15 กฎเหล็กแห่งการมูฟออน “สัญญากับตัวเอง ว่าเราต้องทำให้ได้นะ”

อย่างแรกเลยคือเซ็ตความตั้งใจให้ตัวเอง “ฉันจะต้องขึ้นมาจากหลุมให้ได้” แรงใจที่เราอยากเห็นตัวเองมีความสุข จะพาเรามูฟออนได้เกลี้ยง 100% แน่นอน เริ่มขยับตัวออกจากหลุมกันเลยนะ… เพราะเราจะไม่ยอมจมปลัก ไม่ยอมแพ้ใจตัวเอง เรามองเห็นตัวเองนี่นา ว่าเราจะมีความสุขใสๆ ได้กว่านี้ เราเลยต้องให้กำลังใจตัวเอง ตั้งกฏเหล็กให้ตัวเอง คนอย่างฉัน ไม่มีเธอ ฉันก็มูฟออนสวยๆ ได้ ว่าแล้วลุยกันเลย!! อ่านเรื่องราวอื่นๆ ต่อได้ที่ ฮาวทูรักตัวเอง เมื่อต้องมูฟออนจริงๆ

ฉันไม่โชคดีพอที่จะมีผู้ชายสักคน “มองเห็นฉันในแบบที่ฉันเป็น”

ฉันไม่ได้โชคดีแบบนั้น ฉันไม่ได้โชคดีพอที่จะมีผู้ชายสักคนมองเห็นฉันในแบบที่ฉันเป็น มองเห็นความเจ็บปวดของฉัน และอยากฉุดฉันขึ้นไป ไม่มีวิธีไหนอีกแล้วที่ฉันจะบอกตัวเองได้ดีไปกว่า “ยอมรับความจริงเถอะ” ทุกครั้งเวลาที่ฉันเห็นใครๆ เขารักกัน ความหวังในใจ ความเพ้อทุกครั้งที่กดแอปสีดำแดงเพื่อเลือกซีรีย์เกาหลีเรื่องใหม่ โจทย์ของฉันไม่มีอะไรมาก ต้องเป็นเรื่องที่ฉันสามารถสมมุติตัวเองเป็นนางเอกในเรื่องได้ แล้วจินตนาการต่อว่า บางทีฉันอาจจะเจอผู้ชายในชีวิตจริง ที่เป็นเหมือนพระเอกในเรื่อง หนังสือฮาวทูบอกว่า ให้คิดว่าอยากได้ผู้ชายแบบไหน ลิสต์ออกมาให้เยอะที่สุด แล้วตัดออกให้เหลือสัก 10 ข้อว่านั่นคือคุณสมบัติผู้ชายที่อยากได้ ฉันลองทำและกุมลิสท์นั้นไว้แน่นในกระเป๋าสตางค์ เอามาเปิดอ่านบ่อยๆ ด้วย บางทีที่เขาบอกว่าคืนพระจันทร์เต็มดวง พระจันทร์จะมอบพลังงานของความรักดูดใครให้เข้ามาในชีวิต ฉันจะเอาลิสท์นั้น ออกไปหาแสงจันทร์ ตั้งจิตอธิษฐาน แล้วนึกถึงเขา แน่นอนว่าฉันมีความเชื่อ ยังคงเชื่อ และก็จะเชื่อต่อไป เรื่องราวในโทรศัพท์กับเพื่อนสาว เราจะวนเวียนกันที่ซีรีย์ที่เพิ่งดู กรี๊ดพระเอก อยากบินไปเกาหลี แล้วเราก็จะกลับมาที่เรื่องของเรากัน ทำไมเพื่อนคนนั้นได้แฟนดีจัง แฟนเขาพาไปเมืองนอกบ่อยมากเลย เขาไปทริปกันอีกแล้ว ฉันกับเพื่อนก็ได้แต่พยายามหาเรื่องเน่าๆ ในเรื่องรักของคนอื่น “แต่พวกเขาอาจมีอะไรไม่แฮปปี้ก็ได้นะ พวกเราไม่มีทางรู้หรอก” มันคงเป็นคำปลอบใจที่เราบ่นให้กันฟัง แต่ฉันก็ยังไม่มีใครเข้ามาในชีวิตอยู่ดี “ที่เธอเหนื่อยเพราะไม่มีคนรักหรือเปล่า?” ประโยคจากเรื่อง My Liberation Notes หัวหน้าของพี่สาวนางเอกถามขึ้นมา หลังจากที่เธอมาทำงานแล้วบ่นว่าเหนื่อยๆๆๆๆ ทำไมชีวิตฉันถึงเหนื่อยขนาดนี้ […]

