ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Women's Stories

โลกที่เปิดกว้างมากขึ้นกับการไม่จำกัดทางเพศ

ฟลุ้ค กะล่อน

ชวนอ่านบทสัมภาษณ์ ฟลุ๊ค–ธรรณพ แสงโอสถ หรือ Flukkaron ผู้ประสบความสำเร็จบนโลกออนไลน์ที่มีผู้ติดตามกว่าหลายล้านคน การแสดงจุดยืนทางการเมือง ความเท่าเทียม และการเปิดกว้างการไม่จำกัดเพศ

ชีวิตนอกกรมทหาร จุดเปลี่ยนชีวิตสู่โลกกว้าง

ตั้งแต่คุณพ่อเสียเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตที่สุดทำให้เธอรู้จักโลกภายนอกมากขึ้น ทุกอย่างที่อยู่ในใจอะไรที่เธอไม่เคยรู้เธอก็ได้รู้เพราะเธอถูกรอบล้อมไปด้วยกรมทหารในชุมชน ไม่ได้ออกไปห้างไปเจออะไร มันทำให้เธอโตขึ้น หลังจากนั้นชีวิตเปลี่ยนไปเยอะมากเพราะฟลุ๊คโตในกรมทหาร เป้าหมายตอนนั้นรู้แค่ว่าต้องเป็นทหารเพราะพ่อแม่อยากให้เป็นทหาร  แต่หลังจากพ่อเสียเธอก็รู้ว่ามีอะไรให้ทำอีกเยอะมีหลายอาชีพ ตอนแรกก็เป็นช่างแต่งหน้าเพราะเธอชอบการแต่งหน้า ทำเสื้อผ้า เป้าหมายเปลี่ยนไปเรื่อยๆเลยตั้งแต่เด็กจนโต เหมือนเปลี่ยนไปตามกาารใช้ชีวิตที่โตขึ้นเรื่อยๆ

“หนวด” ไม่ใช่ข้อต้องห้ามของการแต่งหน้า

การมีหนวดไม่ได้ทำให้เธอหยุดสะบัดแปรงแต่งหน้า เพราะจุดเริ่มต้นของการแต่งหน้าของเธอเริ่มขึ้นตั้งแต่ประมาณอายุ 18 เธอเล่าว่าตอนนั้นแพ้ครีมมีสิว อยากหาไรมาปกปิดนี่คือจุดเริ่มต้น ซึ่งตอนนั้นเราไม่รู้หรอกว่ารองพื้นมีกี่เบอร์ รู้แค่ว่าลงรองพื้นอะไรก็ได้ที่ไม่เห็นสิว ตอนแรกก็ซื้อเบอร์ขาวๆมาก่อน เริ่มจากที่เธอโดนกดดันโดนบุลลี่มาเยอะมากๆ หน้าเทาหน้าลอย มีหนวด เธอก็รู้แล้วว่าโอเคแบบนี้ไม่ดีไม่สวย หลังจากนั้นก็ค่อยๆฝึก 3ปี 4ปี มีไปเรียนทฤษฎีการแต่งหน้า แล้วค่อยๆให้ทุกคนเห็นว่าที่ทุกคนพูดวันนั้น ในวันนี้เธอค่อยๆฝึกการแต่งหน้าจนมาถึงทุกวันนี้ตลอด 7 ปี สู่วงการบิวตี้บล็อกเกอร์

ชีวิตไม่ติดสคริปต์ ไลฟสไตล์ง่ายๆของฟลุ๊คกะล่อนที่กวาดผู้ติดตามกว่าหลายล้านคน

การจะมีผู้ติดตามหลายล้านคนบนโลกออนไลน์คงจะเป็นเรื่องยาก แต่เธอ ฟลุ๊คกะล่อน เน็ตไอดอลต้นแบบของใครหลายๆคนที่กวาดผู้ติดตามกว่าหลายล้านจากความประทับใจในตัวเธอ ทั้งจุดยืน การแสดงออก และทัศนคติ

