ตามหามานานกับการรักษาฝ้ากระสุดจึ้งด้วยเทคนิค SMAPS สิทธิบัตรเฉพาะ Chuladoctor Anti-Aging Center

ส่องกระจกทีไร ฝ้า กระแทกใจทุกครั้ง ต้นเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่สดใส แต่งหน้าก็ต้องปกปิดอย่างหนา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องการความสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คลีโอเลยหาข้อมูลว่าตอนนี้มีการรักษาฝ้ากระให้หายขาดอย่างไรได้บ้าง เพราะเข้าใจว่าสิ่งที่ทำได้ทุกวันนี้ก็แค่ประคองด้วยกันแดดปกป้องผิว หรือสกินแคร์ที่ใช้แล้วแทบไม่เห็นผลต่อปัญหาฝ้า กระ ผิวแพ้ง่ายเลย เพราะยิ่งอายุมากขึ้นฝ้ากระที่มีนั้นได้ฝังตัวลึกลงในชั้นผิว สะสมจนกลายเป็นความไม่มั่นใจ ไม่กล้าสบตาใครตรงๆ ปวดใจขนาดนี้ คลีโอเจอคำตอบแล้วว่ามีนวัตกรรมที่ช่วยรักษาฝ้ากระ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า เทคนิค “SMAPS” เป็นทางออกที่บอกลาฝ้ากระอย่างถาวร กับ Chuladoctor Anti-Aging Center คลินิกที่เชี่ยวชาญเรื่องรักษาฝ้า กระโดยเฉพาะ ถึงเวลาทวงคืนสีผิวที่เรียบเนียนให้กลับมาอย่างสง่างามพร้อมเผยผิวอย่างมั่นใจกันแล้ว สาเหตุของฝ้า กระที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่เลี่ยงได้ยาก! เราจะได้ยินรุ่นคุณแม่สอนว่าพยายามอย่าโดนแดดเยอะ แต่ปกป้องยังไง ฝ้าก็ยังมา และปัญหาฝ้ารักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายสักที เพราะจริงๆ แล้วสาเหตุของการเกิดกระและฝ้าไม่ใช่แค่แสงแดดที่มีรังสียูวีคอยทำร้ายอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องกรรมพันธุ์ การได้รับฮอร์โมนบางชนิดซึ่งยิ่งเมื่ออายุมาก ยิ่งรักษายากยิ่งขึ้นไปอีก โดยเฉพาะเมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปจะเห็นฝ้า กระที่ชัดเจน ดังนั้นการดูแลรักษาเองในชีวิตประจำวันอาจเอาไม่อยู่ ต้องไปคลินิกรักษาฝ้ากระ และปรึกษาทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีความเชียวชาญโดยด่วน Q: ทำไมที่ผ่านมา การรักษาฝ้ากระถึงเป็นเรื่องยาก ไม่หาย ซ้ำร้ายยังทำให้ผิวกลับแย่ลงกว่าเดิม!? A: […]

