สุดยอดกันแดดสำหรับคนผิวเซนซิทีฟ วาระผิวเริ่ดแห่งปีต้องตัวนี้เลย!

หนึ่งในไอเท็มบิวตี้ที่เราจะไม่มีทางพลาดเลยก็คือกันแดดนี่ล่ะ ต้องเลือกกันแดดที่ใช่สำหรับผิวจริงๆ เท่านั้น บอกเลยว่าตั้งแต่ใช้กันแดดมา Clear Nose UV Sun Serum SPF 50+ PA++++  หนึ่งเดียวในใจเรายืนมาตลอด 2 ปีที่ได้ใช้!

2 ไอเท็มเมคอัพที่เราต้องเป็นสาวก  สวยจัดที่สุดแห่งมิติของหน้า

ผิวหน้าที่เปล่งประกายรับกับดวงตาใสคม เพียงแค่นี้ก็ทำให้สวยไปทั้งหน้า และสวยได้ทั้งวัน คลีโอขอนำเสนอเมคอัพ 2 ไอเท็มนี้จาก JUDYDOLL เมื่อได้ลองพียงครั้งเดียว มั่นใจมากว่าจะกลายเป็นสาวก!

รีวิว Roborock F25 ACE เครื่องดูดฝุ่นอัจฉริยะที่จะทำให้คุณหลงรัก! ปังมาก! มีแล้วอย่างฟิน!

เครื่องดูดฝุ่น Roborock F25 ACE คือรุ่นใหม่ที่ช่วยให้การทำความสะอาดบ้านง่ายและสนุกยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบที่ทันสมัย น้ำหนักเบา และระบบ AI ที่ช่วยปรับแรงดูดอัตโนมัติ บริการทำความสะอาดตัวเองอีกทั้งการควบคุมผ่านแอพ ทำให้เหมาะกับชีวิตยุคใหม่.

2 สเต็ปที่เบสิคดูแลผิวหน้า.. ให้ผิวกระจ่างใสและแข็งแรงด้วยสองไอเท็มนี้

ดูแลผิวหน้าให้ผิวสุขภาพดีไปยาวๆ เราทำ 2 สเต็ปนี้ก็เอาอยู่เลยนะ คือบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นแข็งแรง และเคลียร์ให้ผิวกระจ่างใสด้วยไอเท็มจากแบรนด์ NU FORMULA ที่มาเพื่อดูแลผิวให้คุณได้แบบเบสิครูทีน และเต็มไปด้วยสารสกัดที่ดีต่อทุกสภาพผิว เป็นสูตรที่อ่อนโยนและออกแบบมาเพื่อผิวคนเมืองร้อนโดยเฉพาะ




Love, Self Love

ลองเขียนระบายความรู้สึกในใจลงกระดาษ บางทีเราอาจเข้าใจตัวเองมากขึ้นก็ได้นะ 



เวลาที่มีเรื่องอะไรอยู่ในหัวเยอะ ๆ นี่มันก็หนักเหมือนกันนะ หนักทั้งสมองทั้งทั้งหัวใจเราเอง เพราะบางทีมันก็มากเกินไปจนทำเราไม่มีความสุข หม่นตั้งแต่ตื่นนอน ทำอะไรก็ไม่แฮปปี้ สิ่งที่ช่วยทำให้เรื่องในหัวที่ยุ่งเหยิงนั้นออกไปก็คือ การค่อย ๆ เอามันออกไปทีละเรื่อง บางครั้งเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสรุปเราคิดอะไรอยูาบ้าง เพราะมันตีกันเต็มไปหมด เรื่องงาน ความรัก เงิน การใช้ชีวิตเรา มันเกี่ยวข้องพันกันจนเป็นปมที่ต้องใช้เวลาคลายประมาณนึงเลย 

เราว่าแต่ละคนมีวิธีแสดงระบายความรู้สึกออกมาต่างกัน บางคนเลือกที่จะเล่าให้ใครสักคนฟัง อาจจะเป็นเพื่อนสนิท น้องสาวพี่สาว หรือคนรัก พูดสิ่งที่อึดอัดให้มันได้ออกไปบ้างก็ทำให้โล่งขึ้นเยอะ หรือบางคนอาจจะเลือกระบายด้วยการสาดบ่นทุกอย่างลงโซเชียล พิมพ์ยาว ๆ ลงเฟซบุ๊ค ลงทวิตเตอร์ หรือบางคนก็อาจจะแก้ปัญหาด้วยการเสพความสุขให้ตัวเอง ใช้เงินแก้ปัญหา พาตัวเองไปชอปปิง กินของอร่อย เมาให้เละ วิธีการระบายมันเลยขึ้นอยู่กับแต่ละคนมาก ๆ ว่าจะทำแบบไหน 

วันนี้ไปเจอมาอีกวิธีหนึ่ง และคิดว่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่อยากระบายทุกอย่างออกมา แต่ก็ไม่อยากให้ใครมารับรู้ วิธีที่ว่านี้ก็คือ การเขียนความรู้สึกทั้งหมดที่มีลงบนกระดาษ ถามว่าเราเคยลองแล้วรึยัง เราลองมาแล้วสองสามวัน มันเวิร์คเลยนะ ความรู้สึกมันต่างกับการที่เล่าเรื่องอะไรให้คนอื่นฟัง เพราะอันนี้จะไม่มีใครได้ยินสิ่งที่เราพูดเลย มีแต่เราเท่านั้นที่รู้ และมันก็ดีมาก ๆ เหมือนกันนะ