เธอเล่าว่า จริงๆฟลุ๊คไม่รู้จักคำว่า content creator หรอก เรารู้แค่ว่าทำอะไรก็ได้ให้คนแชร์รูปไลค์รูป จนมีงานรีวิว ทำอะไรก็ตามที่ให้มีคนแชร์ให้เราดังซึ่งในตอนนั้นเราอยู่แพลทฟอร์มเฟสบุค พอมีการจับกุมสินค้าขึ้นมาหลายๆอย่างที่ผิดกฎหมาย เราถือไปแล้วครึ่งนึงเลยรู้สึกว่าไม่ได้ละ ถึงเราจะเป็นคนรีวิวเราก็เป็นผู้บริโภคเหมือนกัน ถ้าเขาหลอกเราเราก็ซื้อตามในสิ่งที่ไม่ดีในฐานะที่เป็นคนรีวิวสินค้าเหมือนกัน สิ่งนี้มันคือความผิดพลาด แต่ทุกการผิดพลาดสอนให้เราเป็นคนที่ดีขึ้น เราเลยยกเลิกแพลทฟอร์ม Facebook นั้นทั้งหมดแล้วก็ย้ายมาใน ยูทูป แล้วตอนนั้นคนยังไม่เยอะเลยแทบไม่มี จึงเริ่มจากลองทำคลิปรีวิวแต่งหน้าดู ทุกอย่างในบริษัทเราไม่มีสคริปกันเลย ลูกค้าจะตกใจมากทุกครั้งที่มาจ้างว่าไม่มีสคริป แต่เป็นสิ่งที่เราเรียกมันว่า ไลฟสไตล์มากกว่า แต่พอมันถูกอยู่ในกระบวนการตัดต่อเลยออกมาเป็นสิ่งที่เรียกว่า content

เรื่องของคนสองคนที่ถูกสร้างขึ้นมา ไม่ควรมีใครมาเดือดร้อน

ต้องบอกก่อนเลยว่า ฟลุ๊คกะล่อน เธอคือผู้รณรงค์สนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศเสมอมา เธอบอกว่าอยากสนับสนุนสมรสเท่าเทียม อย่างแรกเลย สำหรับตัวฟลุ๊คกับแฟนที่คบกันมา 8 ปี แล้วพ่อแม่ฟลุ๊คเสียหมดแล้ว ถ้าเรื่องของการที่ใครเจ็บป่วย แฟนฟลุ๊คไม่สามารถเซ็นหรือทำอะไรแทนฟลุ๊คได้เลย พ่อแม่ฟลุ๊คเสียไปแล้วญาติก็ไม่มี นั่นคือส่วนนึงของสมรสเท่าเทียม เพราะงั้นมันเป็นเรื่องของคนสองคน แล้วก็ไม่ใช่เรื่องของการสมรสหรือแต่งงาน แต่มันเป็นเรื่องของสิทธิที่จริงๆเราควรสร้างด้วยกันมา นั่นคือสิ่งที่เราเรียกร้อง อีกอย่างสมรสเท่าเทียมไม่ไ้ด้ทำให้การเป็น ชาย-หญิง ลดลงไป แต่มันคือสิทธิ์ที่ทุกคนควรจะได้เท่าเทียมกัน อย่างที่สอง เรื่องการเท่าเทียม ฟลุ๊คอยากบอกว่าทุกคนไม่มีเพศมาแบ่งแยก โลกเปิดกว้างมากขึ้นไม่มีเพศเราจะคุยกับใครก็ได้ไม่ต้องถามว่าเขาเพศไหน แค่เราคุยกันได้

ความไม่สมบูรณ์แบบคือความสวยงาม อย่างไม่จำกัดเพศ

ทุกตำหนิบนร่างกายคือความภาคภูมิใจของตัวเราไม่ว่าเพศไหนก็ตาม เธอรณรงค์มาตลอดเรื่อง beauty standard เธอบอกว่าหน้าเรียวผิวสวยอะไรแบบนี้ซึ่งเธอไม่ตรง beauty standard เลยตั้งแต่แรก มีหนวดอีกแต่งหญิงอีก เพราะหนวดเป็นสัญลักษณ์เพศชาย ทุกอย่างมันผิดไปหมด เพราะงั้นผิวพรรณที่มีรอยสิวรอยแตก หรือหน้าตาไม่เท่ากันบ้าง มันคือความธรรมชาติที่สร้างขึ้นมาเป็นความสวยงาม อยากบอกทุกคนว่าทุกคนสวยในแบบของตัวเองหมดเลย แล้วฟลุ๊คก็บอกแบบนี้มาตลอด 3-4 ปี จนตอนนี้มันไปไกลมากขึ้น เราเลยรู้สึกดีใจที่ใครหลายคนมั่นใจในตัวเองมากขึ้นที่ไม่ว่าไทป์ไหนหุ่นไหนก็กล้าใส่บิกินี่ จากที่ไม่เคยเห็นคนอ้วนใส่บิกินี่ก็กล้าใส่ ซึ่งถ้าจะรอผอมแล้วเมื่อไหร่เราจะได้ใส่ ถ้าเราไม่มั่นใจเราศัลยกรรมได้ ในเรื่องของผิวพรรณฟลุ๊คไม่เคยมีรอยแตกเลยจนครั้งนึงออกกำลังกายเยอะมากจนมีรอยแตกที่สะโพก ดีใจมากถ่ายลงเลยว่าฉันมีรอยแตกแล้วมันสวยมาก พอมีแล้วมันเซ็กซี่มีความเป็นธรรมชาติของผิวคนรู้สึกว่าชอบ แล้วก็บอกต่อกับทุกคนมาตลอด

ถ้าเราชอบ เรารักตัวเองมากพอ….

