ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Celebrities, Entertainment, Money, Series

8 วิธีให้เรามีชีวิตที่รวยขึ้น จากซีรีส์ “How to Get Rich” ใน Netflix ตาสว่างเรื่องเงินสุดๆ !!

Hot to get rich

ใช้เวลาดูเพียง 8 อีพี แต่ “How to Get Rich” เปิดโลกเรื่องเงินให้กับเราขึ้นหนัก คำแนะนำจากซีรีส์นี้เวิร์คเลย แล้วเป็นจุดเริ่มให้เราหันมาสนใจเรื่องนี้ แอบคิดเลยว่าถ้าทำได้นี่อาจรวยเลยนะเนี่ย!

How to Get Rich เป็นซีรีส์แนว Documentary ที่ดำเนินเรื่องโดย Ramit Sethi นำเขียนหนังสือขายดีติด New Your Times ที่มาจากหนังสือในปี 2009 ของเขาที่ชื่อว่า “I Will Teach You to Be Rich” คือสอนคนอ่านให้ดีไซน์ชีวิตตัวเอง แค่จัดการเรื่องที่เป็นคอมมอนอยู่แล้วอย่างเครดิต การ์ด ธนาคารให้ดี เราก็รวยขึ้นได้!

วิธีการดำเนินเรื่องก็คือ รามิทเดินทางไปเจอผู้คนทั่วอเมริกา ที่แต่ละคนมีเรื่องร้อนทางการเงินไม่เหมือนกัน เป็นความท้าทายที่รามิทจะต้องไปทำให้พวกเขาเข้าใจ ตาสว่างเรื่องเงิน และจัดการปัญหากองสุมของตัวเองได้ เพื่อให้มีชีวิตที่รวยขึ้นกัน

how to get rich 01

ความเริ่ดของ How to Get Rich

เราชอบเรื่องนี้เพราะสิ่งที่รามิทแนะนำน่ะมันง่ายๆ เลย และปรับได้จริง แล้วรามิทยังเปิดคำถามชวนคิดให้เราอีกอย่างเช่น “สำหรับคุณ ชีวิตที่รวยคืออะไร?” และรามิทก็ซื่อตรงกับทุกคนแบบไม่มีเฟค ยังมีเรื่องความขัดแย้งของผู้คนกันเองในเรื่องหนี้ การออมเงิน เรื่องต่างๆ ที่รามิทต้องรับมืออีก ดูแล้วเหมือนถ่ายกันแบบรีลจริงๆ ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเงินแทรกเข้าไป ก็เลยทั้งได้ประโยชน์และสนุกเลย

เหตุผลที่คุณควรดู “How to Get Rich”

สรุปรวบตึงมาให้เลยแล้วกันว่าทำไมคุณถึงควรดูเรื่องนี้

  1. ทำให้เราอยากใช้เงินแบบมีสติ

คนที่ไม่ค่อยชอบแนวทางการใช้เงินที่แบบ ต้องคอยสะกดจิตเตือนตัวเองตลอดเวลาว่า ซื้ออันนี้ได้นะ อันนี้ไม่ควรซื้อ จะชอบแผนของรามิทมากเลย เขาบอกว่า“แผนการใช้จ่ายเงินแบบมีสติก็คือ ให้วางแผนการใช้เงินไปข้างหน้า มากกว่ามาตั้งงบประมาณที่เราควรใช้เงิน” เพราะจะทำให้เราเหมือนมีกรอบเกินไป เครียดเกินไป จนทำให้เราต้องตบะแตกใช้ไม่ยั้งได้ในภายหลัง แต่ถ้าเรารู้ทันตัวเอง เรารู้ว่าเราอยากได้อะไรจริงๆ เพื่ออะไร ถ้าเรามองการใช้เงินของเราออก และมีสติเพียงพอ จะทำให้เราจะสามารถใช้เงินฟุ่มเฟือยในสิ่งที่เรารัก และลดการใช้เงินในสิ่งที่เราไม่ชอบได้ เราเลยไม่เครียด เป็นธรรมชาติกับตัวเองด้วย แค่นี้ก็จะช่วยเซฟเงินให้เราได้แล้ว เราจะใช้เงินให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรา

