เรามักเชื่อกันว่า “การแต่งงาน” จะมอบประสบการณ์แสนวิเศษให้กับชีวิตรักของเรา และจะทำให้เรายิ่งรักกันแนบแน่น แต่งงาน มีลูก สร้างครอบครัว แต่ๆๆ ในความเป็นจริงอาจไม่เป็นแบบนั้นน่ะสิ!
เพราะถ้าเราเลือกคู่ที่ไม่ใช่ การแต่งงานก็กลายเป็นฝันร้ายที่เราต้องพูดประโยคว่า “คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า” กันเลยดีกว่า รีบแต่งงานเลยไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก และอาจทำให้เกิดผลไม่คาดฝันตามมา คลีโอเลยอยากให้คุณลองถอยออกมา แล้วมองการแต่งงานใหม่ ลองดูว่าคุณเป็นแบบนี้หรือเปล่านะ?
1.ตกหลุมรักแบบหมดตัวหมดใจ
สัญญาณแรกเลยก็คือเมื่อคุณพบ “คนที่ใช่” แล้ว คุณก็คิดว่าคนนี้ล่ะที่อยากใช้ทั้งชีวิตด้วย คุณเริ่มรู้สึกตื่นเต้นที่จะไปต่อกับเขา ถ้ามองดีๆ คือ คุณเพิ่งรู้จักเขาไปได้ไม่ถึง 3 เดือนไม่ใช่หรือ? คนเรายังกระชากหน้ากากออกมาไม่หมดในเวลาเพียงเท่านั้นหรอกนะ
2.พยายามหาเหตุผลว่า คนที่แต่งงานเร็ว มักจะเวิร์คกว่า
คุณพยายามมองหาตัวอย่างคู่รักแห่งชาติ ที่พวกเขาแค่จับมือกันครั้งแรกก็เป็นโซลเมทกันแล้ว คุณไม่เชื่อเรื่องระยะเวลาในการคบ แต่ใช้สัญชาติญาณเป็นตัวบอก และเมื่อเจอใครที่เป็นแบบนั้น คุณก็ยึดคนๆ นั้นเป็นที่ตั้งของชีวิตเอาเลย
![marry me02](https://i0.wp.com/cleothailand.com/wp-content/uploads/2023/05/334703904_1321178688611571_2096725653555915847_n-1024x536.jpg?resize=750%2C393&ssl=1)
3.ถ้าไม่แต่งฉันอาจจะตามคนอื่นไม่ทัน
คุณเริ่มรู้สึกว่าคนรอบๆ ตัวคุณแต่งงานกันไปหมดแล้ว สถานการณ์กดดันให้คุณต้องรีบหาใครสักคน แล้วลงหลักปักฐาน เดี๋ยวชีวิตจะไปต่อไม่ได้อะไรแบบนี้
4.พร้อมแล้วแต่แบบยังไม่รู้เลยว่าถ้าอุปสรรคมา อีกฝ่ายจะเป็นยังไง
คุณยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนรักของคุณเขารับมือกับความเครียดในชีวิตยังไง ถ้ามีอุปสรรคเข้ามาเขาไหวมั้ย หรือถ้าอยู่ดีๆ ต้องห่างกัน หรืออีกคนป่วย เขาจะเป็นคนรักยังไง สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวบอกได้ว่าไปกันรอดมั้ยถ้าแต่งงาน เรียกว่าสำคัญอันดับต้นๆ สำคัญกว่าความรักอีกด้วยซ้ำ
5.แต่งงานกันไปแต่เข้ากับครอบครัวและเพื่อนของเขาไม่ได้เลย
ขอถามก่อนตัดสินใจนะ ว่ารู้จักครอบครัวและเพื่อนเขาดีหรือยัง เพราะคนเหล่านี้ต้องเข้ามาอยู่ในชีวิตเขาตลอดเวลา และสำคัญกับเขามากด้วย เช็คเรื่องนี้ก่อน หรือถ้ายังเอาให้แน่ใจว่าเข้ากันได้แน่ๆ ก่อนดีมั้ย