ในโลกของการทำงานเราเลือกได้เพียง 2 อย่าง อะไรคือสิ่งที่ใช่สุดสำหรับเรา

คนที่ทำงานบริษัทมีร่มกางไว้ให้แล้ว หรือคนที่ออกมาสร้างตัวเองและกางร่มด้วยตัวเอง ที่แปลกคือพอเรามีร่มกางไว้ให้แล้ว เราก็อยากออกไปกางร่มเอง แต่พอเรามากางร่มเอง เราก็รู้สึกว่ารู้อย่างนี้ไม่น่าออกมา แล้วอะไรคือร่มที่ใช่ที่สุดของเรา… การเป็นพนักงานบริษัทหรือทำงานแบบที่มีคนตั้งบริษัทรอเอาไว้ มีข้อดีคือเรามีเงินเดือนทุกเดือนแน่นอน เราแพลนชีวิตได้ตามเงินที่ได้มา เหมือนเรามีโฟกัสปักไว้เรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็แค่ทำตามสิ่งที่บริษัทตั้งเอาไว้ให้เรา อยากไต่สูงขึ้นแค่ไหน ก็ง้างศักยภาพออกมา เจออะไรก็ปะทะไปในแบบตามคัลเจอร์ขององค์กรนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง ไม่เกี่ยงงาน จับประเด็นได้ โฟกัส และทำอย่างสม่ำเสมอ ปล่อยวางบ้าง ฮึบบ้าง ผ่านไปสิบปีเราก็มีเงินเก็บได้ชิลล์ๆ แต่เราอาจถามตัวเองทุกวัน… จิตวิญญาณฉันยังอยู่ดีนะ ความฝันของฉันล่ะ ฉันจะต้องขับรถมาตึกนี้ทุกวันไปอีกนานแค่ไหน ตกลงฉันต้องทน ต้องเล่นตามน้ำ สิ่งที่อยากทำก็ต้องเงียบไว้ ไม่ชอบอะไรก็ต้องเฉยๆ แล้วปล่อยผ่าน ศักยภาพฉันใช้ไปเพียงเท่านี้จริงหรือ แพชชั่นล่ะ ความเป็นตัวเองล่ะ ฉันแค่มีเงินเดือนเป็นที่ตั้งจริงหรือ? แล้วถ้าเราทำงานแบบกางร่มให้ตัวเองล่ะ เหมือนจะดูสานฝัน เท่ เก๋ ได้ทำอะไรของตัวเองแล้ว เราอาจจะมองแค่ตัวเรากับสิ่งที่เราอยากทำ อยากจะสร้าง แต่เราไม่มีหลักใดๆ ไม่มีองคาพยพช่วยประกอบร่างใดๆ เราคนเดียวล้วนๆ ที่จะต้องลงมาเล่นในมหาสมุทรของการหาเลี้ยงชีพแล้ว แก่นต้องชัด เรียกว่าต้องแน่จริงเลย เราได้เป็นนายตัวเองเต็มที่ เรามีวิชั่นของตัวเองแล้ว แต่ก็มีสองทางให้เลือกนะ เลือกกางร่มให้ตัวเองแต่ยังต้องพึ่งร่มของคนอื่น หรือกางร่มของตัวเราล้วนๆ […]

“อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” ใช้แทนมื้ออาหารได้ มีสารอาหารหลากหลาย ดื่มได้ทุกวัน รสชาติอร่อย

ตั้งใจมาไม่รู้กี่ปีจนหมดหวังว่าชีวิตนี้จะลดน้ำหนักได้สักทีจริงๆ หรือเปล่า เพราะบอกตามตรงว่าก็ลองมาหมดแล้ว ทั้งวิธีอดอาหารซึ่งก็ผอมลงจริง แต่ร่างกายเพลียและหิวจนไม่มีแรงเหมือนได้สารอาหารไม่เพียงพอ ตอนที่เริ่มกลับมากินตามปกติ น้ำหนักก็ดีดเพิ่มมากกว่าเดิม หรือพอจะลองโหมออกกำลังกาย ได้หุ่นกระชับขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้หุ่นตามที่ฝันจนพับเก็บความตั้งใจที่จะลดน้ำหนักไปนาน แต่วันนี้มีเทคนิคลดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายยังได้รับโภชนาการที่ดีมาฝาก! ค้นพบเทคนิคลดน้ำหนักโดยไม่ต้องอดอาหาร หลักการลดน้ำหนักที่แนะนำคือต้องจำกัดพลังงานแคลอรีให้เหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการและยังต้องได้สารอาหารที่หลากหลาย แต่ความยากคือจะกินยังไงให้อิ่ม แคลอรีไม่เกิน ตอนนี้มีทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนักแต่ยังได้โภชนาการที่เหมาะสม ที่เรียกว่า “OPTIFAST” “อาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนัก” เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ที่คิดค้นโดย Nestlé Health Science ที่มีสารอาหารหลากหลายและเหมาะสม สามารถใช้รับประทานเพื่อทดแทนมื้ออาหารโดยไม่ลืมออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดน้ำหนักตามคำแนะนำของแพทย์ นี่คืออาหารทางการแพทย์เพื่อลดน้ำหนักที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องลดน้ำหนัก เพราะ… แชร์สูตรใส่ใจตัวเอง 1 วันกับ OPTIFAST* 1 มื้อ = OPTIFAST 1 ซอง2 มื้อ = อาหารพลังงานต่ำแบ่งรับประทานทั้งวันกับผลไม้สดที่มีน้ำตาลต่ำ 2 ผล, ผลิตภัณฑ์นมไขมันต่ำ ไม่เติมน้ำตาลทราย 1 แก้ว, ผักใบหรือผักที่มีแป้งต่ำ 2 ถ้วยและน้ำเปล่า 2 ลิตร *อาหารทางการแพทย์ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ Food […]

