เรามักเชื่อกันว่า “การแต่งงาน” จะมอบประสบการณ์แสนวิเศษให้กับชีวิตรักของเรา และจะทำให้เรายิ่งรักกันแนบแน่น แต่งงาน มีลูก สร้างครอบครัว แต่ๆๆ ในความเป็นจริงอาจไม่เป็นแบบนั้นน่ะสิ!
เพราะถ้าเราเลือกคู่ที่ไม่ใช่ การแต่งงานก็กลายเป็นฝันร้ายที่เราต้องพูดประโยคว่า “คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า” กันเลยดีกว่า รีบแต่งงานเลยไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก และอาจทำให้เกิดผลไม่คาดฝันตามมา คลีโอเลยอยากให้คุณลองถอยออกมา แล้วมองการแต่งงานใหม่ ลองดูว่าคุณเป็นแบบนี้หรือเปล่านะ?
1.ตกหลุมรักแบบหมดตัวหมดใจ
สัญญาณแรกเลยก็คือเมื่อคุณพบ “คนที่ใช่” แล้ว คุณก็คิดว่าคนนี้ล่ะที่อยากใช้ทั้งชีวิตด้วย คุณเริ่มรู้สึกตื่นเต้นที่จะไปต่อกับเขา ถ้ามองดีๆ คือ คุณเพิ่งรู้จักเขาไปได้ไม่ถึง 3 เดือนไม่ใช่หรือ? คนเรายังกระชากหน้ากากออกมาไม่หมดในเวลาเพียงเท่านั้นหรอกนะ
2.พยายามหาเหตุผลว่า คนที่แต่งงานเร็ว มักจะเวิร์คกว่า
คุณพยายามมองหาตัวอย่างคู่รักแห่งชาติ ที่พวกเขาแค่จับมือกันครั้งแรกก็เป็นโซลเมทกันแล้ว คุณไม่เชื่อเรื่องระยะเวลาในการคบ แต่ใช้สัญชาติญาณเป็นตัวบอก และเมื่อเจอใครที่เป็นแบบนั้น คุณก็ยึดคนๆ นั้นเป็นที่ตั้งของชีวิตเอาเลย
3.ถ้าไม่แต่งฉันอาจจะตามคนอื่นไม่ทัน
คุณเริ่มรู้สึกว่าคนรอบๆ ตัวคุณแต่งงานกันไปหมดแล้ว สถานการณ์กดดันให้คุณต้องรีบหาใครสักคน แล้วลงหลักปักฐาน เดี๋ยวชีวิตจะไปต่อไม่ได้อะไรแบบนี้
4.พร้อมแล้วแต่แบบยังไม่รู้เลยว่าถ้าอุปสรรคมา อีกฝ่ายจะเป็นยังไง
คุณยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนรักของคุณเขารับมือกับความเครียดในชีวิตยังไง ถ้ามีอุปสรรคเข้ามาเขาไหวมั้ย หรือถ้าอยู่ดีๆ ต้องห่างกัน หรืออีกคนป่วย เขาจะเป็นคนรักยังไง สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวบอกได้ว่าไปกันรอดมั้ยถ้าแต่งงาน เรียกว่าสำคัญอันดับต้นๆ สำคัญกว่าความรักอีกด้วยซ้ำ
5.แต่งงานกันไปแต่เข้ากับครอบครัวและเพื่อนของเขาไม่ได้เลย
ขอถามก่อนตัดสินใจนะ ว่ารู้จักครอบครัวและเพื่อนเขาดีหรือยัง เพราะคนเหล่านี้ต้องเข้ามาอยู่ในชีวิตเขาตลอดเวลา และสำคัญกับเขามากด้วย เช็คเรื่องนี้ก่อน หรือถ้ายังเอาให้แน่ใจว่าเข้ากันได้แน่ๆ ก่อนดีมั้ย