คุณหมอสา-Guardian Diamond พี่สาวที่เปิดประตูลับ ช่วยเคลียร์พลังงานลบให้คุณพบความสำเร็จ

ตั้งแต่เข้าปี 2024 ที่ผ่านมา คลีโอขอบอกว่านี่เป็นการสัมภาษณ์ที่เบิกเนตรให้เรารู้สึกมีความหวังและกำลังใจ รู้สึกว่าจักรวาลมอบของล้ำค่าเอาไว้ให้เราเสมอ เป็นเรื่องไม่บังเอิญที่ทำให้เราได้เจอกับคุณหมอสา หรือหลายคนรู้จักเธอในชื่อ Doctor Diamond กับฉายาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเรื่องเพชรที่ไม่ได้จบแพทยศาสตร์ แต่เป็นผู้ที่ช่วยเยียวยาให้ความรู้กับคนที่สนใจเรื่องเพชร รวมทั้งก้าวเข้ามาแก้ปัญหาชีวิตด้วยพลังของ “เพชรดิบ” ที่ค้นพบพลังงานอันยิ่งใหญ่นี้จนกลายมาเป็นแบรนด์ Guardian Diamond ที่สายมูบอกว่ามาลองแล้วขนลุกซู่ทุกคน ลูกสาวครอบครัวคนจีนที่ฝึกค้าขายตั้งแต่เด็ก “ตอนเด็กไม่รู้ว่าเราอยากเป็นอะไร พ่อแม่อยากให้เรียนที่เอแบค เพราะเห็นว่าเราภาษาดีมาตั้งแต่เด็ก เราไม่มีฝันเลย เป็นเจเนอเรชั่นที่ที่บ้านเป็นคนจีน ดังนั้นก็จะมีบอกแค่ว่าต้องมาช่วยพ่อแม่นะ เราก็รู้สึกว่าเราต้องทําไปจนตลอดชีวิต ไม่เคยมีความคิดอื่นเลย ที่บ้านทำธุรกิจขายเพขร เรียนจบมาให้ไปเรียนดูเพชรนะ เราก็ไป ซึ่งเรียนดูเพชรของสถาบัน GIA ซึ่งตอนนั้นมีสาขาในประเทศไทย เป็นโรงเรียนเล็กๆ ในยุค IMF ค่ะนานมากแล้ว” “คุณพ่อคุณแม่พยายามหนักมากในการส่งเราเรียนนะคะ จําได้เลยว่าแม่ให้เราเดินเข้าไปถามแล้วขอตีเช็ค 4 ใบจ่ายค่าเทอมได้ไหม ช่วงนั้นเราก็รู้เลยว่าชีวิตไม่ได้ง่าย ต้องเรียนให้จบกลับไปช่วยเขา เพราะแม่ก็จะพูดตลอด ตาแม่ก็เริ่มไปแล้วนะ เหมือนเขามาเปิดร้านตอนประมาณ 40 กว่าแล้ว ดังนั้นจะให้เค้าดูเพชรไปตลอดก็เป็นไปไม่ได้ เราเริ่มทําทุกอย่างตั้งแต่เสิร์ฟน้ํา เช็ดตู้ วิ่งงาน บางทีมีงานช่าง เราก็ขับรถออกไปเอง เดินส่งของส่งงาน แม่จะเหน็บเราไปด้วย […]