ทุกตำหนิบนร่างกาย เราจะรู้เลยว่าความธรรมชาติมันไม่ใช่กระดาษ A4 ทุกคนสวยในแบบของตัวเอง

เสียงจากฟลุ๊คกะล่อน พลังบวกสร้างขึ้นได้จากคนในกระจก

กระบอกเสียงจากคุณฟลุ๊คสร้างความมั่นใจให้กับผู้หญิงหลายๆคน เธอมีแนวคิดว่าการที่ได้ทำอะไรในสิ่งที่เราอยากทำโดยไม่สนใจใคร อยากใส่อะไรใส่ อยากทำผมแต่งหน้าอะไรทำ นั่นคือความสุขอย่างแท้จริงที่สามารถหาได้ในทุกๆวัน ทุกคนมีสไตล์เป็นของตัวเองมีธรรมชาติเป็นของตัวเอง การเคารพร่างกายตัวเอง ให้ความมั่นใจในตัวเอง ไม่ต้องรอให้ใครมาชม เราส่องกระจกออกจากบ้านพูดกับตัวเองว่า ฉันสวยจังเลยวันนี้ ให้พลังบวกกับตัวเองทุกวัน ถ้าเราเจอคอมเม้นหรืออะไรที่ไม่ดีมันจะทำให้เรามองผ่านตรงนี้ไปเลย เป็นทริคบอกตัวเองง่ายๆในทุกวัน

อยากขอบคุณทุกคน กว่าจะมีวันนี้ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย

ฟลุ๊คอยากขอบคุณทุกคนก่อนเลย เราก็ไม่คิดว่าจากวันที่เราถ่ายรูปตอนปิดเทอม ม3 จะมาถึงทุกวันนี้ได้ ฟลุ๊คอยู่ในวงการโซเชียลที่มักจะได้ยินว่า ตอนนี้รีบรับงานนะตอนกำลังดัง เพราะเนตไอดอล 2 ปีก็ลาวงการแล้วไม่มีชื่อเสียงแล้ว แต่เราอยู่ตรงนี้เข้าปีที่ 10 ขอบคุณตัวเอง ขอบคุณคนรอบข้าง ขอบคุณแฟนคลับ ขอบคุณคนที่ติดตามทั้งเก่าและใหม่ ขอบคุณที่ซัพพอร์ตกันที่ทำให้ชื่อฟลุ๊คกะล่อนยังอยู่มา 10 ปี แล้วก็ไม่ว่าฟลุ๊คกะล่อนจะขับเคลื่อนเรื่องไหนหรือรณรงค์เรื่องไหนก็มีคนที่พร้อมจะซัพพอร์ตไปด้วยทุกเรื่อง อยากจะขอบคุณทุกคนมากๆค่ะ 

ความรักกับพลังอันยิ่งใหญ่ทำให้อยากมีชีวิตต่อ

ความรักคือสิ่งที่เติมเต็มของฟลุ๊ค ฟลุ๊คไม่รู้ว่าตัวเองมีอะไรมากแค่ไหน ระยะเวลาที่คบกับแฟนมา 8 ปี รู้สึกว่ายิ่งเจออะไรหลายๆอย่างทำให้เรารู้ว่าเราขาดตรงนี้เติมตรงนั้น ทำให้รู้สึกว่าความรักมันทำให้เราอยากใช้ชีวิตต่ออยู่ต่อ เช่นเราเหนื่อยมากๆการที่เราได้คุย ได้กอด ได้จับมือ ทุกอย่างมันเยียวยาจิตใจมากๆ รู้สึกความรักเป็นพลังที่ดีมากๆ

รู้ตัวเมื่อไหร่ว่าเราไม่ได้อยากจะเป็นผู้ชาย

เราส่องกระจกแล้วรู้สึกว่าเราไม่ได้ชอบสิ่งที่เป็นอยู่ คือไม่ได้ชอบการไปเตะบอลหรือการไปไล่ฟันกันกับเพื่อน