ถ้าเรารู้คุณค่าของตัวเองอย่างแท้จริง เราจะ “พอ” กับใครบางคนได้ชิลล์เลย

บางครั้งสิ่งที่อยากที่สุดในความสัมพันธ์ ไม่ใช่ตอนอยู่ในความสัมพันธ์นะ แต่ตอนที่เราอยากเดินออกมาใจแทบขาด แต่เราออกมาไม่ได้ ไม่แปลกหรอกที่เราจะรักใครแล้วเรามารู้ทีหลังว่า เรารักเขามากกว่าที่เขารักเรา และรู้ต่อว่าเราไม่ควรอยู่ในความสัมพันธ์นี้แล้ว เพราะมันจะทำร้ายเราแน่นอน เอาล่ะ! เมื่อเราผ่านกระบวนการเรียนรู้จักความรักครั้งนี้ รู้จักเขา เห็นตัวเอง เห็นเขาเรียบร้อยแล้ว และเรารู้แล้วว่าไม่เวิร์ค เราคงต้องเดินออกมา ถึงตอนนี้สิ่งที่เราติดก็คือ “ความสุขที่เคยมี ความทรงจำ คำพูดที่เหมือนจะจริงของเขา ความดีบางอย่างของเขา ความหวังที่อาจจะดีก็ได้ที่เราคิดไปเอง” ทั้งหมดมารั้งให้เราเดินออกมาจากความสัมพันธ์ไม่ได้สักที ไม่นับที่เราจะออกๆ เขาก็เกี่ยวเราเอาไว้ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะ “เรายังไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเต็มๆ” เรามักชอบคิดว่าเขาเจ๋งกว่าเรา เขาคิดเก่ง ทำงานเก่งว่าเรา เขาโรแมนติกจัง เขาน่ารักโน่นนี่ เขามีศักยภาพ เขา…บลาๆๆๆๆ แต่ขอถามคำหนึ่งเลยนะ แล้วเราล่ะ “เรามีอะไรที่เริ่ดบ้าง?” ถ้ายังคิดไม่ออกขอบอกสั้นๆ เลยที่เรามีแล้วเฉือนเขาแน่นอน “เรามีหัวใจรักที่เต็มไปด้วยความรัก” เราเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะมอบความรัก เห็นหัวใจของคนรัก เข้าใจคนรัก และทำอะไรให้ความรักของเราดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้คือคุณค่าของเรา และเมื่อคุณค่าตรงนี้ของเราถูกส่งไปหมดใจ แต่เขากลับส่งกลับมาบ้าง ไม่ส่งบ้าง เห็นคุณค่าบ้าง ไม่เห็นบ้าง หรือเห็นตอนที่เขาอยากได้อะไรจากเรา แล้วไปตอนที่เขาก็ไม่ได้อยากได้ในเวลานั้นของเขา แปลว่าเขาไม่ใช่คนที่มีหัวใจรักแบบเดียวกับเรา ก็ไม่แปลกที่เราจะรู้สึกจมๆ กับตัวเอง แล้วคอยถามตัวเองว่าทำไมๆๆๆๆ […]




Self Love, Women's Stories

ถึงแม้โลกจะหันหลังให้กับเรา ขอแค่สัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างตัวเองให้ได้



โคลด์-บริว คุณบริว เพชรปะพิณ นิลวรรณ กับความคิดบวกที่ถือเป็นรางวัลของชีวิต และมุมมองของโลกที่โหดร้ายจะเปลี่ยนไป ชีวิตที่ขับเคลื่อนด้วยแรงใจสู่ธุรกิจที่เป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจ ร้านเครื่องประดับ S.O.A.B CLUB

รักในวันที่ยังบกพร่องนั่นคือการรักตัวเองที่แท้จริง

การที่เราจะอยู่ในโลกที่ทำใจรักตัวตนของเราได้นั้นมันยากจริงๆ การถูกปฎิเสธครั้งเเล้วครั้งเล่า กับการผู้ไม่เป็นที่รักหรืออะไรที่ดูจะห่วยในหลายๆเรื่อง  แม้กับที่ทำผิดพลาดอยู่อย่างงั้นซ้ำๆ เเละอีกมากมายที่มนุษย์คนนึงจะเป็นได้ ความคิดการมองโลกเรื่องการรักตัวเองที่ต่างมุมมองของคุณบริวทั้งหมด เธอบอกว่า เพราะเหตุผลที่พูดไปก่อนหน้ารึเปล่าที่ทำให้รักตัวเองไม่ได้สักที คุณบริวเธอให้แง่คิดกับปัญหาการรักตัวเองที่ดูเป็นไปได้ยากว่า หรือจริงๆเเล้วเราลืมไปว่าเราก็เเค่คนธรรมดาคนนึง เราไม่ได้มีพรวิเศษที่จะเสกให้ทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตรวมถึงตัวเราเองนั้นสมบูรณ์เเบบได้ เเละคงไม่มีวันที่จะได้รับพรวิเศษนั้น มันเเปลว่าถึงเวลาที่เราจะเริ่มรักตัวเองได้เเล้ว รักในวันที่ยังบกพร่องคือนิยามที่ถูกต้องที่สุดสำหรับเรา