6.เอาเข้าจริงก็ไม่เคยมีบทสนทนาที่ดีพๆ กันเลยด้วยซ้ำ
คือเราจะแต่งงานไปแต่ไม่เปิดใจกัน หรือไม่เคยคุยเรื่องลึกซึ้งกันเลย จะดีหรือ? เพราะชีวิตจะพาให้ยังไงก็ต้องมีเรื่องอะไรที่เกิดคาดเสมอ เราจะเข้าใจหัวใจกันดีแล้วจริงหรือ? ถ้าคุณและเขาจะคุยอะไรกันดีพๆ ทีไร ก็มักพังทุกที อย่าเพิ่งรีบแต่งเลยนะ ฮือๆๆๆ
7.คนรักของคุณยังไปถึงสิ่งที่เขาอยากทำไม่ได้
เป็นเรื่องใหญ่ของผู้ชายเลยนะ ว่าเขาต้องมีทิศทางของชีวิตที่ชัดเจนก่อน ยิ่งถ้าเขาโปรเจ็คท์เยอะ แต่ทำอะไรไม่รอดสักอย่าง เดาไว้ก่อนเลยว่าจะมีปัญหาแน่ๆ เพราะพอแต่งงานไป จะต้องช่วยกันสร้างครอบครัว ภาระอาจตกอยู่กับคุณจนงงไปเลยก็ได้นะ เอาให้เขามั่นใจในตัวเองก่อนเลยดีกว่ามั้ย
8.อยากแต่งงานเพราะกลัวว่าจะแก่เกินไป
บางคนคิดว่าจะแต่งงานตอนอายุ 25 แล้วพอไม่ได้ ก็กระเถิบไปทีละปีสองปี จนถ้าเลย 32 จะเริ่มกลัวแล้ว ยิ่งถ้าเพื่อนรอบตัวแต่งงานกันไปหมด ทีนี้หนาวเลย การกลัวอายุจะทำให้เรามืดบอดเรื่องเลือกคู่ได้ จะบอกว่าถ้าอยู่กันไปยาวๆ แล้วไม่ใช่ ทุกข์หนักกว่าไม่แต่งงานแน่นอน อย่าคิดว่า “ขอให้แต่งแล้วเดี๋ยวไปว่ากัน” มันไม่ง่ายขนาดนั้นจริงๆ นะ ออกยากมาก แล้วเอาชีวิตเราไปหมดเลย
9.ถ้าได้แต่งงาน ชีวิตคงมั่นคงขึ้น
เป็นอีกความเชื่อที่จะเป็นกับดักให้เรารีบแต่งเกินไปได้ คิดให้จบจะรู้ว่าความมั่นคงในชีวิต เราคือคนสร้างเองนะ เราหวังให้ใครมาเป็นแพให้เราเกาะไม่ได้เลย แต่เขาอาจจะมาเกาะเรามากกว่าไหม ถ้าเราสร้างตัวเราให้มั่นคงได้ ในทางกลับกันนอกจากไม่ต้องพึ่งใครแล้ว เรายังมีสกิลล์และประสบการณ์ของเราด้วย
10.อยู่ดีๆ ก็ชวนเขาคุยเรื่องแต่งงาน แล้วจะแต่งให้ได้
คือเป็นอาการต้องการการผูกมัดทันที ถามไปถามมา เธออยากมีบ้านแบบไหน อยากมีลูกกี่คน ก็เลยคิดว่าถ้าอย่างนั้นแต่งกันเลยแล้วกัน แล้วอาจเผลอไปวางแผนกดดันเขาแบบเนียนๆ คือเราเอาตัวเข้าไปอยู่ในระบบความคิดที่เราคิดเองล้วนๆ ว่าควรแต่ง! แต่มันไม่ใช่ความพร้อมแท้จริงน่ะสิ งานเข้าได้เลยนะ
อ่านเรื่องอื่นต่อได้ที่ 54 ความในใจของผู้หญิงที่แต่งงานมาเกิน 10 ปี