5 วัดปังในฮ่องกง ขออะไรเทพให้รัวๆ

“เก่งอย่างเดียวแต่ไม่เฮงก็ประสบความสำเร็จยาก” คำพูดนี้ดูจะไม่เกินความจริงไปสักเท่าไหร่นัก ในปัจจุบันเป็นยุคที่วัยรุ่นกำลังสร้างตัว หลายๆคนที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจบางคนบอกว่าเกิดจากความสามารถของตัวเอง แต่หลายๆคนเปิดเผยความลับว่าส่วนหนึ่งมาจากการมูในสถานที่ที่มีพลังงานประกอบกับพิธีกรรมที่ถูกต้องทำให้มีทั้งพลังจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์และกำลังใจในการประกอบธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ




Women's Stories

โลกที่เปิดกว้างมากขึ้นกับการไม่จำกัดทางเพศ

ฟลุ้ค กะล่อน

ชวนอ่านบทสัมภาษณ์ ฟลุ๊ค–ธรรณพ แสงโอสถ หรือ Flukkaron ผู้ประสบความสำเร็จบนโลกออนไลน์ที่มีผู้ติดตามกว่าหลายล้านคน การแสดงจุดยืนทางการเมือง ความเท่าเทียม และการเปิดกว้างการไม่จำกัดเพศ

ชีวิตนอกกรมทหาร จุดเปลี่ยนชีวิตสู่โลกกว้าง

ตั้งแต่คุณพ่อเสียเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตที่สุดทำให้เธอรู้จักโลกภายนอกมากขึ้น ทุกอย่างที่อยู่ในใจอะไรที่เธอไม่เคยรู้เธอก็ได้รู้เพราะเธอถูกรอบล้อมไปด้วยกรมทหารในชุมชน ไม่ได้ออกไปห้างไปเจออะไร มันทำให้เธอโตขึ้น หลังจากนั้นชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมากเพราะฟลุ๊คโตในกรมทหาร เป้าหมายตอนนั้นรู้แค่ว่าต้องเป็นทหารเพราะพ่อแม่อยากให้เป็นทหาร  แต่หลังจากพ่อเสียเธอก็รู้ว่ามีอะไรให้ทำอีกเยอะมีหลายอาชีพ ตอนแรกก็เป็นช่างแต่งหน้าเพราะเธอชอบการแต่งหน้า ทำเสื้อผ้า เป้าหมายเปลี่ยนไปเรื่อยๆเลยตั้งแต่เด็กจนโต เหมือนเปลี่ยนไปตามกาารใช้ชีวิตที่โตขึ้นเรื่อยๆ

“หนวด” ไม่ใช่ข้อต้องห้ามของการแต่งหน้า

การมีหนวดไม่ได้ทำให้เธอหยุดสะบัดแปรงแต่งหน้า เพราะจุดเริ่มต้นของการแต่งหน้าของเธอเริ่มขึ้นตั้งแต่ประมาณอายุ 18 เธอเล่าว่าตอนนั้นแพ้ครีมมีสิว อยากหาไรมาปกปิดนี่คือจุดเริ่มต้น ซึ่งตอนนั้นเราไม่รู้หรอกว่ารองพื้นมีกี่เบอร์ รู้แค่ว่าลงรองพื้นอะไรก็ได้ที่ไม่เห็นสิว ตอนแรกก็ซื้อเบอร์ขาวๆมาก่อน เริ่มจากที่เธอโดนกดดันโดนบุลลี่มาเยอะมากๆ หน้าเทาหน้าลอย มีหนวด เธอก็รู้แล้วว่าโอเคแบบนี้ไม่ดีไม่สวย หลังจากนั้นก็ค่อยๆฝึก 3ปี 4ปี มีไปเรียนทฤษฎีการแต่งหน้า แล้วค่อยๆให้ทุกคนเห็นว่าที่ทุกคนพูดวันนั้น ในวันนี้เธอค่อยๆฝึกการแต่งหน้าจนมาถึงทุกวันนี้ตลอด 7 ปี สู่วงการบิวตี้บล็อกเกอร์