“อยู่เคียงข้างตัวเอง”

ถ้าทั้งโลกหันหลังให้เรา เราต้องสัญญาว่าจะต้องอยู่เคียงข้างตัวเองให้ได้ จะไม่ตอกย้ำตัวเอง

ยืนหยัดเพื่อตัวเองให้ได้ ในวันที่รู้สึกไม่เหลือใคร เราจะยังมีเรา ไม่ทับถมตัวเองจากเสียงของคนอื่น

ออกจากsafe zone ปล่อยให้ตัวเองเรียนรู้ ถ้าผิดพลาดจะไม่โทษตัวเอง

แม้วันที่โลกหันหลังให้กับเรา ขอแค่อย่าหันหลังให้ตัวเอง

บางทีการที่โลกหันหลังให้กับเรามันอาจจะเป็นบทพิสูจน์ของตัวเราเองก็ได้นะ แม้โลกจะหันหลังให้กับเราแต่เธอผู้นี้ไม่เคยหันหลังให้กับตัวเอง เธอบอกว่าเวลาเจอเหตุการณ์ที่ยากลำบากและต้องผ่านพ้นไปให้ได้ด้วยตัวเองเหมือนกับว่าโลกหันหลังให้กับเรา ความรู้สึกมันเหมือนกำลังเฝ้าดูต้นไม้ที่กำลังจะเฉาตายต้องการถูกรดน้ำ ใสปุ๋ย มันก็คล้ายกับตัวเราที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่ แต่เราดันลืมไปว่าเราเองนี่แหละที่ต้องดูแลตัวเอง บางทีก็แค่หันหลังให้กับโลกบ้างเพราะอาจเป็นบทพิสูจน์ที่อาจจะทำให้เห็นภาพของมิตรภาพที่แท้จริงในวันที่ทุกอย่างหันหลังให้กับเรา

แค่เริ่มลงมือทำนั่นคือ “ความสำเร็จ”

ปัจจุบันทุกคนล้วนมีความกดดันมากมายโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ แล้วก็จะเกิดการตั้งประเด็นที่ว่าอายุน้อยต้องรีบประสบความสำเร็จ คุณบริวเธอบอกว่าลองเปลี่ยนเป็น อายุน้อยต้องรีบลงมือทำ จะเป็นประโยคที่ดีมากๆ บริวเข้าใจนะ สังคมที่เราอยู่ตอนนี้มันกดดันให้เราเป็นนักวิ่งในลู่ ทั้งๆที่เราเดินเอาก็ได้ บางที่เราไม่อยากวิ่งหรอก เเต่คนรอบตัววิ่งกันหมดเลย จนเราต้องถามตัวเองว่า ที่เดินอยู่เนี่ย มันเร็วพอรึยัง มันเลยเกิดเป็นประโยคนี้ขึ้นมา บริวเลยมองว่าที่จริงเเค่เริ่มลงมือทำ ก็สำเร็จไปเเล้วนะ

พรแสวงนั่นคือพรที่ชี้วัดความสำเร็จ

คนเรามักชื่อกันมาผิดๆกับคำว่าพรสวรรค์ มันไม่ใช่พรวิเศษที่ติดตัวมาเเต่เกิด เเต่คุณบริวบอกว่าคนที่มีพรสวรรค์คือ คนที่รู้ว่าตัวเองทำอะไรได้ดีเเล้วใช้พรเเสวงเรียนรู้ พยายามเเละพัฒนามัน เเละทุกคนมีสิ่งที่ตัวเองทำได้ดีอยู่เเล้ว อยู่ที่ว่ามองเห็นค่ามันหรือเอาจริงเอาจังกับมันรึเปล่า บริวเลยมองว่ามันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น เหมือนกับบางคนมีเนื้อเสียงที่เพราะ เเต่ดันไม่ชอบร้องเพลง มันก็เท่านั้น พรเเสวงต่างหากที่สำคัญเพราะเราเชื่อว่าพรข้อนี้ต่างหากที่เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ ไม่ใช่พรสวรรค์เลย 

ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร แต่พยายามอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องรึยัง

ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร ทำไมคนส่วนใหญ่ไม่คิดเเบบนี้ ? คุณบริวเธอบอกว่ามันจริงที่ความพยายามไม่ทำร้ายใคร เเต่มันก็จริงอีกว่าเราพยายามอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องรึยัง กว่าจะรู้ว่าเดินถูกหรือผิดทางก็อาจจะเหนื่อยเปล่าไปเเล้ว เเต่อย่างน้อยความพยายามก็ทำให้เรารู้ว่าที่ผ่านมาเราอดทนได้มากเเค่ไหน เข้มเเข็งเเค่ไหน เราเก่งมากเเค่ไหนที่ผ่านอุปสรรคต่างๆมาได้ 

ยอมรับและปล่อยมันไป หนทางของการก้าวไปข้างหน้า

ปล่อยตามธรรมชาตินั่นคือคำตอบของเธอ ถามตัวเองว่ารู้สึกอะไรอยู่ ยอมรับมัน เเละปล่อยมันไป คุณบริวเธอบอกว่าเราจะก้าวข้ามมันได้ง่ายขึ้น ถ้าเราเสียใจกับเรื่องนั้น อย่าไปฝืน ถ้าอยากร้องไห้ก็เเค่ร้องออกมา มันจะดีขึ้นเอง อาจจะใช้เวลาหลักวัน หรือหลักปี เเต่สักวันมันจะดีขึ้นเอง รู้สึกยังไงให้ทำเเบบนั้น วิธีเเบบนี้ช่วยเราได้ดีเลย ถึงเเม้มันจะช่วยได้ไม่นาน เเต่ดีกว่าเรารู้สึกเเต่ไม่ทำอะไรกับมันเลย

ประสบการณ์และความไม่รู้คือเส้นทางของความเก่ง

คุณบริวบอกว่าถ้าเรากล้ายอมรับว่าเราไม่รู้ เเปลว่าเราจะรู้อะไรมากขึ้นอีกเยอะ เเละเราจะกลายเป็นคนที่เก่งขึ้น ความไม่รูทำให้เรามักจะรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่งเอาซะเลย รู้สึกได้นะ เเต่จุดสำคัญมันอยู่ที่ว่าเรา take action กับมันยังไง ถ้าเรารู้สึกไม่เก่ง เเต่ไม่ทำอะไรกับมันเลย เราก็คงจะต้องเป็นเเบบนั้นจริงๆ บริวเลยบอกกับตัวเองตลอดว่า อย่าเพึ่งบอกว่าตัวเองไม่เก่งถ้ายังไม่ลองพยายามหรือศึกษามันให้มากขึ้น จะอีกกี่ครั้งก็ไม่เป็นไร มันทำให้เราจัดการกับความรู้สึกเฟลในหลายๆครั้งได้ เเละมันทำให้เราพัฒนาตัวเองได้มากขึ้น

เสียงของคนอื่นจะเบาลง ถ้าเราฟังเสียงของตัวเอง

ทริคการรู้จักตัวเอง คุณบริวบอกว่าการคิดเเบบสมการอาจจะช่วยได้นะ ตัวเเปร(คนอื่น)จะมีค่าเท่ากับ0 เพราะฉนั้นเเล้วคำตอบคือ ความคิดของคนอื่นไม่มีน้ำหนักอะไรเลย อยู่ที่ตัวเราเองล้วนๆ เราเคยอยู่ในจุดที่รู้สึกเคว้างคว้างเหลือเกิน หันไปทางไหนก็รู้สึกไร้คนที่รัก ครั้งนึงตอนนั้นยังเด็กบริวยังไม่เข้าใจเเละรับมือไม่ถูก บริวเลยเกลียดตัวเองเพราะทุกคนเกลียดเรา บริวคิดเเบบนั้นเพราะเราไม่ได้มองเห็นว่าตัวเองยังมีครอบครัวหรือเพื่อนที่ยังรักเราอยู่ จนโตขึ้นเเผลนั้นยังฝังอยู่ในใจลึกๆเเละคอยผุดขึ้นมาตอกย้ำเราเสมอ ไม่เคยสมานหายไปเลย เป็นเพราะเราให้เสียงของคนอื่นดังเหลือเกิน