เราได้รู้ว่าที่จริงเรารู้สึกอะไร

ข้อดีของการเขียนบนกระดาษคือมันจะเป็นความลับที่มีแต่เราที่รู้คนเดียว เขียนแล้วเก็บไว้ไม่ต้องให้ใครอ่าน พอมีแค่เราคนเดียวที่รู้ เราก็ไม่ต้องกลัวว่าสิ่งที่เรากำลังจะระบายออกมามันจะดูแย่ ดูน่าสงสาร หรือเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคนอื่นไหม เราสามารถระบายออกมาได้เต็มที่ รู้สึกอะไรอยู่ตอนนั้นก็เขียนออกมาเลย ถ้ามันเยอะมาก ๆ ก็อาจจะเริ่มจากความรู้สึกความคิดที่มีอยู่ ​ณ ตอนนั้นก็ได้ แล้วค่อย ๆ ไล่ไปเรือย ๆ เดี๋ยวมันก็จะพรั่งพรูออกมาเอง แต่ที่สำคัยคือเราห้ามโกหกตัวเองนะ รู้สึกยังไง คิดอะไร เขียนลงมาให้หมด

เราได้ระบายมันออกมาทั้งหมด

วันอรกอาจจะเขิน ๆ หน่อย หรือไม่ก็ไม่รู้จะเขียนอะไร เขียนแล้วไม่ชิน แต่ถ้ามันเริ่มจุดติดแล้วเท่านั้นแหละ เขียนยาวติดสปีดแน่นอน ตอนที่เราเขียนออกมานนี่แหละ คือเวลาที่เรากลั่นกรองความรู้สึกของตัวเองแล้วพ่นมันออกมา พ่นออกมาจนในหัวเริ่มโล่ง ใจเราก็ไม่หนักอึ้ง แล้วก้จะเริ่มรู้สึกดีขึ้นนะ

ไม่มีใครมานั่งตัดสินในสิ่งที่เราคิด

อย่างที่บอกว่าการทำแบบนี้จะไม่มีใครมาเห็นนอกจากตัวเราเอง กระดาษใบนั้นที่เราเขียนจึงเป็นเหมือนจดหมายลับที่มีแต่เราเท่านั้นที่รู้ ข้อดีมาก ๆ ของการทำแบบนี้ก็คือ ไม่มีใครมาตัดสินปัญหาหรือความความรู้สึกเรา ไม่ว่าสิ่งที่เราเขียนลงไปมันจะเล็กหรือใหญ่ ร้ายหรือดีแค่ไหนก็ตาม ไม่ต้องมากังวลว่าเล่าไปแล้วคนฟังจะรู้สึกแปลก ๆ กับเรารึเปล่านะ จะมีคนเอาไปเล่าต่อไหม หรือเราต้องระวังคำพูดอะไรไหม แต่ถ้าเราระบายลงกระดาษก็ไม่ต้องกลัวว่าคนอื่นจะคิดยังไง

ใจเราจะสงบขึ้น

มันสงบกว่าการพูดเยอะมาก เราได้อยู่กับตัวเอง โฟกัสที่ความรู้สึกเราเป็นหลัก เหมือนได้เข้าไปสำรวจตัวเองในเวลาเดียวกัน เราจะนิ่งขึ้น ใจเราจะสงบ เรียกว่าเป็นการค่อย ๆ คลายความรู้สึกให้เบาลงมากกว่า ซึ่งความรู้สึกมันคือความโล่ง้เหมือนได้พูดระบายนั่นแหละ มันก็แอบต่างนิดนึงในแง่ของวิธีการ ที่แน่ ๆ คือเราจะได้รู้จักตัวเองมากขึ้น จริงใจกับความรู้สึกตัวเองมากขึ้น รู้ว่าเรารู้สึกอะไร แล้วเขียนลงไปบนกระดาษอย่างช้า ๆ 

กลับมาอ่านแล้วได้เห็นตัวเอง

ข้อดีอีกอย่างของการเขียนคือ เราสามารถย้อนกลับมาอ่านได้ เป็นความรู้สึกของเราในอดีตที่เรียลที่สุด เราจะได้เห็นพัฒนาการทางความรู้สึกที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ในทุกวัน บางวันอาจจะดีขึ้น บางวันก็อาจจะแย่ลง ก็ไม่เป็นไร มันคือการเรียนรู้ตัวเอง ยอมรับตัวเอง และทำให้ตัวเองได้เข้าใจอะไรมากขึ้น

เอนจอยกับโมเมนต์ตรงหน้า ไม่ต้องคิดถึงอดีต หรือกังวลไปกับอนาคต แล้วเราจะมองเห็นเรื่องราวที่พิเศษที่ซ่อนอยู่ในแต่ละวัน 

More

[ajax_load_more posts_per_page='6']