละที่ คนละภาค ไม่ได้เจอกัน ไม่เห็นหน้ากัน สิ่งแรกที่ต้องทำคือยอมรับและปรับตัวให้ได้ ด้วยเวลาที่จำกัดมากขึ้น จากที่เจอกันได้ทุกวัน ก็ต้องหาเวลาที่ลงตัวทั้งคู่เพื่อมาคุยกัน รวมไปถึงหาเวลาเดินทางเพื่อมาเจอกัน มันเลยเป็นความใหม่ในความรักครั้งนี้มาก ๆ

ความยากของการมี ความรักระยะไกล คือเรื่องการสื่อสาร

ลิตเติ้ลบอกว่า “มันยากเพราะเราไม่สามารถมีปฏิสัมพันธ์กันแบบตัวเป็น ๆ ได้ อย่างเวลาทะเลาะกัน กว่าจะคุยกันจนเข้าใจกันจริงๆ ก็ต้องใช้เวลา เพราะทำได้เพียงการสื่อสารผ่านหน้าจอโทรศัพท์ อย่างเดียวที่เราทำได้คือการพูดคุยกัน เพราะฉะนั้นการสื่อสารเลยสำคัญมาก แต่มันก็เป็นความท้าทายที่มาพิสูจน์เรา”

ลิตเติ้ลบอกว่า เมื่อก่อนเราอาจจะยึดติดกับความคิดที่ว่า ถ้าทะเลาะกัน เราต้องเคลียร์ให้จบภายในคืนนั้นเลย เพราะไม่อยากให้อีกคนรู้สึกไม่ดี รู้สึกค้างคา แต่ในชีวิตจริงมันทำได้ยากมาก เราเลยคุยกันว่า “ถ้ามันยังเคลียร์กันไม่ได้จริง ๆ ก็แยกย้ายกันไปก่อน แล้วค่อยคุยกัน ถึงแม้ว่ามันจะทำให้ความรู้สึกของทั้งคู่ดูหม่น ๆ ซึ่งหากมีคำถามต่อว่า ทำไมต้องแยกกันด้วย เรามองว่าเวลาที่คนเราควบคุมอารมณ์ตัวเองตอนนั้นไม่ได้ มันพูดไม่คิดหรอก สุดท้ายก็ทำร้ายความรู้สึกกันอยู่ดี เราเลยเปลี่ยนเป็นบอกกันตรง ๆ เพื่อสื่อสารว่า ตอนนี้กำลังอารมณ์ไม่ดีนะ ขอแยกไปสงบสติอารมณ์ก่อนแล้วค่อยกลับมาแก้ปัญหาหรือพูดคุยกัน แล้วพอถึงตอนเช้าเราตื่นมา มันก็เบาลง บางทีเราอาจจะลืมไปเลยก็ได้ว่าเราโกธรอะไรกัน อย่างไรก็ตามการเรียนรู้เกิดขึ้นในทุก ๆ วัน เมื่อเราไม่ได้ใช้ชีวิตคนเดียวคนโลก การสื่อสารจึงสำคัญ นี้จึงเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเรากับพาร์ทเนอร์ของเราดีในระยะยาว

ห่างแล้วต้องหึงไหม

ชอบความหนักแน่นของลิตเติ้ล ที่เขามักจะบอกเสมอว่ากาลเทศะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด มันคือเวลาและสถานที่ที่เราต้องรู้ตัวว่าควรทำตัวยังไง “เรารู้ว่าเรากำลังทำอะไร เราเคารพและเชื่อใจกับความรักที่เรามีแค่ไหน มันไม่มีใครการันตีได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่เราจะรู้ตัวเองดี ว่าเรามีทัศนคติต่อคนอื่นอย่างไร แต่คนอื่นนั้นเขาคิดเหมือนกันกับเรารึเปล่า อันนี้เราก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นคนที่การันตีได้ดีที่สุดคือตัวเรา พยายามกลับมามองตัวเองบ่อย ๆ เพื่อสะท้อนถึงความคิดและการกระทำของตัวเองในแต่ละครั้งเพื่อปรับปรุงและแก้ไขกันไป เพราะเราอยากสร้างความเชื่อใจให้กับพาร์ทเนอร์ของเรา

“เมื่อเราชัวร์ในความรู้สึกของเราเองแล้ว แต่เราจะทำให้อีกฝ่ายเขาเชื่อใจเราได้ยังไง” นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ลิตเติ้ลให้ความสำคัญ ด้วยความที่ลิตเติ้ลเป็นคนมีเพื่อนเยอะ ชอบเข้าสังคมใหม่ ๆ มีเพื่อนหลายกลุ่ม มีเพื่อนร่วมงาน เพื่อนสมัยเรียน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมีเพื่อนเยอะของลิตเติ้ลจะไม่ทำให้อีกฝ่ายระแวง หรือกลัว ลิตเติ้ลเลยจะคอยแนะนำเพิ่อนของเขาให้แฟนรู้จักอยู่เสมอ“

ถ้ามีโอกาส เราจะพาแฟนไปหาเพื่อนเรา ไปรู้จักกับสังคมของเราที่นี่ ให้เขารู้สึกสบายใจ ต่อให้แฟนยังไม่เคยเจอเพื่อนคนไหนของเรา เราก็จะพยายามเล่าให้ฟังว่าเป็นใคร นิสัยเป็นยังไง เพื่อให้เขาได้ผ่านหูผ่านตาเพื่อให้คลายความกังวลลงได้บ้าง

ความรักระยะไกล ของลิตเติ้ลไม่เคยมีคำว่ากลัว ถ้าถามว่าลิตเติ้ลเป็นคนรักแบบไหน คำตอบของเขานั้นเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความรู้สึก “เราเป็นคนที่อยู่บนความเป็นจริง อยู่ในปัจจุบัน” ทุกอย่างเลยเป็นสิ่งที่เรียล ไม่มีการคิดไปเองว่าจะไม่รอด ทุกอย่างอยู่บนความจริง ลิตเติ้ลบอกว่า ความรักครั้งนี้ทำให้เขาได้เติบโต จากคนอารมณ์ร้อน หงุดหงิดง่ายก็ใจเย็นลง ควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น “ความรักครั้งนี้ทำให้เราโตขึ้น เรามองเห็นภาพชีวิตกว้างขึ้น”

ลิตเติ้ลยังได้ฝากถึงทุกคนที่กำลังมีความสัมพันธ์แบบ Long Distance อีกด้วยว่า “หวังว่าเรื่องราวที่ได้ออกมาเล่าสู่กันฟังจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่งนะครับ”