ทุกวันนี้ขีดเส้นเเบ่งไว้เลยว่าใครคือคนที่เรารัก ใครคือคนที่รักเรา เเละคนอื่นอยู่ตรงไหน

เสียงของคนอื่นจะเบาลงทันทีเเละเเทบจะไม่มีความหมายอะไรเลย

ความสนุกของใครบางคนอาจอันตรายถึงชีวิตของใครสักคน

เธอบอกว่า ถ้าคิดว่าการบูลลี่หรือหยอกล้อรูปลักษณ์ภายนอกคนอื่นเป็นเรื่องตลก สนุกสนาน ต้องยอมรับให้ได้ถ้าหากเป็นฝ่ายที่โดนเอง ต้องรับให้ได้ว่ามันสนุกเเละสามารถหัวเราะไปกับพวกเขาได้ทุกครั้ง

บางครั้งการบูลลี่ไม่ใช่เพียงเเค่เเกล้งล้อกัน เเต่อันตรายถึงชีวิตอย่างที่เห็นในข่าวทุกวันนี้ บริวเห็นเเต่ละข่าวอายุยังน้อยๆกันอยู่เลย ในมุมมองของบริวที่บ้านค่อนข้างสำคัญเเละมีผลในการสอนเด็กๆตั้งเเต่พวกเขาเล็กๆ ให้เข้าใจเเละเห็นใจคนอื่นๆ ในฐานะมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน บางครั้งเด็กเติบโตไปเเละเข้าใจไปเองว่าคนที่เหมือนกัน=ปกติ คนที่ต่างออกไป ไม่ว่าเพศ รูปร่าง สัญชาติหรือศาสนา=เเปลกเเตกต่าง เราเลยมองว่าผู้ใหญ่ที่อยู่รอบข้างจึงมีความสำคัญที่จะปลูกฝังเด็กให้เข้าใจใหม่ได้ เเละมันจะมีผลต่อสังคมในอนาคตมากๆ มันคงน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลย

เพราะรักเหลือเกิน จนกลายเป็น toxic relationship 

คุณบริวเธอให้แง่คิดที่ว่าในความสัมพันธ์ทุกรูปเเบบมันเกิดความtoxicขึ้นได้ บางครั้งมันเเฝงมาในคำว่า “เพราะรักเหลือเกิน” บางครั้งก็เผลอเป็นพิษโดยไม่รู้ตัว เเม้เเต่ตัวเราเอง มันเกิดขึ้นได้หมดจริงๆ สำรวจตัวเองก่อนจะสำรวจใครว่าเราเผลอtoxicใส่ใครรึเปล่า เเละถ้าเราอยู่ในความสัมพันธ์toxicจริงๆ ขอให้เราใช้สมองมากกว่าหัวใจ ใช้สมองเเก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อให้หัวใจเรายังคงอยู่ ไม่เเตกสลายไปมากกว่านี้

ธุรกิจ SUNOFABEADCLUB ความชอบเล็กๆสู่การเติบโต

คุณบริวเธอมีพี่น้องฝาแฝด เธอมีความตั้งใจที่จะเปิดร้านสร้อยเมื่อ2ปีที่เเล้วคือมาจากความชอบเล็กๆของบริว 2คนกับฝาเเฝดเธอบอกว่า เธอไม่ได้ตั้งความหวังไว้ว่ามันจะต้องไปไกลขนาดไหน รู้เเค่ว่าเราชอบสิ่งนี้เเละคิดว่าเราจะอยู่กับมันได้เรื่อยๆ พอทำไปทำมา เรากลับพึ่งรู้เองว่าจริงๆเราต้องการอะไร กลายเป็นว่าเเพลนในหัวมันมีเยอะขึ้นเรื่อยๆเลย การเปิดร้านสร้อยนี้ขึ้นมา มันเหมือนกับได้พาเราไปรู้จักอะไรใหม่ๆเยอะมาก เเละรู้จักตัวเรามากขึ้นด้วย มันเลยเป็นมากกว่าธุรกิจไปเเล้ว สำหรับบริวและพี่น้องฝาเเฝด ร้านนี้เป็นเหมือนเพื่อนที่ดีคนนึงเลย มองไปไกลๆเราจะยังเห็นมันอยู่ในชีวิต ค่อยๆเติบโตไปด้วยกัน

ติดตามได้ที่ IG: co.coldbrew

อ่านเรื่องอื่น ๆ ได้ที่ CLEO Thailand และ FB > CLEO

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']