ชีวิตไม่ติดสคริปต์ ไลฟสไตล์ง่ายๆของฟลุ๊คกะล่อนที่กวาดผู้ติดตามกว่าหลายล้านคน

การจะมีผู้ติดตามหลายล้านคนบนโลกออนไลน์คงจะเป็นเรื่องยาก แต่เธอ ฟลุ๊คกะล่อน เน็ตไอดอลต้นแบบของใครหลายๆคนที่กวาดผู้ติดตามกว่าหลายล้านจากความประทับใจในตัวเธอ ทั้งจุดยืน การแสดงออก และทัศนคติ

เธอเล่าว่า จริงๆฟลุ๊คไม่รู้จักคำว่า content creator หรอก เรารู้แค่ว่าทำอะไรก็ได้ให้คนแชร์รูปไลค์รูป จนมีงานรีวิว ทำอะไรก็ตามที่ให้มีคนแชร์ให้เราดังซึ่งในตอนนั้นเราอยู่แพลทฟอร์มเฟสบุค พอมีการจับกุมสินค้าขึ้นมาหลายๆอย่างที่ผิดกฎหมาย เราถือไปแล้วครึ่งนึงเลยรู้สึกว่าไม่ได้ละ ถึงเราจะเป็นคนรีวิวเราก็เป็นผู้บริโภคเหมือนกัน ถ้าเขาหลอกเราเราก็ซื้อตามในสิ่งที่ไม่ดีในฐานะที่เป็นคนรีวิวสินค้าเหมือนกัน สิ่งนี้มันคือความผิดพลาด แต่ทุกการผิดพลาดสอนให้เราเป็นคนที่ดีขึ้น เราเลยยกเลิกแพลทฟอร์ม Facebook นั้นทั้งหมดแล้วก็ย้ายมาใน ยูทูป แล้วตอนนั้นคนยังไม่เยอะเลยแทบไม่มี จึงเริ่มจากลองทำคลิปรีวิวแต่งหน้าดู ทุกอย่างในบริษัทเราไม่มีสคริปกันเลย ลูกค้าจะตกใจมากทุกครั้งที่มาจ้างว่าไม่มีสคริป แต่เป็นสิ่งที่เราเรียกมันว่า ไลฟสไตล์มากกว่า แต่พอมันถูกอยู่ในกระบวนการตัดต่อเลยออกมาเป็นสิ่งที่เรียกว่า content

เรื่องของคนสองคนที่ถูกสร้างขึ้นมา ไม่ควรมีใครมาเดือดร้อน

ต้องบอกก่อนเลยว่า ฟลุ๊คกะล่อน เธอคือผู้รณรงค์สนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศเสมอมา เธอบอกว่าอยากสนับสนุนสมรสเท่าเทียม อย่างแรกเลย สำหรับตัวฟลุ๊คกับแฟนที่คบกันมา 8 ปี แล้วพ่อแม่ฟลุ๊คเสียหมดแล้ว ถ้าเรื่องของการที่ใครเจ็บป่วย แฟนฟลุ๊คไม่สามารถเซ็นหรือทำอะไรแทนฟลุ๊คได้เลย พ่อแม่ฟลุ๊คเสียไปแล้วญาติก็ไม่มี นั่นคือส่วนนึงของสมรสเท่าเทียม เพราะงั้นมันเป็นเรื่องของคนสองคน แล้วก็ไม่ใช่เรื่องของการสมรสหรือแต่งงาน แต่มันเป็นเรื่องของสิทธิที่จริงๆเราควรสร้างด้วยกันมา นั่นคือสิ่งที่เราเรียกร้อง อีกอย่างสมรสเท่าเทียมไม่ไ้ด้ทำให้การเป็น ชาย-หญิง ลดลงไป แต่มันคือสิทธิ์ที่ทุกคนควรจะได้เท่าเทียมกัน อย่างที่สอง เรื่องการเท่าเทียม ฟลุ๊คอยากบอกว่าทุกคนไม่มีเพศมาแบ่งแยก โลกเปิดกว้างมากขึ้นไม่มีเพศเราจะคุยกับใครก็ได้ไม่ต้องถามว่าเขาเพศไหน แค่เราคุยกันได้

