คลีโอได้เจอกับต่าย นิทรา ล่าสุดเมื่อวันที่คลีโอจัดงานเวิร์คช็อป When Your Heart Opens with CLEO x Good Heart Retreat ทันทีที่ได้เห็นหน้าเธอ คำแรกที่ผุดคือขึ้นมา “เธอสวยมาก” แววตาของต่ายที่เป็นประกาย อบอุ่น และมีเสน่ห์มากๆ ของเธอ ชุดของเธอวันนั้นเป็นสีขาว เรียบง่ายแต่เด่นออกมาเลย ท่วงท่าการเดิน การพูดของเธอ ทำให้เราอยากรู้จักเธอยิ่งขึ้นไปอีก เธอนิ่งสงบและยิ้มหวานให้ทุกคน พลังงานดีๆ ของเธอออกมาเยอะมากจนเราสัมผัสได้เลย เธอสงบลงไปถึงข้างในของเธอจริงๆ
ต่าย นิทรา เคยเป็นอดีตบรรณาธิการนิตยสารมาแล้วมากมาย รวมไปถึงนิตยสารสุขภาพอย่าง Men’s Health และ Women’s Health ชื่อดังไทยที่เรียกว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จัก ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอให้เธอได้รู้จักอะไรใหม่ๆ และส่งต่อพลังงานดีๆ ให้คนอื่นมาถึงทุกวันนี้ จนเธอพูดเลยว่า “การเป็นบรรณาธิการนิตยสารสุขภาพในครั้งนั้นได้เปิดโลกเรา”
ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าลมหายใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกับทุกอย่าง
เธอเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนย้อนไปเมื่อประมาณสามสิบปีที่แล้ว เทรนด์การเล่นโยคะ นั่งสมาธิ ฟังธรรมะนั้นไม่ได้เป็นที่ยอมรับและแพร่หลายเหมือนทุกวันนี้ เรียกว่าเป็นสิ่งที่แปลกด้วยซ้ำ ทุกคนมองเธอเป็น “คนเพี้ยน” เพราะทำสิ่งเหล่านี้ เธอเล่นโยคะ กินมังสวิรัติ นั่งสมาธิ เธอได้เริ่มเรียนการสวดแบบ chanting “ทุกครั้งที่เราทำสิ่งนี้ มันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เรารู้แค่ว่ามันดีต่อเรามาก ถึงคนอื่นจะมองว่ามันแปลก” แต่สำหรับต่าย ไม่ว่าจะเป็นโยคะ การสวดมนต์ หรือนั่งสมาธิ ล้วนเป็นการเชื่อมโยงเข้าไปภายในของเรา ซึ่งเป็นศาสตร์แรกที่ทำให้เธอได้เข้าไปข้างในได้อย่างมีความสุข
Sound Healing เสียงที่เยียวยาร่างกายและหัวใจเราได้
จนเธอได้มารู้จักกับศาสตร์ที่เรียกว่า Sound Healing หรือการบำบัดโดยใช้เสียง ซึ่งเป็นเสียงจาก Tibetan Bowl หรือ ที่หลายๆ คนเรียกว่าขันทิเบต แต่ความจริงแล้วขันนี้มาจากหิมาลายา (Himalayan Bowl) ไม่ได้มาจากทิเบต เป็นการฮีลหัวใจและร่างกายผ่านคลื่นเสียงที่ออกมาจากขัน เฟ ลูกของต่ายเล่าว่า “เวลาที่เราตีขันเหล่านี้ จะมีการสั่นสะเทือนออกมา ซึ่งจะเข้าไปจัดระเบียบเซลล์ในร่างกายของเรา โดยในขันทิเบตนั้นจะประกอบไปด้วยธาตุทั้ง 4 ในร่างกายของเรา ดิน น้ำ ลม ไฟ ดังนั้นเวลาที่ตีขั้นทิเบต ร่างกายก็จะได้รับการสั่นที่มาจากธาตุในขันทิเบตได้ดี รวมไปถึงเสียงที่ออกมานั้นจะออกมาในคลื่นที่เชื่อมโยงกับสมองเดียวกันพอดี เป็นระดับที่ทำให้สมองผ่อนคลาย และทำให้เข้าสมาธิได้เลย”
ขันทิเบตนั้นเป็นขันทองเหลืองที่ทำหน้าที่ทำปฏิกิริยาในการเยียวยาใจได้ดีกว่าคริสตัล โดยทะลุเข้าไปในร่างกายและจิตใจ ใช้ในการเยียวยาได้มากกว่า ในขณะท่ีคริสตัลมีระดับความถี่เสียงต่ำทุ้ม จึงเป็นคลื่นเสียงที่ทำให้สงบ แต่เมื่อทั้งขันทิเบตและขันคริสตัลมาทำงานควบคู่กัน ก็จะเกิดประสิทธิภาพที่ดีทั้งการเยียวยาและความสงบ ทำให้สมองแอคทีฟในช่วงเวลาหนึ่ง จนขจัดความเศร้าออกไปได้ นอกจากการเล่นกับการสะเทือน ขันทิเบตยังเข้าไปเล่นกับจักระ หรือจุดวงล้อพลังงานของร่างกาย
Good Heart Retreat
ตอนที่เรานอนฟังเสียงขันจากพี่ต่ายและเฟ ความรู้สึกตอนนั้นมันตัวเบา สบาย ลอยๆ เหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น ถ้าใครมีโมเมนท์แบบนี้ หน้าจะใส ตาจะแจ่ม แล้วเรื่องที่สับสนๆ ในใจจะหลุดออกไปหมดเลย แล้วเหมือนกับว่าใจเราเปิดออก เปิดกว้างโล่งเลย พอใจเปิดความรู้สึกอิสระก็เข้ามา แล้วแววตาใสๆ เด็กสาวของเราก็จะกลับมา ทำให้ยิ้มได้เต็มที่ รู้สึกได้เต็มที่ แล้วความรู้สึกแบบนี้จะทำอะไรก็เต็มใจไปหมด พลังสดๆ แผ่มาหาเราทันที
พี่ต่ายและน้องเฟจะเป็นสองแม่ลูกที่มาสร้างเสียงที่เพราะที่สุดให้เราฟัง ไม่เคยฟังอะไรเคลิ้มและเพราะขนาดนี้เลยในชีวิต เสียงจากขันทิเบต และจากขันคริสตัล พอพี่ต่ายและเฟวนขันเท่านั้นล่ะ ทุกสิ่งคลี่คลายเหลือเกิน บำบัดเอาความเจ็บปวดข้างในเราออกไปหมด เราจะได้อยู่ในสภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่นที่ดีพไปเรื่อยๆ เหมือนเข้าไปอยู่ในภวังค์ และโมเมนท์แบบนี้ล่ะคือการสลัดทุกปมออกไปจากใจเรา ภายในเวลาหนึ่งชั่วโมงเราจะลงไปในขั้นลึกมากๆ และพอตื่นขึ้นมาหน้าใสกริ๊บ ใจสบายลอยเบาขึ้นมา แล้วพอยิ้ม มองหน้าตัวเอง ว้าว!! ยิ้มสดได้ขนาดนี้เลยหรือ?
ใครที่สนใจศาสตร์ Sound Healing ของต่าย ลองเข้าไปดูได้ที่ Good Heart Retreat