6.เอาเข้าจริงก็ไม่เคยมีบทสนทนาที่ดีพๆ กันเลยด้วยซ้ำ
คือเราจะแต่งงานไปแต่ไม่เปิดใจกัน หรือไม่เคยคุยเรื่องลึกซึ้งกันเลย จะดีหรือ? เพราะชีวิตจะพาให้ยังไงก็ต้องมีเรื่องอะไรที่เกิดคาดเสมอ เราจะเข้าใจหัวใจกันดีแล้วจริงหรือ? ถ้าคุณและเขาจะคุยอะไรกันดีพๆ ทีไร ก็มักพังทุกที อย่าเพิ่งรีบแต่งเลยนะ ฮือๆๆๆ
7.คนรักของคุณยังไปถึงสิ่งที่เขาอยากทำไม่ได้
เป็นเรื่องใหญ่ของผู้ชายเลยนะ ว่าเขาต้องมีทิศทางของชีวิตที่ชัดเจนก่อน ยิ่งถ้าเขาโปรเจ็คท์เยอะ แต่ทำอะไรไม่รอดสักอย่าง เดาไว้ก่อนเลยว่าจะมีปัญหาแน่ๆ เพราะพอแต่งงานไป จะต้องช่วยกันสร้างครอบครัว ภาระอาจตกอยู่กับคุณจนงงไปเลยก็ได้นะ เอาให้เขามั่นใจในตัวเองก่อนเลยดีกว่ามั้ย
![marry me01](https://i0.wp.com/cleothailand.com/wp-content/uploads/2023/05/343527792_223274767195624_8162974974277714258_n-1024x536.jpg?resize=750%2C393&ssl=1)
8.อยากแต่งงานเพราะกลัวว่าจะแก่เกินไป
บางคนคิดว่าจะแต่งงานตอนอายุ 25 แล้วพอไม่ได้ ก็กระเถิบไปทีละปีสองปี จนถ้าเลย 32 จะเริ่มกลัวแล้ว ยิ่งถ้าเพื่อนรอบตัวแต่งงานกันไปหมด ทีนี้หนาวเลย การกลัวอายุจะทำให้เรามืดบอดเรื่องเลือกคู่ได้ จะบอกว่าถ้าอยู่กันไปยาวๆ แล้วไม่ใช่ ทุกข์หนักกว่าไม่แต่งงานแน่นอน อย่าคิดว่า “ขอให้แต่งแล้วเดี๋ยวไปว่ากัน” มันไม่ง่ายขนาดนั้นจริงๆ นะ ออกยากมาก แล้วเอาชีวิตเราไปหมดเลย
9.ถ้าได้แต่งงาน ชีวิตคงมั่นคงขึ้น
เป็นอีกความเชื่อที่จะเป็นกับดักให้เรารีบแต่งเกินไปได้ คิดให้จบจะรู้ว่าความมั่นคงในชีวิต เราคือคนสร้างเองนะ เราหวังให้ใครมาเป็นแพให้เราเกาะไม่ได้เลย แต่เขาอาจจะมาเกาะเรามากกว่าไหม ถ้าเราสร้างตัวเราให้มั่นคงได้ ในทางกลับกันนอกจากไม่ต้องพึ่งใครแล้ว เรายังมีสกิลล์และประสบการณ์ของเราด้วย
10.อยู่ดีๆ ก็ชวนเขาคุยเรื่องแต่งงาน แล้วจะแต่งให้ได้
คือเป็นอาการต้องการการผูกมัดทันที ถามไปถามมา เธออยากมีบ้านแบบไหน อยากมีลูกกี่คน ก็เลยคิดว่าถ้าอย่างนั้นแต่งกันเลยแล้วกัน แล้วอาจเผลอไปวางแผนกดดันเขาแบบเนียนๆ คือเราเอาตัวเข้าไปอยู่ในระบบความคิดที่เราคิดเองล้วนๆ ว่าควรแต่ง! แต่มันไม่ใช่ความพร้อมแท้จริงน่ะสิ งานเข้าได้เลยนะ
อ่านเรื่องอื่นต่อได้ที่ 54 ความในใจของผู้หญิงที่แต่งงานมาเกิน 10 ปี