ความไม่สมบูรณ์แบบคือความสวยงาม อย่างไม่จำกัดเพศ

ทุกตำหนิบนร่างกายคือความภาคภูมิใจของตัวเราไม่ว่าเพศไหนก็ตาม เธอรณรงค์มาตลอดเรื่อง beauty standard เธอบอกว่าหน้าเรียวผิวสวยอะไรแบบนี้ซึ่งเธอไม่ตรง beauty standard เลยตั้งแต่แรก มีหนวดอีกแต่งหญิงอีก เพราะหนวดเป็นสัญลักษณ์เพศชาย ทุกอย่างมันผิดไปหมด เพราะงั้นผิวพรรณที่มีรอยสิวรอยแตก หรือหน้าตาไม่เท่ากันบ้าง มันคือความธรรมชาติที่สร้างขึ้นมาเป็นความสวยงาม อยากบอกทุกคนว่าทุกคนสวยในแบบของตัวเองหมดเลย แล้วฟลุ๊คก็บอกแบบนี้มาตลอด 3-4 ปี จนตอนนี้มันไปไกลมากขึ้น เราเลยรู้สึกดีใจที่ใครหลายคนมั่นใจในตัวเองมากขึ้นที่ไม่ว่าไทป์ไหนหุ่นไหนก็กล้าใส่บิกินี่ จากที่ไม่เคยเห็นคนอ้วนใส่บิกินี่ก็กล้าใส่ ซึ่งถ้าจะรอผอมแล้วเมื่อไหร่เราจะได้ใส่ ถ้าเราไม่มั่นใจเราศัลยกรรมได้ ในเรื่องของผิวพรรณฟลุ๊คไม่เคยมีรอยแตกเลยจนครั้งนึงออกกำลังกายเยอะมากจนมีรอยแตกที่สะโพก ดีใจมากถ่ายลงเลยว่าฉันมีรอยแตกแล้วมันสวยมาก พอมีแล้วมันเซ็กซี่มีความเป็นธรรมชาติของผิวคนรู้สึกว่าชอบ แล้วก็บอกต่อกับทุกคนมาตลอด

ถ้าเราชอบ เรารักตัวเองมากพอ….

ทุกตำหนิบนร่างกาย เราจะรู้เลยว่าความธรรมชาติมันไม่ใช่กระดาษ A4 ทุกคนสวยในแบบของตัวเอง

เสียงจากฟลุ๊คกะล่อน พลังบวกสร้างขึ้นได้จากคนในกระจก

กระบอกเสียงจากคุณฟลุ๊คสร้างความมั่นใจให้กับผู้หญิงหลายๆคน เธอมีแนวคิดว่าการที่ได้ทำอะไรในสิ่งที่เราอยากทำโดยไม่สนใจใคร อยากใส่อะไรใส่ อยากทำผมแต่งหน้าอะไรทำ นั่นคือความสุขอย่างแท้จริงที่สามารถหาได้ในทุกๆวัน ทุกคนมีสไตล์เป็นของตัวเองมีธรรมชาติเป็นของตัวเอง การเคารพร่างกายตัวเอง ให้ความมั่นใจในตัวเอง ไม่ต้องรอให้ใครมาชม เราส่องกระจกออกจากบ้านพูดกับตัวเองว่า ฉันสวยจังเลยวันนี้ ให้พลังบวกกับตัวเองทุกวัน ถ้าเราเจอคอมเม้นหรืออะไรที่ไม่ดีมันจะทำให้เรามองผ่านตรงนี้ไปเลย เป็นทริคบอกตัวเองง่ายๆในทุกวัน