How to get rich 02

2.ความหมายของ “ชีวิตที่ร่ำรวย” ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

เป็นสิ่งที่โดนที่สุดของซีรีส์นี้ รามิทบอกว่า “ชีวิตที่ร่ำรวยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และบางคนคุณค่าความรวย ไม่ใช่เรื่องเงิน” บางคนอาจเป็นความโล่งของชีวิตที่ได้มีเวลาของตัวเอง บางคนคือการเดินทางไปไหนก็ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร บางคนคือการมีเงินเก็บของตัวเอง บางคนคือการมีคนรักที่อยู่เคียงข้าง ความร่ำรวยเลยเป็นสิ่งที่แต่ละคนจะให้ความหมายไม่เหมือนกัน สำคัญก็คือเราแค่ต้องเคลียร์กับความหมายนี้ของเรา และไม่เผลอเอาไปเปรียบเทียบกับของใคร เมื่อเราได้ความหมายของเราแล้ว ก็แค่ตั้งสติโฟกัส และใช้ชีวิตที่พลิกเอาความฝัน และความหมายที่เราให้ มาทำให้เป็นความจริง

3.แผนการเงินของเรา คือทุกสิ่งที่จะทำให้เรารวย

สิ่งหนึ่งที่เราได้เรียนรู้มากๆ หลังจากดูซีรีส์นี้ก็คือ เรามีเงินนะ แต่เราดันเอาเงินเราไปแช่ไว้ในธนาคารเฉยๆ แล้วเราก็ไม่รู้ว่าเราจะฝากเงินเอาไว้ทำไมน่ะสิ รามิทบอกว่าการมีเงินแบบไม่มีแผนน่ะ เงินเราก็จะเหมือนจมอยู่แบบนั้นแหละ ก่อนอื่นเราเลยควรรู้ว่า “rich life” หรือ “ชีวิตที่ร่ำรวย” ของเราคืออะไร แล้วเอาเงินนั้นมาต่อยอดชีวิตที่เราอยากมี เราก็จะได้ “rich life” แบบนั้นในที่สุดเอง

4.เราต้องเชิงรุกบ้างกับเรื่องการเงิน

คำพูดหนึ่งของรามิทที่กระแทกใจเราก็คือ “คุณไม่สามารถเอาหัวปักเข้าไปในทราย แล้วรอปาฏิหาริย์ให้อยู่ดีๆ ก็รวยขึ้นมาได้” สิ่งที่รามิทอยากจะบอกคือ เราจะรู้ว่ามีอะไรที่หมดเม็ดอยู่ในการเงินของเรา แล้วเราไม่ยอมไปจัดการ เหมือนรอจักรวาลจัดสรรให้น่ะไม่ได้ เคลียร์ซะให้เรียบ ใครที่ยืมเงินเราก็เอาคืนมา หรือบัตรเครดิตที่เราเป็นหนี้กองอยู่ โทร.ไปเคลียร์การใช้ บ้านที่ผ่อนแล้วต้องรีไฟแนนซ์ ก็จัดการให้เสร็จ รถที่เพิ่งซื้อแต่ผ่อนต่อไปไม่ได้ ขายไปซะ อะไรที่รกๆ หมกๆ อย่าหมกต่อไป เชิงรุกให้เรียบร้อยไปเลย แล้วเราจะเริ่มเปิดพลังงานไปจัดการเรื่องอื่นต่อได้

how to get rich 03

5.อย่าเพิกเฉยต่อหนี้ล่ะ

รามิทเน้นมากๆ ว่าเราอย่าทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนกับหนี้สินของเรา แล้วที่หนักมีหนี้แล้วยังใช้ชีวิตประหนึ่งราชาอีก อย่าไปพอกให้มันเยอะขึ้นด้วย จะยิ่งทำให้คุณนัวเนียอยู่กับการใช้หนี้ไม่มีวันจบสิ้น รามิทแนะนำว่าในทุกเดือนให้เอาเงินที่ได้มาใส่เข้าไปอย่างน้อย 3,000 บาทเป็นประจำห้ามขาดทุกเดือน ใช้หนี้ให้สม่ำเสมอ หรือหาทางปรับยอดหนี้ให้ลดลงให้ได้ไปพร้อมๆ กันด้วย