เรื่องนี้เธอเล่าว่า ทุกคนรู้พร้อมกัน คือเราคุยกับแฟนแบบพี่น้องมาสองปี จนเรารู้สึกว่าเรามีความสุขมีความสบายใจที่คุยกับผู้ชายคนนี้ ไม่มีใครคิดมาก่อน ทุกคนก็ไม่มีใครตกใจทุกคนก็ซัพพอร์ต แต่อาจมีปัญหาเล็กน้อยเรื่องแม่ แม่ก็จะไล่แฟนออกจากบ้านทุกวัน เราก็พามาทุกวันเขาก็ไล่ไปทุกวัน แต่ฟลุ้คก็คิดว่าคงไม่มีใครรั้นไปตลอดหรอกสักวันเขาก็คงเข้าใจเป็นเวลาเกือบ 2 ปี จนกระทั่งวันนึงแม่ก็เริ่มเข้าใจว่าถึงเราเป็นแบบนี้มันก็ไม่เดือดร้อน แม่เห็นว่าเราดูแลตัวเองได้ไม่เดือดร้อนใครเขาก็โอเค 

เคล็ดลับการเดินสุดปังทุกรันเวย์ของฟลุ๊คกะล่อน

ใครหลายคนคงจะเคยพบเธอได้ตามงานเดินแบบ เบื้องหลังเคล็ดลับการแคสเดินแบบที่ผ่านทุกรันเวย์ของสาวคนนี้เธอเล่าว่า กะเทยกับการเดินส้นสูงเป็นของคู่กันตั้งแต่สมัยในห้องน้ำเด็กหัวโปก เราก็จะชอบเล่นผ้าเล่นอะไรอยู่แล้ว ความฝันทุกคนก็อยากจะเป็นนางงามนางแบบ ซึ่งเรื่องของการเดินแบบเราไม่ต้องไปเดินตามใคร นางงามกับนางแบบไม่เหมือนกัน นางงามจะมีแพทเทิร์น นางแบบรู้สึกว่ามันคือคาแรคเตอร์ใครคาแรคเตอร์มัน เคล็ดลับของฟลุ้คที่ไปแล้วผ่าน เพราะฟลุ๊คไม่เคยรู้สึกว่าอยากเดินแบบเหมือนนางแบบเมืองนอกคนนั้นคนนี้ ฟลุ๊ครู้สึกว่าการเดินแบบเราไม่ได้ขายตัวเราสวยแต่เราขายเสื้อผ้า เพราะงั้นเนี่ยเราเดินเป็นคาแรคเตอร์จะเดินช้าเดินเร็ว หลักๆแค่เป็นตัวของตัวเองพอ

ทุกความลงตัวของเครื่องสำอางค์สู่ แบรนด์ Karon Beauty

นอกจากนี้เธอยังมีแบรนด์เครื่องสำอางค์ที่ยอดขายถล่มทลาย Sold out ทุกแพลตฟอร์มการขายในไม่กี่ชั่วโมง กว่าจะเป็นแบรนด์นี้คุณฟลุ๊คเล่าว่า ชอบแต่งหน้ามากๆ แนวการแต่งหน้าแบบสายฝอ เราก็จะศึกษาการแต่งหน้าสายฝอว่าคืออะไร การสร้างโครงหน้า มีเชดดิ้ง การใช้มิติของแสงสี ให้เรามีโหนกแก้ม มีกรามเหมือนฝรั่ง เราก็ทำมาเรื่อยๆ จนฟลุ๊คมาเจอว่าต่างประเทศเขาจะนิยมใช้แป้งชนิดที่ไม่มีสีไม่มีรองพื้นมาสร้างมิติให้กับใบหน้า แล้วเราเป็นคนแต่งหน้าชัดมาก ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้คนแต่งหน้าสายฝอแต่งได้ชัดขึ้น เราเลยเลือกทำโปรดัคนี้ขึ้นมา แต่กลายเป็นว่าขายให้คนแต่งหน้าแค่ 20% แต่อีก 80% เป็นเด็กนักเรียนหมดเลย เพราะไม่มีสีเด็กนักเรียนก็จะชอบทาไปโรงเรียนกัน แต่ก็ดีเพราะได้หลายแบบดี

นอกจากนี้เธอกำลังเตรียมแบรนด์เสื้อผ้าที่ คิดว่าสิ้นปีนี้คงได้เริ่มปล่อยแล้ว รอติดตามกันได้เลย

“ทุกตำหนิที่เกิดขึ้นบนร่างกาย คือความสวยอย่างธรรมชาติที่อยู่ในตัวทุกคน”

ติดตามได้ที่ IG: flukkaron

ติดตามและสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ได้ที่ IG: karon.beauty

อ่านเรื่องอื่น ๆ ได้ที่ CLEO Thailand และ FB > CLEO

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']