อยากขอบคุณทุกคน กว่าจะมีวันนี้ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย

ฟลุ๊คอยากขอบคุณทุกคนก่อนเลย เราก็ไม่คิดว่าจากวันที่เราถ่ายรูปตอนปิดเทอม ม3 จะมาถึงทุกวันนี้ได้ ฟลุ๊คอยู่ในวงการโซเชียลที่มักจะได้ยินว่า ตอนนี้รีบรับงานนะตอนกำลังดัง เพราะเนตไอดอล 2 ปีก็ลาวงการแล้วไม่มีชื่อเสียงแล้ว แต่เราอยู่ตรงนี้เข้าปีที่ 10 ขอบคุณตัวเอง ขอบคุณคนรอบข้าง ขอบคุณแฟนคลับ ขอบคุณคนที่ติดตามทั้งเก่าและใหม่ ขอบคุณที่ซัพพอร์ตกันที่ทำให้ชื่อฟลุ๊คกะล่อนยังอยู่มา 10 ปี แล้วก็ไม่ว่าฟลุ๊คกะล่อนจะขับเคลื่อนเรื่องไหนหรือรณรงค์เรื่องไหนก็มีคนที่พร้อมจะซัพพอร์ตไปด้วยทุกเรื่อง อยากจะขอบคุณทุกคนมากๆค่ะ 

ความรักกับพลังอันยิ่งใหญ่ทำให้อยากมีชีวิตต่อ

ความรักคือสิ่งที่เติมเต็มของฟลุ๊ค ฟลุ๊คไม่รู้ว่าตัวเองมีอะไรมากแค่ไหน ระยะเวลาที่คบกับแฟนมา 8 ปี รู้สึกว่ายิ่งเจออะไรหลายๆอย่างทำให้เรารู้ว่าเราขาดตรงนี้เติมตรงนั้น ทำให้รู้สึกว่าความรักมันทำให้เราอยากใช้ชีวิตต่ออยู่ต่อ เช่นเราเหนื่อยมากๆการที่เราได้คุย ได้กอด ได้จับมือ ทุกอย่างมันเยียวยาจิตใจมากๆ รู้สึกความรักเป็นพลังที่ดีมากๆ

รู้ตัวเมื่อไหร่ว่าเราไม่ได้อยากจะเป็นผู้ชาย

เราส่องกระจกแล้วรู้สึกว่าเราไม่ได้ชอบสิ่งที่เป็นอยู่ คือไม่ได้ชอบการไปเตะบอลหรือการไปไล่ฟันกันกับเพื่อน

เรื่องนี้เธอเล่าว่า ทุกคนรู้พร้อมกัน คือเราคุยกับแฟนแบบพี่น้องมาสองปี จนเรารู้สึกว่าเรามีความสุขมีความสบายใจที่คุยกับผู้ชายคนนี้ ไม่มีใครคิดมาก่อน ทุกคนก็ไม่มีใครตกใจทุกคนก็ซัพพอร์ต แต่อาจมีปัญหาเล็กน้อยเรื่องแม่ แม่ก็จะไล่แฟนออกจากบ้านทุกวัน เราก็พามาทุกวันเขาก็ไล่ไปทุกวัน แต่ฟลุ้คก็คิดว่าคงไม่มีใครรั้นไปตลอดหรอกสักวันเขาก็คงเข้าใจเป็นเวลาเกือบ 2 ปี จนกระทั่งวันนึงแม่ก็เริ่มเข้าใจว่าถึงเราเป็นแบบนี้มันก็ไม่เดือดร้อน แม่เห็นว่าเราดูแลตัวเองได้ไม่เดือดร้อนใครเขาก็โอเค 