6.หาเงินได้มาก ไม่ได้การันตีสภาวะการเงินของเรานะ

สิ่งที่เซอร์ไพรส์เราเรื่องหนึ่งก็คือ ความจริงที่ว่าคนที่รวยที่สุด กลับเป็นคนที่มีนิสัยการใช้เงินไม่ดีเลยด้วยเหมือนกัน คนเหล่านี้ทำงานได้เงินเดือนละเข้าเลข 6 หลักอัพกัน แต่ก็ยังมีหนี้ และยังติดบัตรเครดิตอยู่ รามิทบอกว่ากับดักทางการเงินเรื่องหนึ่งก็คือ “ยิ่งเราหาได้มาก เราจะรู้สึกว่าจะใช้เงินยังไงก็ได้” เราก็เลยมีนิสัยการใช้เงินแย่ๆ ติดตัวเราตลอด เอาเข้าใจคือต่อให้หาเงินได้มากกว่า ก็อาจจะมีเงินเหลือได้เท่ากับคนที่หาเงินได้น้อยกว่า เพราะนิสัยการใช้เงินที่ไม่เฮลธ์ตี้นี่ล่ะ

how to get rich 04

7.ไม่เป็นไรเลยถ้าเราจะเช่าบ้าน แทนไปซื้อบ้านแล้วต้องผ่อน

รามิทแนะนำว่าให้เราคิดอะไรที่เหมาะสมกับตัวเองเอาไว้ มากกว่ายึดตามสิ่งที่สังคมบอกว่าควรจะเป็น บางครั้งการเช่าบ้านอยู่ ก็อาจทำให้เรารวยกว่าการซื้อบ้าน เวลาเราเช่าบ้าน เราจะรู้ตัวเลขแน่นอนที่เราต้องจ่ายประจำทุกเดือน แต่ถ้าเราซื้อบ้านนี่คืองานเข้ายาวๆ เลย ไหนจะค่าฉีดปลวก ค่าซ่อมบ้าน ค่าอะไรอีกมากมายตามมา ถ้ายังไม่ได้เป็นคนมีสภาวะการเงินที่ไม่ติดขัดได้จริงๆ รามิทบอกว่าเช่าบ้านเถอะ คุณจะเก็บเงินได้เยอะกว่าเลย

ก่อนจะซื้อบ้านรามิทเลยอยากให้คุณถามตัวเองว่า:

  • สิ่งที่เราต้องจ่ายเป็นประจำมันน้อยกว่า 28% ของรายได้เรามั้ย?
  • ตอนดาวน์บ้าน ได้เซฟเงินดาวน์ไปถึง 20% มั้ย?
  • เรามีแพลนอยากอยู่ที่บ้านหลังนี้อย่างน้อย 10 ปีมั้ย?

8.การลงทุนแรกที่ควรทำคือ “การลงทุนกับตัวเอง”

สุดท้ายแล้วการที่เราจะรวยขึ้นเนี่ย มันคือการ “ลงทุนกับตัวเอง” ในระยะยาวไปเลย อย่างลงทุนเปลี่ยนงานและโฟกัสไปเลย ลงทุนเรียนอะไรบางอย่างเพื่อเพิ่มสกิลล์เรา ทุกสิ่งที่เราลงทุนก็ให้เชื่อมโยงไปกับคุณค่าลึกๆ ของชีวิตที่เราอยากไปให้ถึงด้วย ไม่มีสูตรสำเร็จให้ชีวิตใครหรอก แต่อย่างน้อยเราก็ได้มุ่งมั่นกับตัวเองที่จะสร้างนิสัยการใช้เงินให้ดีขึ้น ใช้จ่ายเงินให้มีสติขึ้น และรุกไปข้างหน้ากับเรื่องการเงินของเรา เราจะได้ไปถึงความร่ำรวยในชีวิต ในความหมายที่เราอยากให้เป็นได้

อ่านเรื่องอื่นๆ ต่อได้ที่ เก็บเงินให้อยู่

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']