เคล็ดลับการเดินสุดปังทุกรันเวย์ของฟลุ๊คกะล่อน

ใครหลายคนคงจะเคยพบเธอได้ตามงานเดินแบบ เบื้องหลังเคล็ดลับการแคสเดินแบบที่ผ่านทุกรันเวย์ของสาวคนนี้เธอเล่าว่า กะเทยกับการเดินส้นสูงเป็นของคู่กันตั้งแต่สมัยในห้องน้ำเด็กหัวโปก เราก็จะชอบเล่นผ้าเล่นอะไรอยู่แล้ว ความฝันทุกคนก็อยากจะเป็นนางงามนางแบบ ซึ่งเรื่องของการเดินแบบเราไม่ต้องไปเดินตามใคร นางงามกับนางแบบไม่เหมือนกัน นางงามจะมีแพทเทิร์น นางแบบรู้สึกว่ามันคือคาแรคเตอร์ใครคาแรคเตอร์มัน เคล็ดลับของฟลุ้คที่ไปแล้วผ่าน เพราะฟลุ๊คไม่เคยรู้สึกว่าอยากเดินแบบเหมือนนางแบบเมืองนอกคนนั้นคนนี้ ฟลุ๊ครู้สึกว่าการเดินแบบเราไม่ได้ขายตัวเราสวยแต่เราขายเสื้อผ้า เพราะงั้นเนี่ยเราเดินเป็นคาแรคเตอร์จะเดินช้าเดินเร็ว หลักๆแค่เป็นตัวของตัวเองพอ

ทุกความลงตัวของเครื่องสำอางค์สู่ แบรนด์ Karon Beauty

นอกจากนี้เธอยังมีแบรนด์เครื่องสำอางค์ที่ยอดขายถล่มทลาย Sold out ทุกแพลตฟอร์มการขายในไม่กี่ชั่วโมง กว่าจะเป็นแบรนด์นี้คุณฟลุ๊คเล่าว่า ชอบแต่งหน้ามากๆ แนวการแต่งหน้าแบบสายฝอ เราก็จะศึกษาการแต่งหน้าสายฝอว่าคืออะไร การสร้างโครงหน้า มีเชดดิ้ง การใช้มิติของแสงสี ให้เรามีโหนกแก้ม มีกรามเหมือนฝรั่ง เราก็ทำมาเรื่อยๆ จนฟลุ๊คมาเจอว่าต่างประเทศเขาจะนิยมใช้แป้งชนิดที่ไม่มีสีไม่มีรองพื้นมาสร้างมิติให้กับใบหน้า แล้วเราเป็นคนแต่งหน้าชัดมาก ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้คนแต่งหน้าสายฝอแต่งได้ชัดขึ้น เราเลยเลือกทำโปรดัคนี้ขึ้นมา แต่กลายเป็นว่าขายให้คนแต่งหน้าแค่ 20% แต่อีก 80% เป็นเด็กนักเรียนหมดเลย เพราะไม่มีสีเด็กนักเรียนก็จะชอบทาไปโรงเรียนกัน แต่ก็ดีเพราะได้หลายแบบดี

นอกจากนี้เธอกำลังเตรียมแบรนด์เสื้อผ้าที่ คิดว่าสิ้นปีนี้คงได้เริ่มปล่อยแล้ว รอติดตามกันได้เลย

“ทุกตำหนิที่เกิดขึ้นบนร่างกาย คือความสวยอย่างธรรมชาติที่อยู่ในตัวทุกคน”

ติดตามได้ที่ IG: flukkaron

ติดตามและสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่ IG: karon.beauty

อ่านเรื่องอื่น ๆ ได้ที่ CLEO Thailand และ FB > CLEO

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']